ด้วยคำทักทายนั้น ทำให้หนานกงเจาอดไม่ได้ที่จะสั่น และประตูก็เปิดออกจากด้านใน " ดึกดื่นปานนี้ จะทำอะไร......"
เย่ชูวเสวียที่เดิมทีกำลังรู้สึกหงุดหงิด พอเห็นว่าเป็นหนานกงเจาที่ยืนอยู่หน้าประตู เสียงของเธอก็เบาลงเยอะมาก
" คุณมาที่นี่ได้ยังไง? "
หนานกงเจายืนเก้งๆกังๆอยู่ตรงหน้าประตู พูดอย่างตะกุกตะกัก " คือว่า......"
“เหม็นมากเลย! " ไม่รอให้หนานกงเจาพูด เย่ชูวเสวียก็ปิดจมูกแบะเตรียมจะปิดประตู
หนานกงเจารีบยื่นมือไปขวางประตูที่กำลังปิดตรงหน้า " ชูวเสวีย ฟังฉันอธิบายก่อน "
" พูดสิ! " เย่ชูวเสวียปล่อยมือ เบิกตากว้างแล้วมองไปที่เขา
หนานกงเจาเกาหนังศีรษะ และสายตาก็เหลือบไปเห็นมู่เวยเวยที่กำลังมองมาทางนี้ จึงหันไปถามเบาๆว่า " พวกเราเข้าไปคุยด้านในได้ไหม?"
" คุณป้า คุณลุงละ? " เย่ชูวเสวียกำลังจะปฏิเสธ แต่เสียงของเสี่ยวอวี้หลินก็ดังมาจากห้องนั่งเล่นสะก่อน
เธออดทนอดกลั้น หลีกทางแล้วพูดกับหนานกงเจาว่า " เข้ามาสิ "
ตัวมู่เวยเวยถึงจะอยู่ที่ห้องนั่งเล่น แต่ใจกลับลอยไปอยู่ที่เย่ชูวเสวียตั้งนานแล้ว พอเห็นว่าหนานกงเจาจะเข้าไปด้านใน อยากจะเอ่ยปากขวางไว้มาก แต่ว่าโดนเสี่ยวอวี้หลินขัดจังหวะขึ้นสะก่อน
" โห ละครเรื่องนี้บนอินเทอร์เน็ตอัพเดทใหม่ถึงตอนที่สามสิบแล้วนะ แต่ทำไมในทีวีถึงฉายถึงแค่ตอนที่ยี่สิบห้าอยู่ " ท่าทีที่แตกตื่นของเสี่ยวอวี้หลินดึงดูดความสนใจของมู่เวยเวย เพื่อช่วยดึงเวลาให้เพื่อน
" ไม่น่าละ การแสดงความคิดเห็นที่ร้อนแรงบนอินเทอร์เน็ต แต่ฉันกลับมึนงง " มู่เวยเวยถูกดึงดูดได้สำเร็จ และลืมเรื่องบนห้องนั้นไปเลย
" ชูวเสวีย ฉันผิดเอง ยังไม่พออีกหรอ? "หนานงเจาที่เมาเล็กน้อยมองไปที่เย่ชูวเสวีย และอ้อนวอนขอให้เธออภัยให้
" ยังไม่พอ?หนานกงเจานี่คุณไม่เต็มใจหรอ? ถ้าคุณไม่เต็มใจ ฉันก็ไม่ได้บังคับนะ ออกจากห้องฉันไปเดี๋ยวนี้เลย! " เย่ชูวเสวียผลักหนานกงเจาออกไปที่ประตูอย่างแรง
เขาไม่ใช่ไม่เข้าใจคนอย่างหนานกงเจา วันนี้ที่เสี่ยวอวี้หลินมาร่วมแสดงด้วย เธอก็รู้เลยทันที นี่ต้องเป็นเพราะเสี่ยวอวี้หลินเรียกเขามาแน่ๆ ไม่อย่างนั้นหัวสมองที่เต็มไปด้วยท่อนไม้อย่างหนานกงเจาคิดวิธีนี้ไม่ออกหรอก
" ชูวเสวีย หยุดงี่เง่าได้แล้ว ให้อภัยฉันเถอะ ได้ไหม? "หนานกงเจาใช้น้ำเสียงขอร้องอ้อนวอน
" หนานกงเจา! ฉันงี่เง่าตรงไหน จนถึงตอนนี้คุณคิดว่าฉันงี่เง่า ฉันไม่มีเหตุผลอย่างนั้นหรอ?" เดิมทีเย่ชูวเสวียที่ยังไม่โกรธเท่าไหร่พอได้ยินประโยคนั้นของหนานกงเจาเข้าก็โกรธขึ้นสมองเลยทันที โกรธจนถึงขีดสุด
" เปล่า......ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น ชูวเสวีย เธอก็รู้ว่าฉันพูดไม่เก่ง ฉันก็เหมือนก้อนหิน เธออย่าถือสาฉันเลย จะได้ไหม " หนานกงเจาทำตัวไม่ถูก ที่ตัวเองมาเพื่อมาอ้อนวอนขอร้องเธอแท้ๆ แต่ทำไมกลับยิ่งทำให้เธอโกรธขึ้นไปอีกละ
