อคิรารีบเข้าไปช่วยมิเรียม แต่มือของเขาก็หยุดกลางอากาศอย่างกะทันหันเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงออร่าที่น่ากลัวรอบตัวเธอ
เขาลังเลและช่างใจว่าเขาควรแตะต้องเธอดีไหม
เมื่อมองไปที่ผู้หญิงที่นั่งนิ่งและมีเหงื่อไหลลงมาที่หน้าผากของเธอ ในที่สุดเขาก็รวบรวมความกล้าและอุ้มเธอขึ้นมา
ด้วยความประหลาดใจ เธอตัวเบากว่าที่เขาคาดไว้สำหรับคนสูงเกือบร้อยเจ็ดสิบเซ็นติเมตร
อันที่จริง เขาคิดว่าเธอหนักประมาณห้าสิบกิโลกรัมเท่านั้น
“ยะ-อย่าแตะตัวฉันนะ!”
มิเรียมยังคงสามารถจ้องเขาด้วยสายตาที่แข็งกระด้างแม้จะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม
มันไม่มีอะไรเทียบได้เลยว่าเธอเกลียดการสัมผัสของผู้ชายมากแค่ไหน นับประสาอะไรกับการถูกอุ้มโดยผู้ชาย เธอขนลุกกไปทั่วร่างกายทันทีที่อคิราสัมผัสเธอ
ชายคนนั้นหลบสายตาไม่เป็นมิตรของเธอและค่อย ๆ วางเธอลงบนโซฟาและพูดว่า “ดูคุณสิ คุณกินข้าวไม่เป็นเวลา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงเป็นโรคกระเพาะ”
เดี๋ยวนะ เขารู้ได้อย่างไร เราเพิ่งรู้จักกันแค่วันเดียวเองนะ!!
มิเรียมตกตะลึงที่อคิรารู้เรื่องเธอมากขนาดนี้ แต่ไม่ทันที่เธอจะตอบกลับ อคิราก็เปิดชุดนอนของเธอขึ้น
“คะ-คุณคิดว่าคุณกำลังทำอะไรน่ะ ฉันจะฆ่าคุณ!” มิเรียมระเบิดอารมณ์ออกมาและบิดแขนของอคิรา
ไม่มีทางที่เธอจะปล่อยให้ผู้ชายอย่างเขาเอาเปรียบเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเป็นลูกสาวของครอบครัวคุณาพงษ์และฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาทั้งชีวิต
แม้ว่าการจับจะเจ็บปวดเพียงใด แต่อคิราก็ไม่ต่อสู้กลับ “ผมแค่พยายามจะบรรเทาความเจ็บปวดของคุณ” เขาอธิบายและกัดฟันกรอด
ให้ตายเถอะ รูปลักษณ์ภายนอกนี่หลอกคนได้จริง ๆ เธอไม่เหมือนผู้หญิงเลย แม้ว่าเธอจะสวยแค่ไหนก็ตาม!
“คุณเป็นสูตินรีแพทย์ไม่ใช่เหรอไง คุณรู้เรื่องอายุรศาสตร์ด้วยเหรอ”
มิเรียมมีข้อสงสัย แต่ไม่มีเวลาสำหรับเรื่องนั้น อาการกระตุกอย่างเจ็บปวดรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ทำให้เธอต้องยอมปล่อยอคิราและจับท้องของเธอไว้
“ผมโทรเรียก 191 ให้ได้นะถ้าคุณไม่เชื่อใจผม แต่คุณจะต้องทนเจ็บจนกว่าคุณจะไปถึงโรงพยาบาล”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มิเรียมก็หยิบโทรศัพท์ของเธอมาโทรออก เพราะไม่มีทางที่เธอจะกลืนอัตตาของเธอและปล่อยให้อคิราทำตามใจ แต่เมื่อคนหลังเห็นเธอขดตัวเป็นลูกบอลเพราะความเจ็บปวด เขาก็ปัดโทรศัพท์ของเธอออกไปและนั่งยอง ๆ ลงข้างหน้าเธอ
จากนั้น มิเรียมก็รู้สึกถึงฝ่ามือที่ใหญ่และอบอุ่นเปิดชุดของเธอขึ้นทันทีหลังจากนั้น แต่เธอไม่ได้หยุดเขา
เธอทำไม่ได้
นอกจากนี้ เธอคิดว่าเธอควรเชื่อใจอคิราสักครั้ง เพราะเธอสามารถสับเขาเป็นชิ้น ๆ ได้ทีหลัง หากเธอรู้ว่าเขาเอาเปรียบเธอ
ในขณะเดียวกัน อคิรารู้สึกว่าหัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงเมื่อเห็นขาเนียนสวยและไร้ที่ติของมิเรียม
อันที่จริง เขากลืนน้ำโดยไม่รู้ตัวเมื่อเขายกกระโปรงของเธอขึ้น
ในฐานะสูตินรีแพทย์ เขาไม่เคยรู้สึกถึงแรงดึงดูดที่ไม่อาจต้านทานได้ต่อผู้หญิงคนไหนเลยยกเว้นมิเรียม แต่เขาตั้สติอย่างรวดเร็วและลูบมือตัวเองก่อนที่จะทำให้ท้องของเธออุ่นด้วยความร้อนจากฝ่ามือของเขา
“อ่า...”
