วิวาห์ว้าวุ่นกับเจ้าสาวซีอีโอ นิยาย บท 10

ฟากฟ้าตกใจมากกับการวินิจฉัยนั้น

ในตอนนั้นเอง แพทย์จากแผนกอายุรศาสตร์เดินเข้ามาหาเขาและพูดว่า “มะเร็งของแม่คุณอยู่ในระยะลุกลามแล้ว เธอต้องผ่าตัดทันที ไม่อย่างนั้นชีวิตของเธอจะตกอยู่ในอันตราย!”

เสียงของฟากฟ้าสั่นเครือขณะที่เขาถามว่า “ค่า...ค่าผ่าตัดต้องใช้เท่าไหร่ครับ”

“สามแสน ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมก็จะถูกเรียกเก็บเงินแยกต่างหาก” แพทย์คนนั้นจากไปหลังจากพูดจบ

การเป็นหมอที่โรงพยาบาลทำให้ฟากฟ้ารู้นโยบายของโรงพยาบาลเป็นอย่างดี เขารู้ว่าจะผ่าตัดได้หลังจากชำระเงินแล้วเท่านั้น

“อคิรา ตอนนี้ฉันควรทำอย่างไรดี ฉันไม่มีเงินสามแสนหรอกนะ!”

ฟากฟ้าไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

เขาทำงานที่โรงพยาบาลเพียงสองปี และรายได้ส่วนใหญ่ของเขาถูกใช้ไปกับค่าเทอมมหาวิทยาลัยของน้องสาวของเขา ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่เหลือเงินออมมากนัก

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเราก็หาทางได่น่า!” อคิราปลอบโยนเพื่อนของเขา

หลังจากหยุดไปชั่วขณะ เขาก็ยัดบัตรธนาคารที่อารยามอบให้เขาใส่ในมือของฟากฟ้าแล้วพูดว่า “เอาบัตรนี้ไปก่อน ในนี้มีเงินอยู่หกหมื่น”

“นะ-นี่... นี่มันบัตรธนาคารของแม่นายไม่ใช่เหรอ ฉันจะใช้เงินนี้ได้อย่างไร” ร่างของฟากฟ้าสั่นสะท้านขณะที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยน้ำตา

นั่นคือเงินของแม่ของเพื่อนสนิทของเขาที่ได้มาอย่างยากลำบาก มันรู้สึกไม่ถูกต้องสำหรับเขาที่จะใช้มัน

“อย่ากังวลเรื่องนั้นเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือการช่วยแม่ของนายนะ!” อคิรายืนกรานให้ฟากฟ้าเก็บบัตรธนาคารไว้

“แต่ถึงแม้จะมีบัตรนี้ ฉันก็ยังไม่มีเงินสามแสนอยู่ดี! อย่างมากที่สุดในวันนี้ฉันก็หาได้แค่แสนเดียว” ฟากฟ้าตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ฟังดูเหมือนน้ำตาของเขาจะไหลรินแล้ว

“อีกอย่าง ฉันรับเงินของแม่นายไว้ไม่ได้จริง ๆ ฉันไม่รู้ว่าฉันต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการหามาคืน...”

อคิรารู้สึกหมดหนทางเช่นกันเมื่อเห็นใบหน้าที่เจ็บปวดของฟากฟ้า

ในขณะนั้น มาลินีบังเอิญเดินผ่านมาและสังเกตเห็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างชายสองคน

“ฮ่า! พวกคุณไม่คิดว่ามันน่าอายหรือไงที่ผู้ชายที่โตแล้วสองคนมาร้องไห้ในโรงพยาบาลน่ะ”

มาลินีดูถูกอคิรามาโดยตลอดและเพิ่งทะเลาะกับฟากฟ้าก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าเธอจะไม่ปล่อยโอกาสที่จะเยาะเย้ยพวกเขาให้หลุดมือไป

“มาลินี หุบปากซะ!” อคิราตำหนิผู้หญิงคนนั้นสำหรับคำพูดประชดประชันของเธอ

เนื่องจากฟากฟ้าใจสลายมากอยู่แล้วจากคำวินิจฉัยโรคมะเร็งของแม่ของเขา อคิราจึงไม่สามารถยอมให้มาลินีทำให้เขารู้สึกแย่ลงไปอีก

อย่างไรก็ตาม โดยไม่คาดคิด เมื่อฟากฟ้าเห็นมาลินี เขาก็เริ่มที่จะอ้อนวอนเธอว่า “มาลินีสุดสวย ดูจากหน้าตาที่มีเสน่ห์ของคุณแล้ว คุณต้องรวยมากใช่ไหม”

ด้วยท่าทีแปลก ๆ ของชายหนุ่ม มาลินีจึงถอยหลังไปสองสามก้าวและถามอย่างระมัดระวังว่า “คุณ-คุณต้องการอะไร”

