ฉีฉีก้มต่ำมากที่สุด พูด"ฉัน....ฉันไม่ชอบเพลย์บอย"
คำนี้พูดออกมา สถานที่ตรงนั้นยิ่งเย็นลงไปอีก
เย่ชูวเสวียหัวเราะเสียงดังอย่างไม่กลัวตาย พูดว่า"ฮาๆ ฉีฉี เธอพูดตรงเกินไปแล้ว ฮาๆ——"
ปฏิเสธก็ปฏิเสธเถอะ พูดคำพูดน่าฟังก็ได้ อย่างน้อยที่สุดก็อย่าให้ตัวเองเสียหน้ามากเกินไป
แต่ฉีฉีก็ดีจริงๆ ปักมีดหนึ่งเล่มลงมาเสร็จ ก็ปักลงมาอีก ยังอยากให้คนมีชีวิตอยู่?
เย่ชูวเสวียยินดีปรีดาในความโชคร้ายของคนอื่น ทำให้มู่ยู่วฉีโมโหมาก
"เย่ชูวเสวีย เธอหุบปาก! "มู่ยู่วฉีตะคอก หลังจากนั้นหันมาถามฉีฉีว่า"ใครพูดกับเธอว่าฉันเป็นเพลย์บอย ใช่เย่ชูวเสวีย?"
ฉีฉีรีบโบกมือพัลวัน พูดว่า"เย่ชูวเสวียไม่ได้พูด คุณมีชื่อเสียงขนาดนี้ ฉันไม่ต้องสอบถามก็รู้เรื่องเกี่ยวกับคุณแล้ว"
อืม ใช่ มู่ยู่วฉีเป็นเพลย์บอยที่มีชื่อเสียง ทุกคนรู้นานแล้ว จุดนี้มู่ยู่วฉีเองก็รู้ตัวเอง
แต่มู่ยู่วฉีรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ยุติธรรม เขาพูด"คนอื่นพูดมั่วๆ เธอก็เชื่อ หรือว่าลืมแล้วว่าข่าวลือพวกนั้นน่าเกลียดแค่ไหน"
"นี่ไม่เหมือนกันกับข่าวลือ หรือว่าคุณไม่เคยคบกับดาราเลย?"
มู่ยู่วฉีเงียบไปชั่วขณะ พูด"ใช่มีเรื่องอย่างนั้น แต่......."
"คบกับดารา ใช่หรือไม่ใช่ว่าคุณก็สมคบกับนางแบบอีก?"
มู่ยู่วฉีเหงื่อแตกเล็กน้อย พูดอธิบายว่า"นั่นไม่ใช่สมคบ เพียงแค่กินข้าวด้วยกันไม่กี่ครั้งเองแล้วถูกคนปั้นน้ำเป็นตัวเท่านั้น"
"แต่ว่า แฟนของคุณเกินยี่สิบคน ก็เป็นเรื่องจริงสินะ"
หันศีรษะจ้องมองเย่ชูวเสวีย มู่ยู่วฉีพูดด้วยความโมโหว่า"ทำไมเธอรู้เยอะขนาดนี้ เธออยู่เบื้องหลังรายงานใช่ไหม?"
เย่ชูวเสวียรีบยกมือยืนยัน"ฉันกล้ารับรอง ไม่ใช่ฉันที่พูดจริงๆ"
ฉีฉีพูด"คุณอย่าดุเย่ชูวเสวียอย่างนั้น เธอไม่ได้พูดอะไร ฉันเป็นคนหาข้อมูลเอง ถ้าหากคุณรู้สึกว่าฉันพูดมาไม่ถูกต้อง คุณโต้แย้งฉันได้นะ"
มู่ยู่วฉีอยากโต้แย้ง แต่เขาจะใช้อะไรมาโต้แย้ง?เขาเป็นคนทำเรื่อง คนก็เป็นเขาที่เลือก ในเลานี้เป็นครั้งแรกที่เขาขัดเคืองหงุดหงิด ตอนที่เบื่อทำไมต้องไปหาผู้หญิงมากขนาดนั้นด้วย ตัวเองขุดหลุมให้ตัวเองจริงๆ
ลูบขยี้ผมด้วยความหงุดหงิด มู่ยู่วฉีพูดว่า"นั่นเป็นเรื่องเมื่อก่อน สามารถยืนยันอะไร?และฉันชอบเธอ คือเรื่องในตอนนี้ หรือว่าคนไม่ควรที่จะมองไปข้างหน้าเหรอ?"
