เห็นได้ชัดว่าเป็นของที่ฉู่หลินเฉินทิ้งไว้ เกี่ยวอะไรกับผู้ช่วยเว่ย?
ยิ่งไปกว่านั้นสองวันนี้เธอไม่ได้คิดที่จะออกไปข้างนอก
ฉินซูไม่ได้ดูของที่อยู่ในกล่อง หลังจากเธอรับประทานอาหารเสร็จ ก็เตรียมที่จะขึ้นไปชั้นบน
ในเวลาเดียวกันก็มีเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยโทรเข้ามา
ฉินซูลังเลเล็กน้อยและกดรับ “สวัสดีค่ะ”
“คุณฉิน” เสียงผู้หญิงทุ้มต่ำดังออกมาจากปลายสาย ในเสียงพูดนั้น แฝงไปด้วยรอยยิ้มที่เหมือนจะไม่ได้ยิ้ม “วันนั้นต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ที่ลูกน้องของฉันมือไว คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีตัณหาราคะแบบนั้น คุณไม่ต้องกังวลนะ ฉันได้ให้บทเรียนที่ลึกซึ้งกับพวกเขาแล้ว”
“คุณคือหานเซี่ยว?” ฉินซูถาม ในคำพูดของเธอมีความสงบเยือกเย็น
“ฮ่าฮ่า คุณฉินคุณรู้ว่าฉันเป็นใครแล้วเหรอ? งั้นฉันก็ไม่ต้องแนะนำตัวเองแล้วสิ พูดตรง ๆ นะ ฉันตั้งใจโทรมาเพราะอยากที่จะเจอคุณฉิน”
ดวงตาของฉินซูเป็นประกาย
คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นไปตามที่ฉู่หลินเฉินพูดจริง ๆ
หรือว่าผู้ชายคนนั้นจะคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าได้?
“คุณฉิน คุณจะมาไหม?” ฉินซูตอบช้า หานเซี่ยวเลยถามซ้ำอีกรอบ
ฉินซูกลับมานิ่งเฉยอีกครั้งและพูดตอบรับ “ตกลง”
หลังจากวางสายเธอก็นึกถึงผู้หญิงที่ชื่อหานเซี่ยวคนนั้น ภายในใจก็รู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาทันที
แต่ในตอนนี้เธอตอบรับคำเชิญของหานเซี่ยวที่ต้องการพบเธอแล้ว
ฉินซูเปิดกล่องที่ฉู่หลินเฉินทิ้งไว้ และพบว่าด้านในคือตลับแป้งพัฟ เธอชะงัก ต่อมาก็ปรากฏรอยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
ผู้ชายคนนั้นจริง ๆ เลย...
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็ใช้แป้งพัฟปกปิดร่องรอยบนใบหน้า จากนั้นฉินซูก็ถือกระเป๋าออกจากบ้านไป
เนื่องจากความระมัดระวัง เธอยังตั้งใจวางเข็มเงินสองเข็มไว้ที่ตำแหน่งแนบติดตัวไปด้วย เพื่อใช้ป้องกันตัว
สถานที่ที่เฉินเซี่ยวนัดพบเธอ คือที่ร้านกาแฟชั้นหนึ่งของโรงแรม
ครั้งก่อนที่เจอเธอคือบนเตียง ท่าทางที่หลงระเริงอย่างเต็มที่ยังฝังลึกอยู่ในหัวของฉินซู
ครั้งนี้ที่เจอกันอีกครั้งเธอกลับสวมชุดกี่เพ้าสีดำรัดรูป ผมสีแดงถูกเกล้าขึ้น ใส่หมวกตาข่ายสไตล์ผู้ดีอังกฤษสีดำ ถุงมือสีดำ บนข้อมือใส่สร้อยข้อมือไข่มุกสีขาวราวหิมะ
สูงส่งและเพียบพร้อม มีเสน่ห์และสง่างาม
แตกต่างกันราวกับเป็นคนละคนจริง ๆ!
