เมื่อคิดถึงฉู่หลินเฉินเธอก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
ครั้งก่อนก็เพราะจัดการกับฉินซู จนทำให้เธอถูกปลดออกจากตำแหน่ง แถมยังถูกกักบริเวรอยู่แต่ในบ้านห้ามออกไปไหน
หลังจากหวังอี้หลินดึงเธอไว้แล้วก็พูดต่อว่า “ฉันก็คิดว่าเธอไม่ควรทนที่จะอยู่ในบ้านต่อไปได้แล้ว รีบคิดหาวิธีกลับบริษัทเถอะ อย่างน้อยก็ยังได้พบกับลู่ซีทุกวัน”
“ฉันก็อยากกลับไป แต่ท่าทางที่เด็ดเดี่ยวขนาดนั้นของพี่ชายฉันน่ะสิ! จะกลับไปได้ยังไง?” ฉู่หยุนซีสบัดมือออกไปอย่างหงุดหงิด จากนั้นเดินกลับไปในห้องและนั่งลงบนโซฟา พร้อมกับพูดขึ้น “ฉันให้เธอช่วยไปขอร้องให้ฉัน เธอได้พูดกับพี่ชายฉันรึยัง?”
หวังอี้หลินลำบากใจเล็กน้อย “ตั้งแต่ไหนแต่ไรโอกาสที่ฉันได้พบกับพี่ชายของเธอก็น้อยอยู่แล้ว เมื่อวานกว่าจะได้เจอกันก็ยังทำให้เขาโกรธอีก เกรงว่าสองสามวันนี้เขาจะไม่มาพบฉัน”
“เธอทำให้เขาโกรธได้ยังไงกัน?!” ฉู่หยุนซีพูดอย่างกลัดกลุ้ม
หวังอี้หลินส่ายศีรษะ “ฉันก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ แต่เป็นเพราะเราไปทานข้าวแล้วเจอกับฉินซูเข้า ฉันกับเธอโต้เถียงกันนิดหน่อย พี่ชายเธอพูดว่า ไม่ว่าจะยังไงฉันก็เป็นคุณนายฉู่ ไม่ควรจะโต้เถียงกับคนอื่นแบบนี้”
เธอจงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง
แต่ทว่าคำพูดเหล่านี้กลับมีประโยชน์มากต่อฉู่หยุนซี
เมื่อเธอได้ฟังก็พูดอย่างโมโหขึ้นมาทันที “พี่ชายฉันแสดงออกชัดมากว่าปกป้องและเข้าข้างผู้หญิงคนนั้น!”
เดิมทีคิดว่าเมื่อไล่ฉินซูออกไปแล้วก็จะไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง แต่เมื่อมองดูจากตอนนี้แล้วมันยังใช้ไม่ได้!
หวังอี้หลินไม่ได้ตอบคำพูดของเธอ แต่พูดว่า “หยุนซี พี่ชายของเธอฟังคุณย่ามาโดยตลอด ถ้าเขาทำอะไรไม่สมเหตุสมผล ก็ไปขอให้คุณย่าช่วยดีกว่าไหม? ถ้าเธอไม่กลับไปที่บริษัทอีก เกรงว่ารองผู้จัดการเจียงท่านนั้น ก็จะไม่เห็นเธออยู่ในสายตาจนถึงที่สุด”
“เจียงฟานคนหัวโบราณ ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลฉู่ของพวกเราประคับประคองเขานะ ไม่รู้ว่าเขาจะไปทำงานไร้ฝีมือให้ใครอยู่ที่ไหน!”
ฉู่หยุนซีพูดเยาะเย้ย กำมือแน่น “แต่เธอพูดถูก ฉันต้องรีบกลับไปบริษัท ไม่งั้นลู่ซีก็จะกลายเป็นของคนอื่น!”
“เธอหมายถึงฉินซู?”
“ไม่ใช่เธอแล้วยังมีใครอีก?” ฉู่หยุนซีกัดฟันกรอดด้วยความโกรธแค้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...