“โปรดให้ฉันยืมเงินสักสองแสนเถอะนะ! แม่ของฉันเพิ่งตรวจเจอมะเร็งและจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดทันที ได้โปรดเถอะนะ ขอร้องล่ะ! ฉันจะรีบคืนทันทีเมื่อหาได้!” ฟากฟ้าอ้อนวอนมาลินีอย่างสิ้นหวัง เขาแทบจะคุกเข่าลงแล้ว แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยังไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขายืมเงินเลย

นอกจากความจริงที่ว่าเธอไม่มีเงินมากขนาดนั้นแล้ว แต่แม้ว่าเธอจะมี มันก็ไม่มีเหตุผลให้เธอต้องให้เขายืม

“ฮะ! คุณบ้าไปแล้ว ฉันไม่มีเงินสองแสนให้คุณยืมหรอก”

เธอหยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อว่า “นี่สินะเป็นเหตุผลว่าคนจนถึงน่าสงสารมาก คุณไม่สามารถจ่ายค่าผ่าตัดของแม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่น่าแปลกใจที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากแต่งงานกับคุณ”

มาลินีไม่เพียงแต่ไม่ยอมช่วยเท่านั้น แต่เธอยังทำให้เขารู้สึกแย่กว่าเดิมก่อนที่เธอจะเดินออกไป

ฟากฟ้าลุกโชนด้วยความโกรธหลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นจากไป ถ้าอคิราไม่ห้ามเขาไว้ เขาคงจะตีเธอจนน่วมไปแล้ว!

“ฟากฟ้า ใจเย็น ๆ ก่อนสิ!” อคิรากอดฟากฟ้าไว้แน่น พยายามอย่างเต็มที่เพื่อปลอบโยนเพื่อนของเขาซึ่งใกล้จะสติแตกแล้ว

ในที่สุดฟากฟ้าก็ใจเย็นลงได้ ถ้าเขาทำร้ายมาลินี เขาก็คงถูกจับและจะไม่มีใครหาเงินมาจ่ายค่าผ่าตัดของแม่ของเขา

ฟากฟ้าติดต่อคนจากรายชื่อในโทรศัพท์ของเขา รวมถึงคนที่เขาไม่สนิทด้วย เขาโทรติดต่อกันมากกว่าสิบสายเพื่อขอยืมเงินจากพวกเขา

เพื่อช่วยเพื่อนของเขา อคิราก็ช่วยติดต่อกับคนที่เขารู้จักด้วย

แม้จะมีความพยายามแค่ไหน แต่ชายสองคนก็สามารถยืมเงินมาได้เพียงเจ็ดหมื่นเท่านั้น ซึ่งยังไม่ถึงหนึ่งในสามของเงินสามแสนที่พวกเขาต้องการเลย

“เราควรทำอย่างไรดี แม่ของฉันอาจจะตายได้ถ้าเธอได้ผ่าตัดช้า!” ในที่สุดฟากฟ้าก็ทรุดตัวลงและเริ่มสะอื้นไห้ต่อหน้าอคิรา

อคิราถอนหายใจและพูดว่า “อย่าร้องไห้เลยนะ ขอฉันลองถามภรรยาของฉันดูก่อน ฉันแน่ใจว่าเธอจะให้นายยืมแน่!”

ในความเป็นจริง อคิราไม่แน่ใจว่ามิเรียมจะตกลงที่จะช่วยหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่หมดหนทางแล้ว

ด้วยสถานะทางสังคมของพวกเขา มันไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะหายืมสามแสนในเวลาอันสั้นเช่นนี้

“ภรรยาของนายเหรอ” ฟากฟ้าตกใจมากจนน้ำตาของเขาหยุดไหลทันที “อคิรา นายก็บ้าไปแล้วเหมือนกันเหรอ นายมีภรรยาตั้งแต่เมื่อไหร่”

ไม่รู้ว่าจะอธิบายสถานการณ์อย่างไร อคิราจึงเพียงแค่ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะโทรหามิเรียม

หลังจากเหตุการณ์เมื่อวันก่อน อคิราได้ท่องจำหมายเลขของมิเรียมไว้เผื่อว่าเธอบล็อกวอตส์แอปป์เขาอีกครั้ง

คุณมิเรียมงั้นเหรอ ฟากฟ้าตกตะลึง เธอเป็นภรรยาของเขาจริง ๆ เหรอ ทำไมเขาถึงพูดจากับภรรยาของเขาแบบนั้นล่ะ

สรุปว่าคำตอบคืออะไรกันแน่ล่ะ นี่คือการปฏิเสธหรือเปล่า

ตอนที่ 10 อคิรามีภรรยาแล้ว 1

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์ว้าวุ่นกับเจ้าสาวซีอีโอ