อู่จี๋เทียนจุนพูดจบ ปราชญ์หวงกู่ก็ตามมาพูดเสริมว่า “ใช่แล้ว, เจ้าคางคกท้าทายต่อหน้าคนมากมาเช่นนี้ พี่เซียว ท่านต้องไม่ยอมทนให้มันผ่านไปได้”
ปราชญ์ไท่เชิงกล่าว “เจ้าคางคกตัวนั้นมันกำเริบเสิบสานจริงๆ แม้แต่พี่เซียวยังไม่เกรงกลัว ถ้าเป็นข้า ข้าจะจัดการมันอย่างแน่นอน”
แมร่ง ยังจะหลอกข้าอีกหรือ?
หรือว่าข้ามีหน้าตาที่น่าถูกกลั่นแกล้ง?
เซียวฉงโหลวกล่าวว่า “ข้าเป็นคนที่จิตใจกว้างขวาง ไม่จำเป็นต้องไปอารมณ์เสียกับสัตว์ต่ำต้อย ถ้าข้าไปทะเลาะกับมัน จะเท่ากับว่าข้าก็กลายเป็นสัตว์ต่ำต้อยเหมือนกัน”
ปราชญ์ฮุ่นตุ้กล่าวว่า “พี่เซียว ท่านคิดเช่นนี้เป็นความคิดที่ผิด ไม่ใช่แค่ผิด แต่ยังผิดมหันต์”
ปราชญ์ฮุ่นตุ้นพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้าลบสถานะของท่านไป ท่านก็ยังเป็นลูกผู้ชาย”
“ลูกผู้ชายจะให้สัตว์ต่ำต้อยมาท้าทายได้อย่างไร?”
“พี่เซียว ไม่ใช่ว่าข้าต่อว่าท่าน ลูกผู้ชายตัวจริงควรจะจัดการมันไปให้สิ้นซาก!”
ข้า.......
เซียวฉงโหลวหน้าแดง คร่ำเครียด จนแทบพูดไม่ออกชั่วขณะ
เฟิงว่านหลี่รีบพูดว่า “พี่เซียว ท่านคือผู้นำของสำนักปู่เทียน ถ้าถูกเจ้าคางคกท้าทายแล้วยังไม่กล้าทำอะไร นั่นไม่ใช่จะทำให้คนทั้งโลกหัวเราะเยาะเหรอ?”
“พวกเขาจะพูดว่า ดูสิเซียวฉงโหลวไม่กล้าสังหารเจ้าคางคกเลยจริงๆ ช่างเป็นผู้นำที่ไร้ค่า”
“คางคกเพียงตัวเดียวกล้าท้าทายเซียวฉงโหลว แต่เซียวฉงโหลวกลับไม่กล้าทำอะไรมัน นี่มันยังไงกัน? ยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ไหม?”
“เซียวฉงโหลวทำให้สำนักปู่เทียนเสื่อมเสียชื่อเสียงจริงๆ…”
“พอแล้ว!” เซียวฉงโหลวตะโกนเสียงดัง แทรกคำพูดของเฟิงว่านหลี่ “ก็แค่ฆ่าคางคกมีอะไรที่ไม่กล้าล่ะ?”
“ข้าไม่เพียงแต่จะฆ่าเจ้าคางคกนั้น ข้ายังจะฆ่าหยุนซานด้วย”
“เทียนจุน เมื่อข้าฆ่าพวกเขาแล้ว ขอให้ท่านมอบอาวุธจักรพรรดิที่ท่านสัญญาไว้ให้ข้าด้วย”
“และเมื่อทำลายสำนักดาบชิงอวิ๋นได้สำเร็จแล้ว ผลประโยชน์ที่ได้ต้องแบ่งให้ข้าหนึ่งส่วน”
อู่จี๋เทียนจุนตอบอย่างมั่นใจว่า “ไม่มีปัญหา”
“ฮึ!” เซียวฉงโหลวหายใจออกด้วยเสียงเย็นชา ก้าวลงจากเรือรบทองสัมฤทธิ์ มายังค่ายกลสงครามจักรพรรดิ
อู่จี๋เทียนจุนและปราชญ์ทั้งสามแลกมองตากัน และพวกเขาก็ยิ้มให้กันอย่างเข้าใจกัน
พวกเขาใช้ทุกวิธีเพื่อเกลี้ยกล่อมเซียวฉงโหลวให้ลงมือ เพราะมีเป้าหมายเดียวคือ การทดสอบไพ่ตายใบสุดท้ายของหยุนซาน
โดยทั่วไปไพ่ตายใบสุดท้ายมักจะเป็นท่าไม้ตายหรืออาวุธที่เต็มไปด้วยอันตราย พวกเขาจึงต้องการให้เซียวฉงโหลวลองเอาตัวเข้าเสี่ยง
หรืออีกนัยหนึ่ง คือพวกเขาต้องการให้เซียวฉงโหลวเป็นลูกกระสุน
แน่นอนว่า หากหยุนซานไม่มีไพ่ตายใบสุดท้าย พวกเขาก็จะไม่ยอมให้เซียวฉงโหลวฆ่าหยุนซาน
อู่จี๋เทียนจุนจะไม่ส่งมอบอาวุธจักรพรรดิให้กับเซียวฉงโหลว และปราชญ์ทั้งสามก็จะไม่ยอมให้เซียวฉงโหลวได้รับส่วนแบ่งของผลประโยชน์เพิ่มอีกหนึ่งส่วน
สำนักปู่เทียนแข็งแกร่งมากแล้ว หากได้ส่วนแบ่งเพิ่มอีกหนึ่งส่วน ความแข็งแกร่งก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีสำหรับสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์
“ตุง!”
ซียวฉงโหลวก้าวลงไปในค่ายกลสงครามจักรพรรดิ เขารวบผมและสวมมงกุฎทอง มือประสานอยู่ที่ด้านหลัง ร่างกายส่องแสงศักดิ์สิทธิ์เหมือนเทพเจ้าที่ลงมาจากสวรรค์
เขายืนอยู่ที่นั่นราวกับเป็นภูเขาที่สูงหมื่นเมตร ทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวเหน็บในใจ
เหมือนกับว่าในสายตาของเซียวฉงโหลว คนอื่นๆมีขนาดเล็กน้อยเหมือนฝุ่นผง
“แข็งแกร่งมาก!”
เยี่ยชิวรู้สึกทึ่งในใจ
แม้ว่าเซียวฉงโหลวยังไม่ได้ลงมือ แต่พลังอำนาจจากเขาทำให้คนรู้สึกเสียวสันหลัง
ปราชญ์ผู้แข็งแกร่งกำลังจะลงมือแล้ว ทำให้อมตะชางเหม่ยรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี
“ไอ้เด็กเปรต สถานการ์ไม่ค่อยจะดี ไม่งั้น... เราหนีไปเลยดีไหม? “อมตะชางเหม่ยมีความตั้งใจที่จะล่าถอยอีกครั้ง และส่งเสียงในใจ
สีหน้าเยี่ยชิวเรียบเฉย และตอบกลับว่า “อย่าตกใจ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...