หลังจากฉินซูอ่านข้อมูลจบ ก็พบว่าเวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้ก็บ่ายโมงกว่าแล้ว
เธอยังไม่ได้กินมื้อเที่ยง
จึงนำข้อมูลในมือวางลงด้านข้าง แล้วเดินเข้าห้องครัวไป
ตอนที่กลับมาเธอได้แวะซื้อผักมาด้วย พอที่จะทำอาหารกินสักมื้อ
ฉินซูเติบโตในชนบท เธอสามารถทำอาหารได้ตั้งแต่ยังเด็ก สำหรับเธอแล้ว การทำอาหารกินเองสะดวกกว่าการออกไปกินข้างนอก
ขณะกำลังล้างผัก โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์แปลก เธอก็ปฏิเสธที่จะรับสาย ช่วงปีนี้ การโฆษณาและขายของทางโทรศัพท์มีมากเกินไปจริง ๆ
อย่างไม่คาดคิด เบอร์นั้นโทรมาอีกครั้ง
ฉินซูขมวดคิ้ว
“เสี่ยวซู”
เสียงปลายสายทำให้ฉินซูตกใจ
เสียงนั้นคือพ่อบุญธรรมของเธอ จงจื้อหย่วน
ตั้งแต่ถูกส่งเข้ามาตระกูลฉู่ เขาก็ไม่เคยติดต่อเธอมาเลย
เธอกลืนคำว่า “พ่อ” ลงไป แล้วพูดอย่างเย็นชา “โจวซือฉินหมดปัญญากับฉันแล้ว ตอนนี้ก็ถึงคราวคุณออกโรงแล้วเหรอ?”
น้ำเสียงของจงจื้อหย่วนอ่อนล้า “เสี่ยวซู เรื่องที่ให้ลูกแต่งงานเข้าไปในตระกูลฉู่ พ่อขอโทษลูกจริง ๆ เป็นเพราะพ่อกังวลกับบริษัทมากเกินไป จนทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้น! พ่อไม่กล้าขอให้ลูกยกโทษให้พ่อ…”
เมื่อฟังคำพูดที่ดูไร้หนทางและสำนึกผิดของเขา ฉินซูก็อดไม่ได้ที่จะบีบโทรศัพท์มือถือจนแน่น
โจวซือฉินใจร้ายกับเธอมาโดยตลอด แต่จงจื้อหย่วนกลับใจดีกับเธอในทุก ๆ วัน ตอนที่เธอโดนโจวซือฉินกลั่นแกล้ง เขาจะช่วยพูดแทนเธออยู่เสมอ
ควรจะเชื่อเขาไหม?
ฉินซูกัดริมฝีปากและพูดออกไปว่า “ฉันขอถามเรื่องเดียว โจวซือฉินขู่ว่าจะหยุดการรักษาของคุณย่า เรื่องนี้คุณมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยไหม?”
“เป็นไปได้ยังไง? ฉันไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย นั่นคือแม่ฉันนะ โจวซือฉินกล้าดียังไง!”
น้ำเสียงของจงจื้อหย่วนประหลาดใจ เขาไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย
ฉินซูอดไม่ได้ที่จะสงสัย
“งั้นคุณโทรหาฉันมีเรื่องอะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...