วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 82

" อะไรนะ? "

เย่ฉ่าวเฉินอึ้งไปเลย แล้วถามขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

มู่เวยเวยกางมือออกแล้วพูดซ้ำอย่างช้าๆอีกครั้ง " เย่ฉ่าวเฉิน เราหย่ากันเถอะ "

ใบหน้าของเฉียวซินโยวแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเธอดีใจสุด ในที่สุดเธอก็ชนะ ชัยชนะนี้เป็นของเธอ

สีหน้าของเย่ฉ่าวเฉินมึนงงไปหมด ดวงตาสีน้ำเงินของเขาจ้องมองไปที่เธอ เขาสังเกตุเห็นถึงท่าทีของเธอที่นิ่งมาก ราวกับว่าไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ทำให้ในใจของเขายิ่งรู้สึกไม่พอใจมากกว่าเดิม

เขาทำไมต้องไม่พอใจด้วย?

เมื่อวานเขายังอยากให้เธอหายไปต่อหน้าต่อตาเขาอยู่เลยไม่ใช่หรอ?

เธอร้ายกาจขนาดนี้ ยังจะลังเลอะไรอีก?

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพอเขาได้ยินคำว่า " หย่า " ออกจากปากเธอ ในใจของเขากลับรู้สึกโกรธมาก มันเหมือนกับว่า......ไม่เต็มใจ

ใช่ เขาไม่เต็มใจ!

ยัยผู้หญิงคนนี่นิ กล้าดียังไงพูดก่อนฉัน?

เธอมีสิทธิ์อะไรในการขอหย่าก่อน!

คำว่าหย่า ควรเป็นเขาต่างหากที่เป็นคนพูดไม่ใช่หรอ!

เธอมีสิทธิ์อะไรมาขอหย่ากับฉัน? เธอก็แค่ของเล่นที่ฉันซื้อมาด้วยเงิน ขนาดฉันยังไม่พูดเรื่องนี้เลย แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้? " เย่ฉ่าวเฉินโกรธจนเลือดขึ้นหน้า น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นราวกับยมทูตในนรก

มู่เวยเวยยังคงทำหน้านิ่งแล้วพูดอย่างใจเย็น " หรือว่าฉันควรจะพูดแบบนี้ คุณเย่ค่ะ ปลดฉันออกจากตำแหน่งเถอะค่ะ "

" เธอฝันไปเถอะ "

เมื่อเย่ฉ่าวเฉินพูดประโยคนี้ออกมา ต่างคนก็ต่างอึ้งกันหมด

เฉียวซินโยวกังวลแทบแย่ เธอไม่รู้ว่าแผนการของเธอมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่เธอก็ยั่วยุให้เขาทั้งสองทะเลาะกันได้แล้ว มู่เวยเวยเองก็ขอหย่าตามที่เธอต้องการ แต่เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเย่ฉ่าวเฉินถึงไม่ยอมหย่า มันเป็นเพราะอะไรกันแน่?

เย่ฉ่าวเฉินอาจจะแผนการอื่น หรือว่า......เขาอาลัยอาวรณ์เธอ?

มู่เวยเวยรู้สึกโกรธมาก ก็ตั้งแต่แต่งงานกันมาเย่ฉ่าวเฉินก็รังเกียจเธอมาโดยตลอด อีกทั้งยังดูถูกเธอต่างๆนาๆ เขายังทรมานเธอไม่พออีกหรอ?

ก็เป็นไปได้ ในเมื่อเขายังหาพี่ชายเธอไม่เจอ เขาจะปล่อยเธอไปง่ายๆได้ยังไงกัน?

เฉียวซินโยวใช้เล็บขูดเข้าไปในเนื้อของตัวเอง แต่เธอกลับไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด รู้สึกเพียงว่าใจของเธอมันเจ็บเหมือนโดนไฟเผาไปทั้งใจ

เธอพยายามซ่อนความรู้สึกเอาไว้ และพูดออกมาอย่างหน้าตายิ้มแย้ม "ฉ่าวเฉิน อย่าพูดจากับเวยเวยแบบนี้สิ มีอะไรก็พูดกันดีๆ!

ใบหน้าของเย่ฉ่าวเฉินดีขึ้นมากๆ แล้วหันไปพูดกับเวยเวยด้วยน้ำเสียงเย็นชา " เธอยังยืนอยู่ทำไมอีก รอให้ฉันเชิญเธอออกไปรึยังไงกัน? "

มู่เวยเวยตอบกลับด้วยทีท่าไม่สนใจว่า " งั้นฉันก็จะไม่อยู่เป็นก้างขวางคอของทั้งสองคน "

พอพูดจบเธอค่อยๆเปิดประตูออกแล้วก็เดินออกไป และเธอก็คิดขึ้นได้เลยกระตุกยิ้มแล้วหันหลังกลับไปมองไปที่เฉียวซินโยวจากนั้นค่อยๆพูดว่า "คุณเฉียวคะ เป้าหมายของคุณกำลังจะสำเร็จแล้วนะคะ "

เฉียวซินโยนสตั้นเล็กน้อยแล้วตอบกลับอย่างนิ่งๆว่า " ฉันไม่เข้าใจว่าเธอพูดเรื่องอะไร "

เมื่อวานตอนที่คุณอยู่ในห้องผ่าตัด คุณเย่เซ็นรับรองการผ่าตัดให้คุณในฐานะแฟน ฉันเชื่อว่าพวกคุณจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันในอีกไม่ช้า "

