เกี่ยวข้องกับพระราชวังต้องห้ามหรอ?
เยี่ยชิวใจเต้นแรงและถามขึ้นว่า:“ข่าวลับสุดยอดอะไร?”
อมตะชางเหม่ยถามเยี่ยชิวว่า:“เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้ารู้จักประตูดาบไหม?”
ประตูดาบ?
เยี่ยชิวพูดอย่างงุนงง:“ประตูดาบ?มันคืออะไร?”
ถังเฟยที่อยู่ข้างๆ ก็อธิบายขึ้น:“เฉสวนประตูดาบนั้นเป็นกองกำลังหนึ่ง เมื่อยี่สิบปีก่อนนั้นถูกพ่อของเจ้า เยี่ยหวู่ซวง ทำลายลง”
“ข้าเห็นมันในข้อมูลลับสุดยอดของวังซาตาน”
เยี่ยชิวถามอมตะชางเหม่ยว่า:“จะพูดถึงกองกำลังที่ถูกทำลายไปแล้วทำไม?”
อมตะชางเหม่ยพูดขึ้น:“กองกำลังประตูดาบถูกทำลายลงแล้วก็จริง แต่ก็มีพวกที่หนีรอดไปได้”
“และดันเป็นปลาตัวใหญ่ซะด้วย”
“ตอนนั้นพ่อของเจ้าทำลายกองกำลังประตูดาบได้ก็จริง แต่หัวหน้าของมันจูเก่อหยุนหลบหนีไปได้”
เยี่ยชิวตาหรี่ลงเล็กน้อย เมื่อยี่สิบปีก่อน พ่อของเขาถูกยอมรับและขนานนามว่าเป็นเทพอันดับหนึ่ง แต่จูเก่อหยุนสามารถหลบหนีจากเงื้อมมือของพ่อเขาได้นั้น แสดงให้เห็นว่าชายคนนี้มีความสามารถมาก
อมตะชางเหม่ยพูดต่อว่า:“ข้าว่าเจ้าควรรู้สาเหตุที่ปักกิ่งวุ่นวายในตอนนั้นนะ ในปีนั้นจูเก่อชิงทำนายไว้ว่า เจ้าเป็นหายนะจากสวรรค์และชักชวนให้ตระกูลใหญ่ ๆ มาฆ่าเจ้า”
“เพื่อเจ้าเยี่ยหวู่ซวงเลยยอมที่จะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก”
“จูเก่อชิงคนนั้นก็คือพี่ชายแท้ๆของจูเก่อหยุนหัวหน้ากองกำลังประตูดาบ”
เยี่ยชิวรู้สึกตกตะลึง เพราะถ้าอมตะชางเหม่ยไม่พูดขึ้น เขาก็คงไม่รู้ความลับนี้จริงๆ
อมตะชางเหม่ยพูดต่อ:“จูเก่อหยุนเป็นอัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้ ตอนเขาอายุสิบเจ็ดปี เขาก็สามารถสร้างกองกำลังประตูดาบได้แล้ว”
“และตอนที่เขาหลบหนีพ่อของเจ้าได้ เขาอายุเพียงสิบเก้าปีเท่านั้น”
เฮือก!
เยี่ยชิวสูดลมหายใจเข้าลึก
จูเก่อหยุนอายุเพียงสิบเก้าปี ก็สามารถหลบหนีจากมือของเยี่ยหวู่ซวงได้ ช่างเหลือเชื่อจริงๆ
“แล้วที่พูดเกี่ยวกับพระราชวังต้องห้าม นี้มันเกี่ยวข้องยังไงกัน?”เยี่ยชิวถาม
อมตะชางเหม่ยไม่ตอบโดยตรง แต่ถามถังเฟยว่า:“หมาป่าตาขาว เจ้าอยู่ในวังซาตานและมีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลหรือพวกบันทึกของปรมาจารย์ของโลก เจ้ารู้ที่มาของจูเก่อหยุนหรือไม่?”
ถังเฟยพูดขึ้น:“ก็มีบันทึกไว้นะ แต่ไม่ละเอียด พวกชีวิประวัติก็ไม่ละเอียด ส่วนพลังของเขานั้นน่าจะอยู่ที่ประมานอันดับมังกรที่สามประมานนี้แหละ เพราะเขาไม่เคยเข้าร่วมในการแข่งขันจัดอันดับมังกรเลย ดังนั้นบอกได้ไม่ชัดเจนนัก”
เมื่อยี่สิบปีที่แล้วพลังของเขาอยู่ที่ประมาณอันดับมังกรราวๆลำดับที่สาม?
เยี่ยชิวรู้สึกประหลาดใจ ถ้าเป็นเช่นนั้นล่ะก็พรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้ของจูเก่อหยุนนั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าแชมป์โหวเซียวจิ่วเลยสิ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อมตะชางเหม่ยพูดต่อนั้นทำให้เขาประหลาดใจมากขึ้นไปอีก
“รู้เยอะพอตัวเลยนิ ข้านึกว่าคนในวังซาตานจะไม่รู้อะไรซะอีก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เท่าไหร่แล้วนะ”
อมตะชางเหม่ยยังคงพูดแซะต่อว่า:“รู้ไหมว่าทำไมจูเก่อหยุนไม่เข้าร่วมการแข่งขันจัดอันดับมังกร ?”
“นั่นเป็นเพราะเขาไม่สนใจที่จะอยู่ในรายชื่อของลำดับมังกร”
“ในสายตาของเขา รายชื่อลำดับมังกรนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ”
“เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว พลังที่แท้จริงของจูเก่อหยุนนั้นแข็งแกร่งกว่าเซียวจิ่วด้วยซ้ำ ข้าคิดว่าสามารถอยู่ในลำดับเทพที่ห้าได้เลย”
อะไรนะ?
ใบหน้าของเยี่ยชิวและถังเฟยดูหวาดกลัวขึ้น
จูเก่อหยุนน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?
“ตาเฒ่า แล้วเจ้ารู้ได้ยังไง?”
อมตะชางเหม่ยตอบกลับว่า:“ครั้งหนึ่งข้าเคยไปที่ประตูดาบเพื่อปล้นสุสาน.....และเจอกับจูเก่อหยุนโดยบังเอิญ”
“ตอนนั้นข้าไม่รู้จักจูเก่อหยุน แต่ข้าเห็นว่าเขานั้นมีกระดูกที่ยอดเยี่ยม และเป็นมีศิลปะการต่อสู้ที่ดี ข้าเลยอยากเก็บเขาไว้เป็นศิษย์”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...