พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 751

ตอนที่ 751 ให้ข้าช่วยเจ้านะ

ซือถูจิ้งพยักหน้า “ได้ยินเจ้าวิเคราะห์แบบนี้แล้ว ข้าก็สบายใจ”

นางชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดอย่างกังวลว่า “แต่ทางพระสนมหมุยเฟย เจ้ารู้สึกว่านางทำได้จริงเหรอ?”

“เชื่อใจนางหน่อย นางทำได้” หลีโม่ยิ้มแล้วพูด

“แต่นางอ่อนแอแบบนั้น” ซือถูจิ้งมองไปที่หลีโม่ “เราไม่จำเป็นต้องช่วยนางจริงเหรอ?”

หลีโม่พูดอย่างจริงจังว่า “ไม่จำเป็น ซือถูจิ้ง เจ้าห้ามยื่นมือไปแทรกเด็ดขาด อีกทั้งตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เจ้าเองก็ไม่ต้องเข้าวังหลวงไปอีก เราเข้าวังถี่เกินไป จะทำให้ฝ่าบาททรงสงสัยได้”

ซือถูจิ้งอดที่จะถามอย่างแปลกใจไม่ได้ “ทำไมจู่ ๆ เจ้าถึงได้เชื่อใจพระสนมหมุยเฟยล่ะ? ข้ารู้สึกว่านางน่าสงสัย แต่ต่อให้นางไม่ได้ทำร้ายเจ้า แต่ช่วยซุนฟางเอ้อร์กับล้มพระนางอี๋กุ้ยเฟยมันเป็นภารกิจที่สำคัญมาก เจ้าให้นางไปทำคนเดียว เจ้าไว้ใจแต่ข้าไม่”

“ข้าก็ไม่ได้ให้นางไปทำคนเดียวนี่นา ข้าจัดการวางแผนเอาไว้หมดแล้ว เจ้าวางใจได้ พระสนามหมุยเฟยไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เจ้าคิดหรอกนะ ก่อนหน้านี้นางแค่อ่อนแอไปแค่นั้น แต่หลังจากผ่านเรื่องครั้งนั้นแล้ว นางรู้ดีว่า หากพระนางอี๋กุ้ยเฟยไม่ตาย ชาตินี้ทั้งชาตินางก็จะต้องอยู่ใต้การกดขี่ของพระนางอี๋กุ้ยเฟย ต่อไปองค์ชายสามคือคนที่จะได้ขึ้นเป็นใหญ่ พระสนมหมุยเฟยเป็นพระมารดาของเขา จะอ่อนแอไม่ได้” หลีโม่ลูบไปที่สายเชือกเตาปา

พวกนางเข้าวังไม่ได้ แต่ว่ามีอีกคนที่เข้าวังได้ อีกทั้งตอนนี้ฝ่าบาทก็ไม่ได้ระแวงเขา เขาคืออ๋องเหลียง

ซือถูจิ้งมองไปที่นาง รู้ว่านางกำลังทำอะไรก็ได้เพื่อให้รู้สึกสบายใจ แล้วก็เป็นการทำก่อนการโจมตี

เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย หรือว่าต้องการโจมตีกันแน่?

วันต่อมา หลีโม่ใช้ข้ออ้างในการไปเยี่ยมขุนนางหลี่แทนแม่ของนาง ออกจากเมืองหลวงไป

แน่นอนว่า นางไม่ได้ออกจากเมืองหลวงไปจริง แต่ไปยังตำหนักซีย่วน

ฝ่าบาทรู้ว่านางย้ายไปอยู่ที่ตำหนักซีย่วนแล้ว เพราะ ตำหนักซีย่วนมีสายของฮ่องเต้อยู่

แต่ซือถูเย้นกับหลีโม่เองก็ไม่ได้กลัวว่าเขาจะรู้ เพียงแต่ชาวบ้านในเมืองหลวงรู้ว่า นางออกจากเมืองหลวงไปแล้ว

วันที่สองหลังจากที่หลีโม่ออกจากเมืองหลวงไป ข่าวลือเริ่มแพร่ออกไป ภายในระยะเวลาสองสามวัน กลายเป็นประเด็นที่พูดถึงกันมากที่เมืองหลวง

พระชายาอ๋องซื่อเจิ้งที่ช่วยคนช่วยเหลือคนตกยาก กลับกลายมาเป็นนางปีศาจจิ้งจอกไป?

ได้ยินมาว่า ฝ่าบาทยังไม่ได้มีรับสั่งให้ไต้ซือคนใดเข้าวังหลวงเลย เพราะต้องการจะประหารนางปีศาจจิ้งจอก

ส่วนพระชายาปีศาจจิ้งจอกพอรู้ว่าไต้ซือจะเข้าวังหลวง แม้จะหนีไปตั้งแต่ช่วงกลางดึก วันนี้ก็หายตัวไปแล้ว

ข่าวลือพวกนี้แพร่กระจายไปหลายวัน จนถึงสุดท้าย มันพัฒนากลายเป็นต้องการให้ราชสำนักสังหารปีศาจจิ้งจอก

ราชสำนักไม่มีทางเลือก ออกประกาศบนกระดานประกาศหลวงว่า ไต้ซือที่เชิญมา หากพิสูจน์ได้ว่าพระชายาอ๋องซื่อเจิ้งเป็นนางปีศาจจิ้งจอก ก็จะทำการประหารทันที

ชาวบ้านลือไปแล้ว พวกเขาลืมไปแล้วว่าหลีโม่เคยช่วยเหลือโรคผีดิบระบาดมาก่อน เคยช่วยชีวิตคนไว้มากมาย

ตอนนี้ คำพูดจากปากของพวกเขา มันมีแต่โทษมีแต่ความผิด

อย่างเช่น พระชายาอ๋องซื่อเจิ้งชอบกินหัวใจคนบ้างล่ะ นางต้องกินหัวใจคนเป็น ๆ วันละดวง

หรืออย่างเช่น พระชายาอ๋องซื่อเจิ้งชอบใช้เลือดคนสด ๆ มาบำรุงผิวพรรณ เลือดคนจะทำให้ผิวเนียนนุ่ม ทำให้คนสดชื่นมาก ๆ

หรืออย่างเช่น พระชายาอ๋องซื่อเจิ้งชอบถลกหนังคน เอาหนังคนมาทำกลอง ในจวนอ๋องซื่อเจิ้งจะตีกลองทุกวัน กลองพวกนั้นทำมาจากหนังคน

หลีโม่อาศัยอยู่ที่ตำหนักซีย่วน กินดีอยู่ดี ไม่ได้ถูกผลกระทบอะไรจากข่าวลือพวกนั้นเลย แต่ว่า อ๋องซื่อเจิ้งซือถูเย้นกลับไม่ได้โชคดีขนาดนั้น

จวนอ๋องถูกชาวบ้านบุกมาโจมตีหลายครั้ง มีคนเอาก้อนหินมาขว้างใส่หลายครั้ง มีบางส่วนก็มีความคิดที่จะวางเพลิงด้วย

เรื่องที่ชาวบ้านหันมาใช้ความรุนแรงกับซือถูเย้น ราชสำนักเองก็ส่งคนไปห้ามปราบ แต่ว่า เพราะอีกฝ่ายเป็นชาวบ้าน ฝ่าบาทก็ทำได้แค่สั่งให้คนไปพูดเกลี้ยกล่อมไม่ให้ใช้กำลัง

ชาวบ้านที่ใช้ความรุนแรงพวกนี้ บางคนเป็นชาวบ้านจริง แต่ก็มีพวกที่ต้องการก่อความไม่สงบร่วมด้วย

ซือถูเย้นกลับมาจากเป่ยม่อไม่ถึงเดือน จากท่านอ๋องถือมีผลงานคนหนึ่งกลายมาเป็นหนูตามท้องถนนที่มีแต่คนด่าทอ

ฮ่องเต้เพื่อไม่ให้เขาได้รับบาดเจ็บ เลยสั่งให้เขาไม่ต้องเข้าวังมาทำงาน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม