พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 750

บทที่ 750 เริ่มต้นตอบโต้

หูฮวนหลิงเห็นทั้งสองคนยังไม่ทันได้คุยกันก็เริ่มทะเลาะกันขึ้นมาอีกแล้ว จึงหันไปมองซือถูจิ้ง

ซือถูจิ้งขมวดคิ้วพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ พวกเจ้าหยุดกันก่อนเถอะ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเสียหน่อย หลีโม่เจ้าก็เหมือนกัน ปกติก็เห็นเจ้าออกจะใจกว้าง ครั้งนี้ทำไมถึงได้ดักดานขนาดนี้? จะไปใส่ร้ายหมุยเฟยได้อย่างไร อย่าทะเลาะกันแล้ว เสียความหวังดีของฮองเฮาหมด”

สีหน้าหลีโม่เขียวปัด แต่ก็ไม่กล้าเถียงองค์หญิง พูดอย่างไม่พอใจว่า “แล้วทำไมซุนมามานั่นถึงชี้ว่าเป็นนาง ทำไมไม่ชี้ว่าเป็นคนอื่น?”

“คำพูดบ่าวใช้สามารถเชื่อถือ....”

ซือถูจิ้งกำลังจะพูดหลักการ กลับเห็นซุนฟางเอ้อร์จามขึ้นมา แล้วก็ล้มไปทางซ้าย ล้มลงบนตัวหลีโม่พอดี

“เหนียงเหนียง เหนียงเหนียง” หลีโม่ประคองนางไว้ ตบใบหน้าของนางอย่างตกใจ

เฮ้อ ซุนฟางเอ้อร์นี่ไม่มีความอดทนเลยสักนิด จะทะเลาะกันเสียก่อนไม่ได้หรือ? ทำไมต้องมาเร็วขนาดนี้

หยางมามายืนอยู่ด้านหลังหลีโม่ เห็นซุนฟางเอ้อร์เป็นลมกะทันหัน ก็รีบเข้าไปพร้อมกับสาวใช้ขององค์หญิงสองคน ช่วยประคองซุนฟางเอ้อร์

หูฮวนหลิงเห็นซุนฟางเอ้อร์เป็นลม ถึงแม้จะอยากให้นางตาย แต่ก็ต้องเสแสร้งสร้างภาพ รีบพูดถึงว่า “รีบไปตามหมอหลวงมา”

เหลียงเฟยพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “พระชายาก็เป็นหมออยู่แล้วไม่ใช่หรือ? ให้พระชายาตรวจดูก็จบ คงเพราะว่าเมื่อคืนเหนื่อยมาก วันนี้จึงไม่ค่อยมีแรง”

คำพูดของเหลียงเฟยเหน็บแนมมาก ทุกคนฟังคำพูดของนางแล้ว ตาก็มองดูสีหน้าที่ขาวซีดเหมือนกระดาษของซุนฟางเอ้อร์อย่างสมน้ำหน้า

ซือถูจิ้งพูดว่า “ไม่ต้องพูดมากขนาดนั้น หยางมามา ฉินจือ พวกเจ้ารีบพาจาวกุ้ยเฟยเข้าไปพักผ่อนในตำหนัก แล้วให้คนไปเชิญหมอหลวง”

“เพคะ” หลายคนช่วยกันประคองซุนฟางเอ้อร์เข้าไปในตำหนัก ตำหนักว่านโซ่วนี้ถึงแม้จะไม่มีคนอาศัยอยู่ แต่ภายในมีสิ่งของครบทุกอย่าง

ก่อนที่หมอหลวงยังไม่มา หลีโม่ได้ตรวจชีพจรให้นางก่อน หูฮวนหลิงอยากเข้าไป กลับถูกซือถูจิ้งดึงข้อมือไว้ แล้วพูดกระซิบเตือนว่า “เจ้าทำไมถึงได้โง่ขนาดนั้น? อย่าตกเป็นผู้ต้องสงสัยไม่รู้หรือ?”

หูฮวนหลิงอึ้ง “ความหมายขององค์หญิงคือ?”

