บทที่ 888 เป็นเจ้าอีกแล้ว
ได้รู้ว่าซือถูเย้นกลับมาแล้ว ทุกคนต่างก็มาหา เดิมซือถูเย้นไม่อยากเจอ แต่ในเมื่อกลับมาแล้วยังไงก็ต้องเจอ
ไม่มีคำพูดอะไรจะพูด ทุกคนก็ไม่อยากพูดปลอบ หรือว่าพูดอะไรที่เป็นการให้ความหวัง อย่างเช่นหลีโม่จะกลับในสักวัน นางจะไม่เป็นอะไร
ในใจทุกคนต่างก็รู้ดี คำพูดพวกนี้ ไม่มีประโยชน์อะไร
ต่อให้หลีโม่หนีรอดไปจากฉู่จิ้งได้ พิษไสยศาสตร์ของพิษท่งหมิง จะถอนยังไง?
ฮ่องเต้น้อยก็มาพร้อมกับฮองไทเฮาหมู่ฮ่อง
เด็กที่อายุยังไม่ครบสิบห้า หน้าตาเหมือนกับพ่อของเขามาก แต่ดูสง่างามภูมิฐานมากกว่าพ่อของเขาเสียอีก อายุยังน้อย ก็มีลักษณะท่าทางแบบนี้ เพราะเขาอ่านหนังสือเยอะมาก
วันที่เขาขึ้นครองราชย์ ในที่ว่าราชการได้พูดว่า เขาจะต้องเป็นฮ่องเต้ที่ดีเหมือนกับอ๋องซื่อเจิ้ง
มีขุนนางแอบพูดเตือนว่า อ๋องซื่อเจิ้งไม่ใช่ฮ่องเต้ แต่ฮ่องเต้น้อยเหลือกตามองดูเขา “ข้าบอกว่าใช่ ก็ต้องใช่”
ไม่มีใครกล้าเถียง เด็กอายุสิบสามนั่งอยู่บนนั้น มีกลิ่นอายของจักรพรรดิโดยธรรมชาติ
ฮ่องเต้มองดูซือถูเย้น แล้วก็คุกเข่าก้มหัวลง ฮ่องเต้คนนี้ปกติที่อยู่ในที่ว่าราชการ หรืออยู่ในห้องปรึกษางานกับขุนนางชั้นหนึ่ง เข้ามาแสดงท่าทีเหมือนเด็กที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว แม้กระทั่งเขาอยู่ต่อฮองไทเฮาหมู่ฮ่อง เขาก็มักจะสงบเสงี่ยม ไม่พูดไม่จา
แต่เมื่อเห็นซือถูเย้น หลังจากคุกเข่าแล้ว กลับร้องไห้ออกมาเป็นทาง
เด็กคนเนี่ยเป็นฮ่องเต้ ถึงแม้จะมีขุนนางหลี่กับอ๋องเย่ตงช่วยเหลือ แต่ยังไงก็ต้องกดดันอยู่ไม่น้อย มีตัวเขาเองที่รู้
ซือถูเย้นประคองเขาขึ้นมา แล้วช่วยเขาเช็ดน้ำตาพร้อมพูดว่า “เจ้าเป็นฮ่องเต้แล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว จะร้องไห้เหมือนเด็กแบบนั้นไม่ได้”
“หลานคิดถึงเสด็จอา ในใจหลานทรมาน” ยังไงห้องแต่ก็เป็นแค่เด็กที่กำลังโต
ฮองไทเฮาเห็นแล้วก็สงสาร หันไปเช็ดน้ำตา
อาหลานสองคน คุยกันอยู่ห้องหนังสือประมาณหนึ่งชั่วโมง ตอนที่ฮ่องเต้ออกมา ดึงแขนเสื้อซือถูเย้นเหมือนดั่งเด็กน้อยแล้วก็พูดว่า “ต่อไปเสด็จอาไม่ต้องไปไหนแล้ว”
ซือถูเย้นหัวเราะ รอยยิ้มนี้โศกเศร้ามาก “ยังไม่รู้ รอดูก่อนค่อยว่ากัน”
ตอนนี้ก็ใกล้ฤดูร้อนแล้ว อากาศค่อยๆเริ่มร้อน แต่ฮองไทเฮากับรู้สึกเหมือนร่างกายซือถูเย้นสั่นเทาเยือกเย็นไร้ชีวิต
ด้วยอายุของเขา ถึงแม้จะไม่เยาว์วัย แต่ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความคึกคะนอง ความเยือกเย็นไร้ชีวิตนี้ จะเห็นได้แต่ในร่างกายของคนแก่เท่านั้น
