ฉินซูสวมหน้ากากอนามัยมาที่ห้องทดลอง สมาชิกคนอื่น ๆ ต่างก็มาถึงแล้ว ทุกคนกำลังพูดคุยเกี่ยวกับจดหมายขอโทษฉบับนั้น
หม่าเฉิงเดินมาตรงหน้าของฉินซู เขาพูดด้วยความรู้สึกผิด "เหอซู ขอโทษด้วยที่ฉันบอกว่าเธอคัดลอกงานคนอื่นมา"
ฉินซูพยักหน้า "อาจารย์หม่าคะ ฉันเข้าใจว่าคุณเป็นห่วงชื่อเสียงของทีมเราและศาสตราจารย์ฉาง"
"ซิงโหยวเป็นบริษัทที่ใหญ่โตขนาดนั้น มาทำเรื่องแบบนี้ไม่อายบ้างเลย ได้ยินว่าทำไปเพราะจะสร้างภาพลักษณ์นักเรียนดีเด่นให้กับศิลปินที่ชื่อหวังอี้หลิน! เหอะ ๆ คนแบบนี้กล้าเปิดตัวได้ยังไง วงการบันเทิงนี่ประหลาดจริง ๆ" นักศึกษาชายที่ชื่อจางอี้เฟยพูดขึ้น
นักศึกษาหญิงอีกคนหนึ่งก็เรียกฉินซู "หวังอี้หลิน? เพื่อนของฉันที่เรียนที่มหาวิทยาแพทย์ไห่เฉิง เหมือนจะเคยพูดถึงเธอนะ เหอซูเธอก็เรียนที่นั่น เธอรู้จักหล่อนไหม?"
ฉินซูหลบสายตาเล็กน้อย "ไม่รู้จัก"
นักศึกษาหญิงร้องอ๋อ และดึงมือของเธอกลับพร้อมกับขจัดความอยากนินทาของเธอออกไป
คนหลายคนพูดคุยกัน ฉินซูหลบอยู่ในมุมที่ไม่เป็นที่สะดุดตา รอศาสตราจารย์ฉางเข้ามาอย่างเงียบ ๆ
จางอี้เฟยพูดขึ้น “ตอนนี้เรื่องนั้นชัดเจนแล้ว เราได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของทีมเรา และเราก็จะสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้อย่างราบรื่นอย่างแน่นอน”
ทันทีที่เขาพูดจบ ศาสตราจารย์ฉางก็เดินเข้ามา
เขามีใบหน้าที่เคร่งขรึม ผมหงอกสีขาว และสวมชุดสูทสีเทา
ทุกคนในห้องปฏิบัติการมองมาที่เขาอย่างกระตือรือร้น
ฉางเหล่าดูสง่า เขาเหลือบมองไปที่ฉินซูที่หลบมุมอยู่ และหันไปหาทุกคนอีกครั้ง เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า "ผมได้พูดคุยกับคณะกรรมการแล้ว ความหมายของพวกเขาคือ พวกเรายังคงต้องตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้ง แต่เวลาที่จะจัดการแข่งขันนั้น ไม่สามารถรอพวกเราตรวจสอบจนจบได้ ดังนั้นพวกเขาจะไม่เปลี่ยนคำตัดสิน"
“หมายความว่าอย่างไรครับ พวกเรายังคงถูกตัดสิทธิ์เหรอครับ?” จางอี้เฟยกล่าว
คนอื่น ๆ ที่กำลังมีความหวังอยู่เมื่อครู่ จู่ ๆ ความหวังเล็ก ๆ ของพวกเขาก็ถูกทำลายลง บรรยากาศก็กลับหม่นหมองลงอีกครั้ง
ฉินซูไม่ได้คาดหวังผลดังกล่าว เธอขมวดคิ้ว
เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินไปที่ฉางเหล่า "ฉันจะหาทางแก้ไขเรื่องนี้เองค่ะ"
จางอี้เฟยเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจและกล่าวว่า "ฉางเหล่าออกตัว ยังไม่ได้ผลเลย เธอมีวิธีเหรอ? อย่าอวดไปหน่อยเลย!"
ฉินซูไม่สนใจเขา แต่มองไปที่ฉางเหล่า
ฉางเหล่าลังเล แต่เมื่อนึกถึงตำแหน่งของฉินซู ในที่สุดเขาก็พยักหน้า
ฉินซูคิดถึงใครบางคนที่อาจช่วยได้
เธอกลับไปที่บ้านพักตากอากาศและพบนามบัตรที่ฉู่โจวให้ไว้ วางอยู่บนโต๊ะ
ก่อนที่จะโทรออก ฉินซูอมยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อฉู่โจวมาส่งเธอที่บ้านครั้งที่แล้ว เขาขอให้เธอบอกถ้าเธอต้องการความช่วยเหลืออะไร แต่เธอไม่คิดว่าจะขอความช่วยเหลือจากเขาเร็วขนาดนี้
ฉู่โจวเป็นประธานตัดสินการแข่งขัน นอกจากขอให้เขาช่วยแล้ว ฉินซูก็นึกไม่ออกว่าควรโทรหาใครได้อีก
อย่างไรก็ตาม ฉู่โจวก็เป็นคนของตระกูลฉู่ ซิงโหยวเอนเตอร์เทนเมนท์ ล้วนเป็นธุรกิจในเครือตระกูลฉู่ทั้งนั้น
เหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของตระกูลฉู่ ฉินซูไม่สารมารถแน่ใจได้ว่า ฉู่โจวจะช่วยเธอไหม…
แต่เธอจะไม่ยอมแพ้การแข่งขันแน่นอน
จึงรวบรวมความกล้าและกดโทรออก
ฉินซูอธิบายสถานการณ์ ฉู่โจวเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เรื่องนี้ไว้คุยตอนเราเจอกันเถอะ ตอนนี้ฉันยังมีเรื่องต้องจัดการอยู่”
“ค่ะ”
อย่างไรเสียเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ หมายความว่าเธอยังมีโอกาสอยู่ ฉินซูรีบตอบตกลงอย่างดีใจ
ช่วงเย็นวันนั้น
เมื่อมาถึงที่ห้องอาหารที่ได้ตกลงกันไว้
เพราะฉินซูไม่ได้พูดรายละเอียดเมื่อตอนที่โทศัพท์หาเขา ฉู่โจวเอ่ยปากถามขึ้น "ฉันขอถามสักนิดได้ไหมว่า เธอมีความสัมพันธ์ยังไงกับศาสตราจารย์ฉาง?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...