บทที่ 749 ไกล่เกลี่ยสะเปะสะปะ
หูฮวนหลิงฟังเช่นนี้แล้ว ในใจก็ยิ่งร้อนรน
นางอยากที่จะกดขี่ซุนฟางเอ้อร์ ถึงได้ไปเอาตัวหวั่นหุ้ยมา
เพียงแต่ฮ่องเต้มาหานางก็สองครั้งแล้ว และเห็นหวั่นหุ้ยแล้วสองครั้ง แต่ก็ไม่สามารถ “เสนอ” ไปให้ ฮ่องเต้ไม่แม้แต่จะมองหวั่นหุ้ย
องค์หญิงพูดถูก หากซุนฟางเอ้อร์ตั้งครรภ์แล้วจริงๆ ชาติกำเนิดตนเองก็ไม่สูง ตำแหน่งฮองเฮานี้ อาจต้องยกให้กับคุณอื่น
ซือถูจิ้งมองดูสถานการณ์ รู้ว่าได้พูดจี้จุดอ่อนของหูฮวนหลิงแล้ว จึงทำตัวเป็นคนดีพูดปลอบว่า “ช่างเถอะ ข้ามีเรื่องไม่สบายใจ ก็เลยพูดกับเจ้ามากไป เจ้าไม่ต้องเอามาใส่ใจ อย่างน้อย ตอนนี้ฮ่องเต้ยังต้องอาศัยตระกูลหู...”
สุดท้ายคำว่าทรัพย์สมบัติ ซือถูจิ้งไม่ได้พูดออกมา แต่ในใจหูฮวนหลิงรู้ดี
เพียงแต่ฟังเช่นนี้แล้ว ในใจนางก็ยิ่งไม่สบายใจ
หูฮวนซีพูดแล้ว ไม่สามารถแบ่งเงินปันผล ก็หมายความว่า นางมีเงินที่สามารถเอาออกมาได้ไม่มากแล้ว
ใช้จ่ายในวังยังพอไหว แต่ทางด้านฮ่องเต้ หากไม่มีอะไรไปถวาย ตำแหน่งฮองเฮาของนางจะยังมั่นคงหรือ?
และหากยังมีซุนฟางเอ้อร์อยู่ ฮ่องเต้ก็จะไม่เห็นความดีของนาง
คำร่ำลือในเมืองหลวงยิ่งอยู่ก็ยิ่งมีเยอะขึ้น เริ่มต้นมีการพูดภายในหมู่ชาวบ้าน จากนั้นค่อยๆ เศรษฐี ขุนนางต่างก็ได้ยินคำร่ำลือเกี่ยวกับนังจิ้งจอกแล้ว
แต่ไม่มีใครพูดต่อหน้าหลีโม่ หลีโม่จึงถือว่าไม่รู้เรื่อง
ในคืนวันที่หูฮวนหลิงจัดงานเลี้ยง ซือถูเย้นก็กลับมาจากฉื้อโจว
เดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อย เขารีบเดินทางกลับมาเมืองหลวงอย่างไม่หยุดพัก
กลับมาถึงเมืองหลวง ล้างหน้าล้างตา ทานอาหารเสร็จ แล้วก็พูดคุยกับหลีโม่ว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”
“หยุดคำร่ำลือได้แล้วหรือ?” หลีโม่ถาม
“ไม่ ยิ่งอยู่ยิ่งเยอะ” ซือถูเย้นหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์
หลีโม่อึ้ง “ยิ่งขยายเยอะขึ้น? เกิดอะไรขึ้น?”
ซือถูเย้นยื่นมือลูบใบหน้าของนาง “ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เจ้าไปอยู่ตำหนักซีย่วนสักพัก ไม่ต้องกลับมาจวนอ๋อง”
“เพราะอะไรหรือ?” หลีโม่แปลกใจ ปกติเขาไม่ชอบให้นางเข้าใกล้ฉินโจว ตอนนี้กลับจะให้นางไปอยู่กับฉินโจว?
“ได้ทีฉินโจวโจรนั่นแล้ว” ซือถูเย้นถอนหายใจ แต่สีหน้ากลับไม่เป็นกังวลเลย
“เล่าแผนการมาสิ” หลีโม่ยอมให้ประโยคคำถามลอยอยู่บนหัวเสียที่ไหน ยังไงก็ต้องถามให้ชัดเจนให้เข้าใจ
ซือถูเย้นจูงมือของนาง ค่อยๆเดินไปบนเตียง “ข้าจะค่อยๆเล่าให้เจ้าฟัง เล่าให้เจ้าฟังอย่างละเอียด”
นอกประตู เย็นเอ๋อร์กางนิ้วมือนับเลข “หนึ่ง สอง สาม...”
หยางมามาตีหัวนางหนึ่งที “อะไรหนึ่งสองสาม?”