ฉีฉีก้มศีรษะลงเล็กน้อยพูดว่า"แต่ว่า ยืนยันได้ว่าคุณปฏิบัติกับความรู้สึกอย่างง่ายดายชอบของใหม่ลืมของเก่า และฉันเพียงแค่อยากหาคนคนหนึ่ง ที่แก่หัวหงอกไม่แยกจากกัน พวกเราทัศนคติไม่ตรงกัน ถึงจะคบกันแล้วก็สามารถที่จะสิ้นสุดลงเต็มไปด้วยความยากลำบาก ถ้าอย่างนั้นเป็นเพื่อนกันจะดีกว่านะ"
"เธอลองก็ยังไม่ลองเลย เธอก็กลัวจุดจบแล้ว?"
"รู้ว่าจะจัดการแก้ไขอย่างไร ทำไมต้องให้ตัวเองแพ้อย่างย่อยยับปนปี้"
มู่ยู่วฉีมองฉีฉีทันใดนั้นหัวเราะออกมาเสียงเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย
"ดี ดีมาก นอนต่อเถอะ ฉันรบกวนเธอแล้ว"
พูดจบมู่ยู่วฉีได้หมุนตัวเดินออกไป ด้านหลังแสดงให้เห็นถึงความอ้างว่างไม่กี่นาที
ฉีฉีมองตามแผ่นหลังของเขา ในใจรู้สึกทุกข์ทรมาน
กลับมาในห้องนอนอย่างเงียบๆ ฉีฉีปีนขึ้นเตียง ใช้ผ้าห่มคลุมตัวเองอยู่ด้านใน ไม่มีความอยากนอน
เย่ชูวเสวียนอนมองเพดานอยู่ที่เตียงใหญ่อีกด้าน นานกว่าจะเอ่ยปากถาม
"ยังไม่นอนใช่ไหม?"
"ยังเลย"
"คุยกันหน่อยเถอะ"
"คุยอะไร?"
"ฉันนึกว่าเธอชอบมู่ยู่วฉีมาก"
ฉีฉีก็ตอบโดยไม่คิดว่า"ฉันชอบเขามาก"
คำตอบนี้เหนือความคาดหมายทั้งหมดของเย่ชูวเสวีย เธออดไม่ได้ที่จะจ้องมองฉีฉี สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
"อย่างนั้นแล้วทำไมถึงปฏิเสธเขา? เธอต้องรู้นะว่ามีผู้หญิงมากมายใฝ่ฝันที่จะคบหากับมู่ยู่วฉี"
"ความชอบกับการคบหาเป็นคนละเรื่อง รู้อยู่แล้วว่าไม่เหมาะสมกับเขา ทำไมยังต้องเอาหัวดันทุรังเข้าไป?ต่อไปถ้าเปลี่ยนเป็นคู่แค้น ฉันยินยอมที่จะเป็นอย่างตอนนี้ รักษาระยะห่างที่เหมาะสม"
พอฟังถึงประโยคนี้ เย่ชูวเสวียเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองไม่ได้เข้าใจฉีฉีเลย
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอรู้สึกว่าฉีฉีเป็นคนตรงๆ มีความคิดอะไรก็แสดงออกมาทางสีหน้า
และตอนนี้ เย่ชูวเสวียเพิ่งจะรู้ว่าฉีฉีมีความคิดของตัวเอง เธอไม่ใช่เด็กสาวที่สมองว่างเปล่า
มู่ยู่วฉีคำนวนผิด ไม่ดูฉีฉีให้แน่ชัด ทำลงไปโดยไม่เข้าใจมองโลกในแง่ดี เดาผิดพลาดก้าวเดียวแพ้ทั้งกระดาน