ฉินซูนั่งลงตรงข้ามเธอ และพินิจพิจารณาอย่างมีสมาธิแน่วแน่ แม้จะมีเรื่องยุ่งใจมากมายก็ตามกับใบหน้านั้นของเธอที่สง่างามได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ทำให้ผู้คนแยกแยะอายุไม่ออก
ดูแล้วไม่น่าจะเกินยี่สิบห้ายี่สิบหกปี แต่ฟังจากน้ำเสียงของเธอแล้วน่าจะสามสิบกว่าปี
หานเซี่ยวก็กำลังสังเกตฉินซูอย่างละเอียดเช่นเดียวกัน และด้วยสายตาที่เฉียบแหลมของเธอ ทำให้สามารถมองเห็นร่องรอยจาง ๆ ที่ยังคงเหลืออยู่บนใบหน้าของฉินซู หลังจากปกปิดมันอย่างเต็มที่แล้ว
เธอเม้มริมฝีปากยิ้ม “เรื่องครั้งก่อนฉันต้องขออภัยจริง ๆ”
“ไม่ต้องสุภาพขนาดนี้ มีอะไรก็พูดตรง ๆ เลย” ฉินซูพูดอย่างเย็นชา
“อันที่จริงฉันอยากจะขอให้คุณฉินช่วยอะไรสักหน่อย” หานเซี่ยวก็ไม่มารยาและตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม
“คุณก็รู้แล้วว่าฉันไม่ใช่คุณนายฉู่ เป็นเพียงแค่ของปลอมที่ไม่มีอำนาจ ฉันจะสามารถช่วยอะไรคุณได้?”
“คุณพูดแบบนี้ไม่ได้นะ ตราบใดที่เรื่องนี้ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ คุณก็ยังเป็นคุณนายฉู่” หานเซี่ยวยกมุมปากและพูดด้วยเสียงเบา ๆ “ขอเพียงแต่คุณต้องการ ฉันสามารถทำให้คุณเป็นคุณนายฉู่ได้ตลอดไป”
ในที่สุดฉินซูก็มีอารมณ์ที่แสดงออกมาบนใบหน้าและพูดอย่างสนใจ “เหรอ? คุณมีวิธีอะไร?”
“ทันทีที่ฉู่หลินเฉินตาย คุณก็เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงคนเดียวของเขา”
ฉินซูตกใจกับคำพูดของเธอ “คุณไม่ได้คิดจะให้ฉันช่วยคุณฆ่าเขาหรอกใช่ไหม? ไม่ได้หรอกนะ ด้วยฐานะของเขา ถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมา ตระกูลฉู่จะต้องไม่ปล่อยฉันไปแน่ ๆ!”
“เรื่องนี้คุณไม่ต้องกังวล เพียงแค่คุณช่วยฉัน ฉันรับประกันว่าคุณจะปลอดภัยไม่ประสบปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถได้รับทรัพย์สินที่ไม่มีที่สิ้นสุดอีกด้วย” ดวงตาหงส์ของหานเซี่ยวมีความเย้ายวน ลึกลงไปในสายตา คือความทะเยอทะยานอันร้อนแรงที่หนักแน่น
เมื่อเห็นท่าทางที่ลังเลของฉินซู เธอหรี่ตาและน้ำเสียงก็ต่ำลง “ได้ยินมาว่าคุณย่าของคุณฉินรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ท่านก็อายุมากแล้ว ไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้กับเรื่องที่ไม่คาดคิดอันไหนจะมาถึงก่อนกัน คุณฉินต้องพิจารณาให้ถีถ้วน!”
ฉินซูใจสั่น เธอกัดฟันและพูด “ถึงยังไงจุดประสงค์ในตอนแรกที่ฉันปลอมเข้ามาในตระกูลฉู่ก็เพื่อเงิน แทนที่จะรอให้ถูกคนในตระกูลฉู่ไล่ออกไป และไม่ได้อะไรเลย สู้ฟังคำพูดของคุณ และช่วงชิงผลประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุดให้ตัวเองดีกว่า!”
ปรากฏรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้งขึ้นบนใบหน้าของหานเซี่ยว “คุณฉินเป็นคนฉลาดเหมือนอย่างที่คิดไว้จริง ๆ”
ฉินซูก็ยิ้มคล้อยตามไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...