" อย่ามา แบบท่านนะหรอพูดไม่เก่ง ตอนที่ยั่วโมโหฉัน อย่าให้ต้องพูดว่าคุณนะปากเก่งปากร้ายสุดๆเลย " หนานกงเจาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดี สายตาเย่ชูวเสวีย เธอเองก็ไม่อยากทรมานหนานกงเจามากเกินไป
" ชูวเสวีย เธออย่าพูดอะไรแบบนี้ได้ไหม วันนี้ฉันมาด้วยความจริงใจ "
" จริงใจ? ขอโทษด้วยนะ ฉันมองไม่เห็นเลยสักนิด นายดูสาระรูปที่เมาของนายตอนนี้สิ นี่มาขอโทษหรอ? "กลิ่นเหล้าบนตัวของหนานกงเจาทำให้เย่ชูวเสวียไม่พอใจ
" ฉัน......" ตัวเองมาเพื่อขอโทษแท้ แต่หนานกงเขาคิดไม่ถึงเลยว่าถูกจับได้และยังถูกตั้งข้อหาใหม่อีก
"มีอีกเรื่อง! อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ วันนี้ที่นายมาที่นี่เพราะเสี่ยวอวี้หลินใช้ให้นายมา "
" ไม่ใช่! เป็นเพราะฉันอยากมาเองต่างหาก แต่ว่าก็แค่บังเอิญเจอเขาก็เท่านั้นเอง " หนานกงเจาที่ถูกจับได้ก็รับหาข้ออ้าง
" โกหกอีกแล้ว! " แค้อ้าปากเย่ชูวเสวียก็เห็นถึงลิ้นไก่ของเขาแล้ว
หนานกงเจาที่กำลังเสียเปรียบมากขึ้นเรื่อยก็เตรียมเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ทันที " ชูวเสวีย ก็ฉันบอกแล้วว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ไง! "
" นายดุฉัน " เย่ชูวเสวียมองชายตรงหน้าที่จู่ๆอารมณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และไม่รู้ว่าทำอะไรผิด
" ฉันมาขอให้เธออภัยให้ฉันด้วยความจริงใจ แต่เธอกลับมาหาเรื่องฉันสารพัด " หนานกงเจาแสร้งทำเป็นโกรธ
" หนานกงเจา นายมันบ้าไปแล้ว "
" ฉันมีสติดี ในเมื่อเธอไม่ให้อภัยฉัน ก้อย่ามาหาว่าฉันไม่เกรงใจละ!"
หนานกงเจายกมือขึ้น
" นาย......นายจะทำอะไร? "เย่ชูวเสวียหลับตาด้วยความกลัว รอฝ่ามือนั้นตบลงมาที่หน้า
เมื่อเห็นท่าทีที่กลัวเหมือนลูกแกะน้อยองเย่ชูวเสวีย หนานกงเจาก็ยกยิ้มมุมปาก และดึงตัวผู้หญิงตรงหน้าเข้ามากอดทันที ขอโทษอีกครั้ง " ขอโทษนะ "
"อู้วววว......ตกใจแทบแย่ ฉันก็คิดว่านายจะตบฉันจริงๆสะอีก " เย่ชูวเสวียที่อยู่ในอาการวิตกกังวล ก็ผ่อนคลายขึ้นทันที แต่ก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ เมื่อกี้เธอคิดว่าหนานกงเจาจะตบเธอจริงๆ
" ยัยบื้อ ฉันจะกล้าทำแบบนั้นได้ยังไงกัน "
เย่ชูวเสวียหน้าแดง " นาย......นายปล่อยฉันนะ "
" ไม่ปล่อย " ไม่สนว่าผู้หญิงในอ้อมกอดจะพยายามดิ้นแค่ไหน แต่หนานกงเจาก็กอดเธอไว้แน่น และมือของเขาก็ลูบไล้ขึ้นลงอย่างควบคุมไม่ได้
" ฉันยังไม่ได้ยกโทษให้นายนะ อย่ามาเอาเปรียบฉัน "
พอทะเลาะกัน คนที่เสียใจก็คือทั้งสองคน ในเวลาเดียวกันคนที่รู้สึกเหงา โดดเดี่ยว ก็เป็นทั้งสองคนอีก จริงๆแล้ว แค่อ้อมกอดนี้ก็ทำให้เย่ชูวเสวียใจอ่อนแล้ว แต่เธอก็ไม่อยากเสียหน้า
คำพุดประโยคนั้นของเย่ชูวเสวียก็ได้เตือนสติหนานกเจา เขาก้มหัวเข้าไปใกล้ใบหน้าของเย่ชูวเสวีย พลางหายใจและกระซิบว่า " เธอแน่ใจนะว่ายังไม่ยกโทษให้ฉัน? "
การเปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้เย่ชูวเสวียคาดไม่ถึง เมื่อกี้ยังเป็นท่อนไม้แข็งๆอยู่เลย ทำไมในชั่วพริบตาก็กลายเป็นปรมาจารย์ขึ้นมาเฉยเลย
การกระทำที่บ้าคลั่ง คำพูด การเคลื่อนไหวของมือ ที่เกิดขึ้นทุกรูปแบบนี่มันเป็นเหมือนปีศาจบ้าคลั่งที่จีบสาวในผับบาร์ชัดๆ
จริงๆแล้วเธอไม่รู้เลยว่าก่อนหน้านี้ก่อนที่หนานกงเจาจะชอบเธอ เขาก็เป็นผู้ชายเจ้าชู้มาก่อน ความสามารถทักษะในการล่อสาวนั้นความสามารถเฉพาะตัวของเขาอย่างแท้จริง
แต่ว่าเมื่อเขาได้พบกับคนที่เขารัก เขาก็เลยกลายเป็นคนโง่เขลาไปเองโดยปริยาย แต่ก่อนตอนที่ยังไม่เมาเขาเป็นคนที่เอาไงเอากัน แต่พอมาวันนี้กลับต้องพึ่งฤทธิ์แอลกอฮอล์เพื่อทำตามคำเรียกร้องของหัวใจ
" นายปล่อย......ปล่อยฉันนะ! "ปลายจมูกของเธอมีเสียงหายใจของหนานกงเจาอยู่ในระยะประชิด กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆผสมกับกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์บนตัวเขา ทำให้เธออ่อนระทวยไปชั่วขณะ
ก่อนหน้านี้ที่เธอทำเป็นรังเกียจกลิ่นแอลกอฮอล์ในตัวเขา จริงๆแล้วเธอก็แค่อยากต่อปากต่อคำกับเขา ตอนนี้อยู่ใกล้กันขนาดนี้ ประสาทสัมผัสของเธอก็ชัดเจนขึ้น แต่ที่น่าแปลกคือ กลิ่นบนตัวของเขาไม่ได้เหม็นอย่างที่คิด กลับรู้สึกว่ามันกลิ่นหอมดีด้วยซ้ำ
" ถ้าอย่างนั้นเธอยกโทษให้ฉันได้ไหม? " หนานกงเจากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นไปอีก
เย่ชูวเสวียสัมผัสได้ถึงความอันตรายขึ้นในทันที เธอถอยหลังไปครึ่งก้าว " ถ้านายไม่ยอมปล่อยฉัน ฉันจะเรียกให้คนมาช่วยละนะ อย่าลืมนะว่าพ่อกับแม่ฉันอยู่ข้างนอก! "
หนานกงเจาผงะไปชั่วขณะ และนิ่งคิดไปสักพักราวกับว่าสติได้หลุดลอยจากตัวไปแล้ว " ก็ถ้าเธอไม่ยกโทษให้ฉัน ฉันก็จะไม่ยอมปล่อย ไม่ว่าใครจะเข้ามาฉันก็จะทำไว้แบบนี้! "
" นายบ้ารึเปล่า? " เย่ชูวเสวียตกใจ
เธอไม่คิดว่าหลังจากที่หนานกงดื่มแอลกอฮอล์ไปแล้ว จิตใต้สำนึกเขาจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ เธอไม่เรียกให้คนมาช่วยหรอก เพราะว่าเธอชอบเขา!
" เธอเลือกเองนะ อย่ามาโทษฉันละ! "
" อะไร......."
เย่ชูวเสวียเงยหน้าขึ้นเพื่อที่จะได้ถามให้ชัดเจน แต่หนานกงเจาไม่รอให้เธอได้ถาม เขากดตัวเธอลงไป แล้วประกบริมฝีปากด้วยสัมผัสที่อ่อนโยนลงไปบนริมฝีปากเธอ
" นาย......"
นานกงเจาใช้ช่วงที่เธอกำลังจะเปิดปากพูด จูบเธออย่างลึกซึ้งมากขึ้น ทำให้คำพูดต่างๆที่เย่ชูวเสวียกำลงจะพุดถูกกลืนหายเข้าไปกับท้อง
เขาใช้ข้ออ้างจากการเมา ซุกไซร้ร่างกายเธออย่างร้อนแรง ทำให้เธอขาดอากาศและหายใจลำบาก ความรู้สึกหายใจไม่ออกแบบนั้น ทำให้ทั้งสองคนเร่าร้อนขึ้นมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...