แต่ว่าอย่างนี้ก็ดี ฉีฉีเป็นเด็กดี มีสิทธิอะไรที่มู่ยู่วฉีจะจีบให้ติดอย่างง่ายดาย?ก่อนที่ยังไม่แน่ใจว่ามู่ยู่วฉีน่าเชื่อถือ เย่ชูวเสวียก็ไม่ยอมตกลงให้ทั้งสองคนคบกัน
ถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างโล่งใจ เย่ชูวเสวียยิ้มออกมาแล้วพูดว่า"นึกว่าเธอจะเป็นคนโง่ คาดไม่ถึงว่าจะมีสติปํญญา จนกระทั่งมีสติปัญญาจนน่ากลัว"
"โอเคแล้ว ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว นอนเถอะ"
ฉีฉีพลิกตัว หลับตาลงแกล้งทำหลับไป
เฮ้ เวลานี้นอนหลับก็แปลกแล้ว
เย่ชูวเสวียเข้าใจ ฉีฉีเพียงแค่หลบเลี่ยง แต่เธอก็ไม่อยากจี้จนแตก และพลิกตัวหันไปอีกทิศทางหนึ่ง นอนหันหลังชนกับฉีฉี
ผ่านไปชั่วครู่ เย่ชูวเสวียก็ถามขึ้นมาอีก
"ฉีฉี ต่อไปเธอจะเสียใจภายหลังไหม?"
"ตอนนี้ฉันก็เสียใจ แต่ต่อให้เสียใจ ฉันก็ไม่มีทางเปลี่ยนจุดมุ่งหมาย"
"ไอ๋ เด็กคนนี้ดื้อรั้นจริงๆ"
เย่ชูวเสวียถอนหายใจออกมาเบาๆ หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เป็นกังวลใจอยู่ไม่กี่นาทีแล้วค่อยๆหลับไป
และฉีฉีนอนไม่หลับทั้งคืน
วันที่สอง——
เย่ชูวเสวียกลับห้องล้างหน้าเปลี่ยนชุด ฉีฉีอยู่ในห้องเก็บของอยู่เพียงลำพัง
นำของที่เป็นของตัวเองเก็บห่อเรียบร้อย ฉีฉีปัดมือ วางแผนว่าสักครู่กินข้าวเช้าเสร็จ แล้วออกไปจากที่นี่
ถ้าหากไม่มีเรื่องเมื่อวานเกิดขึ้น ฉีฉีก็จะอยู่พักที่นี่ต่ออีกสักหน่อย
แต่ตอนนี้เรื่องแตกมาแล้ว อยู่ที่นี่ต่อไป จะทำให้ทุกคนขายหน้า ถือโอกาสกลับมหาวิทยาลัยเถอะ
ในเวลาเดียวกัน เย่ชูวเสวียเก็บของเสร็จแล้ว อยู่ชั้นล่างกินอาหารเช้ากับมู่ยู่วฉี
พูดถึงอาหารเช้า แต่คล้ายกับทุกคนกำลังหยั่งเชิงฝ่ายตรงข้ามอย่างละเอียด
เย่ชูวเสวียสีหน้าเรียบเฉยมองมู่ยู่วฉี ยิ้มแล้วพูดว่า"ใต้ตาดำขนาดนี้ เมื่อคืนนอนหลับไม่ดีสินะ"
มู่ยู่วฉียกไหล่ขึ้น พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า"นี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ"
ยักไหล่เบาๆ เย่ชูวเสวียทำหน้าเสียดาย พูดว่า"อ้อ ใช่เหรอ?เดิมที่ฉันสอบถามความในใจของฉีฉีมานะ อยากพูดให้นายฟัง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า นายไม่ได้ต้องการ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...