ชายมีหนวดพุ่งเข้าใส่เสี่ยวอวี้หลินราวกับสัตว์ร้าย
แต่เสี่ยวอวี้หลินก็ยกเท้าขึ้นเตะเขาล้มลงบนพื้นได้อย่างง่ายดาย
สีหน้าของชายมีหนวดบิดเบี้ยว ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “ไอ้สาระเลว”
“คนที่สาระเลวไม่ใช่ฉัน แต่เป็นแกที่ไม่รู้จักตัวเอง แล้วก็เจ้านายที่ร้ายกาจของแก ตอนนี้ตรงหน้าของแกมีแค่สองทางให้เลือก แกจะร่วมมือกับฉัน ช่วยขนของฉันออกมา หรือแกจะตายไปพร้อมกับครอบครัวของแก”
เมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวอวี้หลิน ชายมีหนวดก็นิ่งนานมาก
เมื่อเห็นอย่างนั้นเสี่ยวอวี้หลินจึงหันหลังเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อน”
ชายมีหนวดรีบรั้งเขาไว้ สายตาเต็มไปด้วยความสับสน
“ตัดสินใจแล้วหรอ”
“ถึงฉันจะบอกทุกอย่างกับแก แกก็ไม่มีทางช่วยคนของนายได้”
เขาใจกระตุก
“ฉันมีความสามารถแน่นอน บนโลกใบนี้ไม่ใช่มีแค่ที่หกที่กุมท้องฟ้าไว้”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นม่านตาของชายมีหนวดก็หดลง
หลังจากที่ต่อสู้ในใจอย่างดุเดือด สุดท้ายเขาก็ตัดใจพูดว่า “ได้ฉันจะบอกนาย แต่ถ้าแกไม่ทำตามที่พูด ถึงเป็นผีฉันก็ไม่ปล่อยแกไปแน่”
“อย่าพูดไร้สาระ บอกที่แกรู้ทุกอย่างมา”
ชายมีหนวดหายใจเข้าลึกๆและพูด “คนของนาย ที่ติดต่อกับฉันคือป้าที่ทำอาหาร”
ผู้หญิงอัปลักษณ์คนนั้นหรอ
เสี่ยวอวี้หลินขมวดคิ้ว “หึ มองคนที่ภายนอกไม่ได้จริงๆ”
“ป้าคนนั้นไม่ใช่คนร้าย แต่เธอรับเงิน เพื่อช่วยส่งข่าว”
“แกคิดว่าฉันโง่หรอ ป้าธรรมดาคนหนึ่งจะลักพาตัวคนออกไปได้ยังไง เหมือนแกจะไม่พูดความจริงนะ”
ใช่มีหนวดก้มหน้าลง ไม่พูดอะไรอีก “ฉันบอกทุกอย่างที่ฉันรู้ให้นายแล้ว ที่ฉันรู้ก็มีแค่นี้”
หลังจากเสี่ยวอวี้หลินฟังจบเขาก็ไม่ถามต่อ หันหลังเดินออกไปทันที
มู่ยู่วฉีรออยู่ข้างนอก เมื่อเห็นเสี่ยวอวี้หลินเดินออกมาก็รีบถาม “เป็นยังไงบ้าง”
เสี่ยวอวี้หลินบอกเรื่องที่ตัวเองรู้ให้มู่ยู่วฉีฟังอีกรอบ และสีหน้าของมู่ยู่วฉีก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันใด
“นายเชื่อคำพูดของมันไหม”
“ครึ่งครึ่ง”
“มาถึงขนาดนี้แล้วยังเจ้าเล่ห์อยู่อีก”
“ตอนนี้เราไม่ควรมาเสียเวลากับผู้ชายคนนี้แล้ว เราหาตัวแม่บ้าน แล้วตรวจสอบดีกว่า”
“ได้เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉัน”
วันถัดไป
การเสียลู่ซี่ซึ่งเป็นหมากตัวสำคัญ ทำให้การลงทุนล้มเหลว และเสียเปรียบในการแข่งขันกันในตระกูล หัวหน้าของลูซี่รู้สึกมืดแปดด้าน
และก็มีเรื่องให้เขาปวดหัวขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่ง
เมื่อมองไปที่ชายชาวตะวันออกในชุดสูท สวมรองเท้าหนัง คิ้วของเถ้าแก่ก็ขมวดขึ้น
“ทำไมคุณมาอีกแล้ว”
เสี่ยวอวี้หลินนั่งลงอย่างสง่างาม
ใบหน้าเผยรอยยิ้มเล็กน้อย “เรื่องก่อนยังไม่สะสาง ผมเลยมาคุยกับคุณนิดหน่อย”
เถ้าแก่หน้าบึ้ง “ผมถอนตัวออกจากโครงการแล้ว ผลประโยชน์ทั้งหมดเป็นของคุณ คุณยังจะเอาอะไรอีก”
เสี่ยวอวี้หลินยังคงยิ้มถึงแม้เถ้าแก่จะโกรธแล้ว “แต่ผมไม่ต้องการเงิน แถมยังช่วยคุณบริหารบริษัทได้ แต่คุณต้องช่วยผมโดยไม่มีเงื่อนไข”
ถึงแม้ข้อเสนอนี้จะน่าสนใจมาก แต่เถ้าแก่ก็มองไปที่เสี่ยวอวี้หลินอย่างระมัดระวัง “กล้าสัญญากับผมขนาดนี้แสดงว่าเรื่องนี้ต้องไม่ง่ายที่จะจัดการแน่ๆ”
“สำหรับคุณมันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แค่หาใครคนหนึ่ง”
“หาใคร”
“ผู้หญิงของผมเซี่ยอันน่า”
เถ้าแก่ถาม “เธอถูกลักพาตัวหรอ”
“ใช่”
“ใครลักพาตัว”
“พี่หกในเจียงหู”
“พี่หก....”