ซือถูจิ้งพูดอย่างไม่พอใจว่า “ทำไมอยู่ดีๆนางถึงได้เป็นลม? นางชำนาญอะไร?”

“นี่....” หูฮวนซีเข้าใจขึ้นมาทันที ซุนฟางเอ้อร์นี้ชำนาญการใช้พิษไสยศาสตร์ หากเข้าใกล้ตัวนาง หลงกลของนาง ถึงตอนนั้นจะลบล้างยังไงก็ไม่ออก

นางหันมา “ขอบพระทัยองค์หญิงที่เตือน”

ซือถูจิ้งพูดอย่างเย็นชาว่า “ข้าไม่ได้ตั้งใจจะช่วยเจ้า แค่ไม่อยากให้เจ้าทุกข์แว้งกัด ถึงตอนนั้น ฮ่องเต้ก็จะปลดฮองเฮาได้อย่างเป็นทางการ แล้วนางก็จะประสบความสำเร็จ”

หูฮวนหลิงกัดฟันพูดขึ้นว่า "จิตใจชั่วร้ายมาก"

     

"ก็เป็นเพียงสิ่งที่ฉันคาดเดา อาจจะไม่ใช่แบบนี้ บางทีนางอาจจะป่วยจริงๆ ดูรูปร่างหน้าตานางก็ไม่น่าเป็นคนที่บุญอะไร เจ้าก็เช่นกัน ข้างกายไม่มีคนที่มีความสามารถบ้างหรือ?"

     

หูฮวนซีพูดอย่างโศกเศร้าว่า “นี่...จริงๆข้า....”

“ข้างกายเจ้ามีคนที่รูปร่างไม่เลวคนหนึ่ง” ซือถูจิ้งมองดูหวั่นหุ้ย

หูฮวนหลิงถอนหายใจ พูดอย่างโศกเศร้าว่า “แต่ฮ่องเต้ไม่ชอบนี่”

“ฮ่องเต้มาหาเจ้ากี่ครั้ง? คงอาจจะไม่ได้ดูอย่างละเอียดด้วยซ้ำ หากหวั่นหุ้ยได้ไปอยู่กับซุนฟางเอ้อร์ ฮ่องเต้เห็นทุกวันคืน ก็จะไม่เหมือนกัน แต่ว่า เจ้าต้องมั่นใจว่าสามารถควบคุมนางได้” ซือถูจิ้งพูด

ในใจหูฮวนหลิงหวั่นไหว หวั่นหุ้ยคนนี้นางสืบมาแล้ว มีความทะเยอทะยานอยู่ หากนางเป็นที่โปรดปราน ก็ต้องพึ่งพาตัวเองถึงจะสามารถอยู่ได้อย่างมั่นคง จึงไม่กล้าทรยศนางอยู่แล้ว

เพียงแต่ จะส่งหวั่นหุ้ยเข้าไปอยู่ในตำหนักซีเวยยังไงล่ะ?

ซุนฟางเอ้อร์นั่นไม่ยอมรับแน่นอน

กำลังครุ่นคิดอยู่ ก็เห็นฉินจือเดินออกมา “ฮองเฮาเหนียงเหนียง ขอท่านส่งคนเข้าไปช่วยดูแลด้วยเถอะ พระชายาให้พวกบ่าวไปตักน้ำร้อนกับไปเอาเข็ม”

หูฮวนหลิงเงยขึ้นมองดูหวั่นหุ้ย แล้วรีบพูดขึ้นว่า “เจ้ารีบเข้าไปดูแลกุ้ยเฟยเหนียงเหนียง”

หวั่นหุ้ยพยักหัว แล้วก็เข้าไป

หวั่นหุ้ยก็แลดูน่าสงสาร “บ่าวสวยสู้จาวกุ้ยเฟยไม่ได้ ฮ่องเต้ไม่มองอยู่แล้ว”

ในใจกลับบ่นอยู่ไม่น้อย ฮองเฮาเองก็รูปร่างหน้าตาไม่เลวร้าย ทำไมถึงไม่ได้ใจฮ่องเต้? กลับมาต่อว่านาง