พอพูดจบเธอก็ปิดระตูห้องทันที

เฉียวซินโยวที่รู้สึกใจหานในตอนแรก ก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาทันที ดีใจจนตัวสั่นไปทั้งตัว

อย่างน้อย ฉ่าวเฉินก็ไม่ใช่ไม่รู้สึกอะไรกับเธอเลย

เย่ฉ่าวเฉินขมวดคิ้ว เขาไม่รู้จริงๆว่าทำไมจู่ๆเธอถึงได้พูดเรื่องนั้น ก็เหมือนกับว่าเขาก็ไม่รู้จริงๆว่าทำไมเมื่อกี้เขาถึงโกรธมากขนาดนั้น

มู่เวยเวยที่พึ่งเดินออกจากโรงพยาบาล และไม่รู้ว่าจะไปไหน ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงบีบแตรดังขึ้น เธอหันไปมอง ปรากฏว่าเป็นหนานกงเฮ่า!

ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่?

เขามารอนานแค่ไหนแล้ว?

พอมานั่งข้างคนขับ มองไปที่หน้าอันหล่อเหลาของเขา เธอก็รู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยและสบายใจขึ้นมากๆ จากนั้นค่อยๆพูดว่า "คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? "

" ฉันตามเธอมาตลอดนั่นแหละ "

มู่เวยเวยเบิกตากว้าด้วยความตกใจ และถามอย่างไม่น่าเชื่อว่า "คุณหมายถึงตั้งแต่คุณให้คนมาส่งฉัน คุณก็ตามอยู่ข้างหลังตลอดเลยหรอ?

หนานกงเฮ่าพยักหน้าเบาๆ

มู่เวยเวยรู้สึกจุกอยู่ที่อก แล้วค่อยๆพูดขึ้นว่า "ฉันไม่มีค่าพอที่คุณจะทำแบบนี้ "

หนานกงเฮ่ารีบใช้มือไปปิดปากของเธอไว้ แล้วค่อยๆฉีกยิ้มออก " ไม่มีใคร มีค่ามากไปกว่าเธออีกแล้ว "

มู่เวยเวยถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอปวดหัวมากๆจึงไม่อยากถามอะไรเขาต่อ เธอต้องจัดการปัญหาของเธอในตอนนี้ก่อนว่าเธอจะไปอยู่ที่ไหน จะอยู่บ้านหนานกงเฮ่าอย่างนี้ต่อไปก็ดูไม่ค่อยดีนัก

พอกลับถึงคฤหาสน์ของหนานกงเฮ่า มู่เวยเวยก็ขึ้นห้องทิ้งตัวลงนอนทันที เมื่อกี้ยังไม่ปวดหัวมากขนาดนี้ พอทิ้งตัวลงนอนเธอกลับวิงเวียนและปวดหัวเหมือนหัวจะระเบิดยังไงยังงั้นเลย

หนานกงเฮ่ารู้สึกได้ว่าเธอไม่สบาย ก็เลยรีบโทรหาหลิวเฮ่าหยานทันที

"เฮ่าหยาน ตอนนี้เวยเวยรู้สึกเวียนหัวมาก เธอเป็นอะไรกันแน่? "

พอหลิวเฮ่าหยานรับสาย ก็วางงานในมือลงทันที แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า " นายต้องพยายามควบคุมอารมณ์ของเธออย่าให้อารมณ์เธอแปรปรวนมากเกินไป เดี๋ยวฉันจะจ่ายยาบำรุงให้เธอ คุณช่วยส่งคนมารับที"

หนานกงเฮ่ารู้สึกโล่งอกไปที แล้วพูดขึ้นอย่างจริง " โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ต่อไปฉันจะดูแลเธอมากกว่านี้ ฉันจะส่งคนไปรับยามาเดี๋ยวนี้ "

"ตู้เหิง ! "

ประตุถูกเปิดออก ตู้เหิงค่อยๆเดินมาหาหนานกงเฮ่าและพูดขึ้นอย่างอ่อนน้อมว่า " ท่านเรียกหาผมหรือครับ? "

"นายไปหาคุณหมอหลิวเฮ่าหยานแล้วไปมาเอายามาให้ฉันโดยเร็วที่สุด "

"ครับ "

พอตู้เหิงออกไปแล้ว เขาหันกลับไปมองมู่เวยเวย ก็เห็นเธอนอนนิ่งอยู่ตรงของเตียง เรารู้สึกแปลกๆจึงรีบเดินเข้าไปดูเธอใกล้ๆ

เมื่อเขารู้ว่ามู่เวยเวยยังหายใจอยู่เขาก็รู้สึกโล่งอกไปที มองดูหน้าตาน่ารักของเธอที่กลังนอนอยู่เขาก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขแล้วกระซิบข้างหูเธอว่า "ยัยหมูน้อยขี้เซา "

ทันใดนั้นมู่เวยเวยก็พลิกตัวกลับมา หนานกงเฮ่าก็ก้มลงไปที่หน้าผากเธอ และหอมเธออย่างทะนุทะนอน

......

มู่เวยเวยที่กำลังสะลึมสะลือ. ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ดังมากจนเธอลำคาน เธอจึงทำได้เพียงลืมตาตื่นขึ้นมาดู

สายเรียกเข้าเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย

มู่เวยเวยคิดว่าอาจจะเป็นสายที่โทรมาก่อกวนจึงตัดสายทิ้ง หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเสียงโทรศัพท์เรียกเข้าก็ดังขึ้นอีกครั้ง

มู่เวยเวยถอนหายใจ และสุดท้ายเธอก็กดปุ่มรับสาย

" ฮัลโหล? "

"ทำไมพึ่งรับสาย! "

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