สีหน้าของเถ้าแก่ดูสับสน ราวกับไม่เคยได้ยินชื่อคนนี้
“ตาของเขาเป็นสีม่วง”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นสีหน้าของเถ้าแก่ก็เปลี่ยนไป เขารีบปฏิเสธ “ผมไม่รับข้อเสนอนี้”
ดวงตาของเสี่ยวอวี้หลินมืดลง “คุณกลัวแล้วหรอ”
“ผมรู้จักคนที่คุณพูดถึง เขาเป็นคนจิตใจโหดเหี้ยม ไม่สนใจศีลธรรมใดๆ ใครมีปัญหากับเขา มัคจะจบชีวิตลงอย่างน่าอนาจ ฉันไม่อยากเอาตัวเข้าไปยุ่งหรอกนะ”
“ครอบครัวของคุณเป็นถึงตระกูลทหารผ่านศึกเก่า กลัวผู้มีอิทธิพลต่างชาติมือใหม่ด้วยหรอ ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ”
“ถ้าพูดตามความจริง ตระกูลของเรามีความแข็งแกร่งทั้งภายนอกและภายในจริง แต่ว่าพวกแก๊งใหม่ที่เกิดขึ้นมาก็มีกำลังไม่น้อย เราไม่สามารถประมาทได้”
“เดิมทีตำแหน่งของฉันในตระกูลก็สั่นคลอนมากแล้ว ถ้าฉันหาเรื่องให้ตัวเองอีก ก็เหมือนกับการฆ่าตัวเองตาย”
เสี่ยวอวี้หลินก้มหน้าเล่นกับแก้วในมือด้วยรอยยิ้ม แต่สายตากับเต็มไปด้วยความอันตราย
“ในประเทศจีนมีสำนวนโบราณว่า กำเนิดอย่างสุขสันต์ มอดม้วยด้วยทุกข์ยาก ถ้าคุณหลีกเลี่ยงพี่หก คุณก็จะมีความสุขในระยะสั้นเท่านั้น ถ้าคุณชิงใช้โอกาสนี้ลงมือพี่หกก่อน ชื่อเสียงของคุณก็จะเพิ่มขึ้นไม่เหมือนตอนนี้”
ต้องบอกว่าเสี่ยวอวี้หลินมีความสามารถในการโน้มน้าวจิตใจคนจริง การพูดเพียงไม่กี่คำทำให้คนรู้สึกสับสนขึ้นมา
เมื่อเห็นความสนใจของเถ้าแก่ เสี่ยวอวี้หลินถึงโน้มตัวไปข้างหน้าและพูดต่อ
“และยังมีผมเป็นกำลังเสริม คุณแข็งแกร่งเหมือนเสือ แล้วยังกลัวอะไรอีก”
“คุณ.... จริงจังหรอ”
“ใช่ ผู้หญิงของผมยังอยู่ในมือของมัน ผมต้องออกแรงหนักกว่าใครอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัย”
เถ้าแก่ลังเลอยู่แป๊บนึง จากนั้นเขาก็กัดฟันพูด “ก็ได้ ผมจะลองสักครั้ง”
เมื่อเห็นเถ้าแก่ร่วมมือด้วยแล้ว เขาก็ยกมุมปากขึ้นมายิ้มเล็กน้อย
ถึงแม้เขาจะยิ้ม แต่สายตาของเขาดูน่ากลัวมาก
.....
เซี่ยอันน่าตื่นขึ้นมาจากการหลับไหล และมองไปรอบด้านด้วยความตื่นตระหนก
“ตื่นแล้วหรอ”
น้ำเสียงที่น่ากลัวทำให้เซี่ยอันน่าตัวสั่น
เธอค่อยค่อยเงยหน้าขึ้นมองไปทางประตู จากนั้นก็เห็นชายคนหนึ่ง
เป็นเขาจริงๆด้วย นี่ไม่ใช่ความฝัน
จิตใจของเซี่ยอันน่าดิ่งลง ร่างกายก็เริ่มสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...