ในที่สุด มิเรียมก็รู้สึกสบายตัวขึ้นเมื่อความอบอุ่นพุ่งผ่านท้องของเธอ ขจัดความเจ็บปวดจากก่อนหน้านี้ออกไปได้
จากนั้น อคิราทำแบบเดิมซ้ำสองสามครั้งแล้วนวดหน้าท้องส่วนล่างของเธอ
โอ้ หน้าท้องของเธอแน่นและกระชับมาก เธอต้องมีวินัยในออกกำลังกายเป็นประจำมากแน่ ๆ
“คุ-คุณทำอะไรน่ะ” มิเรียมถามและกัดริมฝีปากล่างของเธอ
เธอเกลียดการสัมผัสของผู้ชายมาโดยตลอด แต่คราวนี้ มันรู้สึกแตกต่างออกไปเมื่ออคิราสัมผัสเธอ
แม้ว่าความรู้สึกไม่พอใจจะยังคงอยู่ แต่มิเรียมก็รู้สึกดีและเขินอายไปพร้อม ๆ กัน ความรู้สึกนี้ทำให้เธองงงวย
“ผมกำลังกดจุดฝังเข็มของคุณน่ะ” อคิราตอบพร้อมหลุบตาลงเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตา เมื่อสายตาของเขาลดลง เขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองขาของมิเรียม
เธองามราวกับรูปปั้นจริง ๆ!
แต่เขาไม่รู้เลยว่ามิเรียมกำลังเฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของเขาอยู่
ฉันว่าแล้ว ในที่สุดผู้ชายคนนี้ก็ธาตุแท้ของเขาออกมา พวกผู้ชายก็มักจะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษก่อนที่พวกเขาจะแต่งงานกับเรา แต่ความจริงก็คือผู้ชายทุกคนก็เหมือนกันหมด บ้ากามกันทุกคน
ถามจริงนะ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมการสืบพันธุ์ของมนุษย์ต้องเกิดขึ้นระหว่างชายและหญิง ฉันพนันได้เลยว่าผู้หญิงคนอื่นก็รู้สึกไม่สบายใจกับมันเช่นกัน!
เหอะ นี่เธอต้องจริงจังขนาดนี้เลยเหรอ
อคิรากลอกตาและยิ้มอย่างจำนน สาบานเลยว่าการทำความรู้จักกับผู้บริหารนั้นยากกว่าการทำงานที่โรงพยาบาลเสียที
ฉันเป็นซีอีโอของเทวินกรุ๊ป ใครจะกล้าสั่งฉันได้
“ผมก็แค่เตือนด้วยความหวังดีน่ะ” อคิราตอบอย่างเคร่งขรึมในทันที “คุณเป็นภรรยาของผม และตอนนี้ก็เป็นคนไข้ด้วย ดังนั้นคุณควรเชื่อฟังผมนะ”
มิเรียมขใวดคิ้วขณะที่เธอจ้องไปที่ชายหนุ่ม
ในท้ายที่สุด เธอเลิกเถียงกับเขาและเริ่มกิน แต่เมื่อเธอเห็นอาหารราคาถูก เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วอีกครั้ง
“นี่มันกินได้ใช่ไหม”
“คุณไม่ตายเพราะกินอาหารรสจืดหรอกน่า แต่คุณจะทรมาณแน่นอนถ้าคุณนอนแบบท้องว่าง!”
อคิราใกล้จะหมดความอดทนแล้ว เขาไม่เข้าใจว่าทำไมมิเรียมถึงดื้อรั้นขนาดนี้
ในที่สุด มิเรียมก็ขยับตัวและหมุนเส้นพาสต้าด้วยส้อม
เธอเริ่มเคี้ยวอย่างช้า ๆ ก่อนที่ใบหน้าของเธอจะเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
“หื้ม! นี่อร่อยใช้ได้เลยนะ หวังว่าน้ำหนักฉันจะไม่ขึ้นเพราะกินมื้อดึกเป็นครั้งคราวหรอกนะ” เธอออกความคิดเห็น
เป็นครั้งแรกที่มิเรียมคิดว่าการอยู่กับผู้ชายไม่ใช่ความคิดที่ไม่ดีเสียทีเดียว เพราะแน่นอนว่ามันรู้สึกแตกต่างจากการมีแม่บ้านที่บ้าน
พฤติกรรมของเธอทำให้อคิราพูดไม่ออก
ฉันว่าผู้หญิงก็ยังจะเป็นผู้หญิงอยู่วันยันค่ำ เธออาจจะเกลียดผู้ชาย แต่เธอยังคงใส่ใจภาพลักษณ์ของเธอ เช่นเดียวกับผู้หญิงคนอื่น ๆ เธอมีชีวิตอยู่เพื่อความงามของเธอ
“จะเป็นอะไรไหมถ้าฉันอิ่มแล้ว” มิเรียมถามอคิราเหมือนผู้ป่วยที่ขอความเห็นชอบจากแพทย์หลังจากทานอาหารเพียงสองคำ
อคิราโกรธมาก
ฉันไม่เข้าใจเลยว่าคนเราจะดื้อขนาดนี้ได้อย่างไร! ฉันอุตส่าห์ทำมาให้เธอกินโดยเฉพาะ แต่เธอกินไปแค่สองคำเท่านั้น!
เมื่อรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพยายามเปลี่ยนใจเธอ อคิราจึงเก็บความไม่พอใจและเก็บจานและช้อนส้อมก่อนออกจากห้องไป
“อ้อ” จู่ ๆ เขาก็เปล่งเสียงออกมาเมื่อเขาเกือบจะถึงประตู “คุณจะว่างไปที่บ้านผมกับผมเมื่อไหร่ แม่ของผมอยากเจอคุณน่ะ”
หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความกังวลขณะที่เขารอคำตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์ว้าวุ่นกับเจ้าสาวซีอีโอ