ฮองไทเฮาคิดถึงหลีโม่ ในใจทรมาน นางเคยทำผิดไว้มาก หลีโม่แค่ด่า ทำให้นางรู้สึกตัวขึ้นมา และก็มีสติขึ้นมา
นางหวังเพียงว่า เรื่องที่นางกระทำผิดในตอนนั้น จะไม่เป็นสาเหตุที่ทำให้หลีโม่หายสาบสูญไป
ตอนที่จะกลับ นางเดินมาถึงหน้าประตู แล้วพูดกับฮ่องเต้ว่า “จะรอข้าแป๊บหนึ่ง ข้ามีเรื่องจะคุยกับเสด็จอาของเจ้าหน่อย”
ฮ่องเต้คิดว่านางคงจะไปพูดปลอบซือถูเย้น จึงพูดว่า “ได้ ข้ารอหมู่ฮ่องอยู่ด้านนอก”
ฮองไทเฮาเดินกลับไป ซือถูเย้นยังคงยืนมองดูดอกไม้อยู่ที่หน้าระเบียง นางสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินเข้าไป “ท่านอ๋อง ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”
ซือถูเย้นขมวดคิ้วขึ้น “ไทเฮาจะพูดอะไร ข้าคิดว่าข้ารู้ แต่ไม่จำเป็นต้องพูด”
ฮองไทเฮาส่ายหัว “ไม่ใช่ ข้าไม่ได้อยากพูดปลอบให้ท่านอ๋องทำใจ ท่านอ๋องยังจำได้ไหม คดีชานเมืองในตอนนั้น? คดีที่แม่ลูกนั่นตายไปด้วยกัน”
ซือถูเย้นค่อยๆหันหน้ามา แววตาเยือกเย็นขึ้นมาทันที “จำได้สิ”
คดีนั้น ทำให้หลีโม่ต้องฝันร้ายอยู่ตั้งนาน
เขาเอามือทั้งคู่ปิดหน้า แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา ตั้งแต่เกิดเรื่องกับหลีโม่จนถึงตอนนี้ ผ่านมาสองปีกว่าแล้ว เขาไม่เคยน้ำตาไหลสักครั้ง เขาจะเป็นคนปล่อยวางก่อนไม่ได้
แต่มาถึงตอนนี้ เขารู้สึกว่าความทุกข์ของตัวเองล้วนเป็นการหลอกตัวเอง
ไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าความหมดหวัง
ความตายนั้นเผด็จการมาก แต่สิ่งที่เผด็จการยิ่งกว่าความตายก็คือ เจ้าไม่รู้เลยว่านางตายยังไง การหายตัวไปของหลีโม่กลายเป็นปริศนา เขาอยากไขปริศนา แต่ก็ไม่รู้จะไขยังไง และก็หานางไม่เจอ
เขาตามหามาแล้วสองปี อยากตามหาหลักฐานที่แสดงว่าชีวิตอยู่
กลับเมืองหลวงมาในครั้งนี้ ความหวังของเขาทั้งหมดดับสูญแล้ว
หลีโม่
ในใจของเขาเรียกชื่อนี้อยู่อย่างบ้าคลั่ง หลายปีมานี้ มักจะพูดกับอากาศเหมือนดั่งคนบ้า ทำเป็นเหมือนนางยังอยู่ข้างกายตัวเอง
ประตูถูกเปิดออกเบาๆ มามาเดินเข้ามาอย่างระวัง
แต่ไม่พูดอะไร แค่ยืนนิ่งๆอยู่ด้านข้างตรงนั้น
ซือถูเย้นรวบรวมสติ อยากให้นางออกไป
แต่ตอนที่เขากำลังเงยหัว มามากลับพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ให้บ่าวได้ยืนอยู่ที่มีสักพัก สองปีมานี้บ่าวหวังอยากให้ในห้องนี้มีคนมาตลอด”
น้ำเสียงของนางแฝงไปด้วยเสียงร้องไห้ ความโศกเศร้าทุกข์ระทมแบบนั้น มีมากจนไม่อาจสลาย
ใจของซือถูเย้น เหมือนถูกกระทบอย่างแรง เจ็บปวดอย่างที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...