เย็นเอ๋อร์พูดว่า “ข้าได้ยินพี่ต้าจีนของจวนอ๋องหลี่ชินพูดว่า หมาสีทองต้าจีนของจวนอ๋องได้เป็นพ่อแล้ว ภรรยามันมีลูกหมาหกตัว พี่ต้าจีนพูดว่า หมาสีทองต้าจีนนอนกับภรรยาหกครั้ง ดังนั้นจึงมีลูกหกตัว ข้าจึงกำลังนับอยู่ว่าช่วงนี้ท่านอ๋องนอนกับพระชายาไปแล้วกี่ครั้งไง? มามา ข้าคิดดูแล้ว หากพระชายาท้อง น่าจะมีสิบกว่าคนล่ะ”
หยางมามามองดูเย็นเอ๋อร์อย่างเสียดาย “หน้าตาก็ดีนะ แต่โง่ไปหน่อย”
เย็นเอ๋อร์พูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “ข้ารู้อยู่แล้วว่าคนกับสุนัขไม่เหมือนกัน แต่ทางระกูลเฉินมีแฝดสี่คน คนอื่นคลอดได้ พระชายาของเราก็คลอดได้”
หยางมามาพูดอย่างไม่พอใจว่า “ข้าไปอาบน้ำก่อน เจ้าเฝ้าอยู่ตรงนี้ คืนนี้ข้าจะเข้าวังไปกับพระชายา”
คำพูดของเหลียงเฟย ที่จริงเป็นการเริ่มต้นพูดเสียดสีซุนฟางเอ้อร์ คำว่าปรนนิบัติรับใช้ฮ่องเต้อย่างลำบาก ทำให้คนหลายคนต่างก็หมั่นไส้
แล้วก็เป็นเช่นนั้น สายตาทุกคนที่มองดูซุนฟางเอ้อร์แฝงไปด้วยความโกรธเกลียดแล้วอิจฉาริษยา
เจินเฟยยิ้มบางเบา “กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงรูปร่างเซ็กซี่ หน้าตางดงาม ผู้ชายคนไหนจะไม่รัก? แต่การรักด้วยความงาม ไม่ยืนยาว หากไม่ดูแลตัวเองดีๆ กำเนิดราชทายาทให้กับฮ่องเต้ ความโปรดปรานนี้ ก็อยู่ได้แค่สองสามปีนี้”
หลังจากที่เจินเฟยมีองค์ชายสี่แล้ว ก็อยู่อย่างสมถะมาตลอด ใช่ว่านางไม่อยากแย่งชิง แต่เพราะองค์ชายสี่ของนางคลอดออกมาได้ไม่นานก็มีไข้ขึ้นสูง สติไม่ค่อยดี แต่ไม่ว่ายังไง มีองค์ชายอยู่ ตำแหน่งของนางก็นับว่ามั่นคงแล้ว
เพราะฉะนั้น ตอนที่นางพูดคำนี้ จึงดูค่อนข้างหยิ่งยโส
นางในฐานะที่เป็นคนผ่านน้ำร้อนมาก่อน อยากให้พวกคนที่อิจฉาริษยาพวกนั้นรู้ว่า ไม่ต้องใส่ใจ ผ่านไปปีสองปีฮ่องเต้รู้สึกเบื่อแล้ว ร่างกายนางไม่ดี มีลูกไม่ได้ ฮ่องเต้ก็จะทอดทิ้งนางเอง
หูฮวนหลิงฟังคำพูดพวกนี้แล้ว ในใจหวาดกลัว
ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมถึงไม่ท้อง?
นางแอบกลุ้มใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
นางได้ยินว่าพูดกันแต่เรื่องของจาวกุ้ยเฟย จึงขมวดคิ้วพูดขึ้นว่า “วันนี้ที่ข้าให้ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ อย่างแรกก็เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน อย่างที่สอง...”
นางมองดูหลีโม่กับหมุยเฟย พูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “ข้าได้ยินว่าระหว่างพระชายาอ๋องซื่อเจิ้งกับหมุยเฟยมีเรื่องหมางใจกัน ทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน มีอะไรไม่เข้าใจกัน ก็เปิดใจคุยกัน อย่าให้เป็นการทำลายความสัมพันธ์ภายในราชวงศ์”
หมุยเฟยอึ้ง เหลือบหันไปมองหลีโม่ หลีโม่ก็มองดูนาง แต่เมื่อเห็นนางหันมามอง ก็รีบหันหนี ทำเป็นคุยกับซุนฟางเอ้อร์
หมุยเฟยก็หงุดหงิดขึ้นมา “ฮองเฮาเหนียงเหนียง ใช่ว่าหม่อมฉันไม่อยากคืนดี แต่เพราะบางดื้อรั้นเกินไป ไม่ฟังคำอธิบาย”
หลีโม่พูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “เหนียงเหนียงพูดเกินไปแล้ว ข้าไม่ได้ดื้อ แต่แยกแยะอะไรดีอะไรชั่วได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...