หูฮวนหลิงนั่งไม่นิ่ง ไม่รู้ว่าควรที่จะไปหาอี๋กุ้ยเฟยไหม

ตอนนี้เงินของนางก็มีไม่มากแล้ว หากไปหาอี๋กุ้ยเฟย หลังจากที่ใช้เงินพวกนี้หมดแล้ว ทางบ้านก็ไม่มีอยู่ให้อีกแล้ว นางอยู่ในวังจะเสียเปรียบ

ใจกว้างมาจนเคยชินแล้ว ทางด้านฮองไทเฮาก็ต้องมีไปถวายทุกเดือน

นางจะให้ซุนฟางเอ้อร์มีลูกไม่ได้

ครุ่นคิดอยู่นาน สุดท้ายนางก็ยังคงไปหาอี๋กุ้ยเฟย

หลีโม่ออกจากวังไปพร้อมกับซือถูจิ้ง

รถม้าวิ่งตึกตักอยู่บนถนนในเมืองหลวง ตอนเดินไปเดินมาน้อยลงแล้ว

“จองแน่ใจว่าหวั่นหุ้ยจะเอาคำพูดพวกนั้นไปบอกกับฮองเฮา?” ซือถูจิ้งถาม

หลีโม่พูดอย่างมั่นใจว่า “พูด หวั่นหุ้ยอยู่ในวังมาพอสมควรแล้ว ฮ่องเต้ไม่แม้แต่จะมองเลย หากไม่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ หูฮวนหลิงจะต้องไม่เก็บนางไว้แน่ นางเองก็รู้ข้อนี้ดี ดังนั้น นางจะต้องเสนอความคิดเห็น แสดงให้เห็นคุณค่าของตัวเอง”

“แต่ เจ้าไม่ใช่ให้นางไปทำร้ายหูฮวนหลิงหรือ? ทำไมนางถึงกลายเป็นทำดีกับหูฮวนหลิง?” ซือถูจิ้งถาม

หลีโม่อมยิ้มพร้อมพูดว่า “นางสามารถทำเรื่องทำร้ายคนอื่นได้หรือ? อาจจะมีใจ แต่ไม่มีความสามารถ นางเองก็รู้ความสามารถของตนเองดี นางไม่มีทางช่วยข้าทำร้ายฮองเฮา กลับกัน นางจะกอดขาอันสมบูรณ์ของฮองเฮาไว้อย่างแน่น เพื่อหวังว่าสักวันหนึ่ง จะเป็นที่ถูกใจฮ่องเต้ เป็นนางสนมคนหนึ่ง ดีกว่าอยู่กับพระชายาแล้วเป็นแค่คู่นอนคนหนึ่ง”

“หวังว่าเจ้าจะไม่คาดเดาผิด หากนางลงมือกับหูฮวนซีจริงๆ พวกเราจะเดือดร้อน ยังไงเจ้าก็เป็นคนส่งนางเข้าไป” ซือถูจิ้งพูดอย่างเป็นห่วง

“หนึ่งข้าไม่ได้ให้ยาพิษนาน สองไม่ได้ให้อาวุธนาง ตั้งอยู่ในวังจะทำร้ายฮองเฮาได้อย่างไร?”

ซือถูจิ้งคิดดูแล้วก็ถูก หวั่นหุ้ยคนนั้นคงไม่โง่ขนาดนั้น “งั้นน่าจะบอกฮ่องเฮาไหมว่าเหตุผลที่เจ้าส่งนะเข้าวัง?”

“ไม่ นางพูดแล้ว ฮองเฮาจะเชื่อว่านางกลับใจหรือ? หวั่นหุ้ยคนนี้ฉลาดอยู่ ที่จริง นางไม่เคยคิดว่าข้าส่งน่าจะเข้าวังเพื่อไปฆ่าฮองเฮา คิดเพียงว่าข้าหาเหตุผลขับไล่นางไป ดังนั้น นางจะเกาะฮองเฮาที่เป็นต้นไม้ใหญ่ต้นนี้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม