ในคืนแรกที่พักบ้านตระกูลจาง เวินหลีดึงฉินชูและลูกชายของเธอมานอนด้วยกันอย่างกระตือรือร้น
เธอมีเรื่องราวมากมายที่อยากจะคุยกับฉินซู
สองพี่น้องที่ไม่ได้เจอกันมาสามปีคุยกันจนดึกดื่นถึงจะหยุด
ส่วนเด็กน้อยเวยเวยหลับลึกไปนานแล้ว และไม่ได้รับผลกระทบจากพวกเธอทั้งสองเลย
วันรุ่งขึ้น ฉินซูและเวินหลีถูกคนตัวเล็กปลุก
เสี่ยวเวยเวยคุกเข่าระหว่างคนทั้งสอง เขาเหยียดอุ้งเท้าเล็ก ๆ อันบอบบางของตัวเองออก จากนั้นดันไปซ้ายขวา “หม่ามี๊ แม่ทูนหัว ตื่นได้แล้วครับ แดดส่องถึงก้นแล้ว”
เวินหลีตื่นก่อน ในฐานะนักออกแบบเธอนอนดึกเป็นปกติและไม่ถึงกับตอนเช้าปลุกไม่ตื่น
แต่ฉินซูนั้นแตกต่างออกไป
เธอเริ่มดูแลสุขภาพแต่เนิ่น โดยเข้านอนเร็วและตื่นเช้า เมื่อคืนเธอนอนดึกจึงต้องชดเชยในตอนเช้า ไม่เช่นนั้นเธอจะเวียนหัวทั้งวัน
“ลูกรัก หม่ามี๊ง่วงมาก ขอนอนต่ออีกหน่อยนะ” ฉินซูพึมพำด้วยความมึน เธอหลับตาแล้วจับมือที่อ้วนพีของเด็กชายตัวน้อยเพื่อส่งสัญญาณให้เขาหยุดรบกวนเธอ
เสี่ยวเวยเวยมองดูหม่ามี๊ของตัวเองที่หลับจนสภาพนี้ ใบหน้าเล็ก ๆ ที่น่ารักและหล่อเหลามีสีหน้าเศร้าหมองเหมือนผู้ใหญ่
เขากระพริบตาและขอความช่วยเหลือจากแม่ทูนหัวของเขา
เวินหลีไม่เคยคิดมาก่อนว่าพี่ซูจะนอนขี้เกียจเป็นด้วย?
อย่างไรก็ตาม เธอเป็นคนเริ่มพูดคุยกับพี่ซูเมื่อคืน แถมตอนที่คุยได้ค่อนดึกแล้ว พี่ซูก็หาวซ้ำแล้วซ้ำเล่าในขณะที่ฟังเธอ
เมื่อนึกได้แบบนั้น เวินหลีก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
เธอทำท่าทางเงียบ ๆ กับเสี่ยวเวยเวย จากนั้นค่อย ๆ อุ้มเขาขึ้นและลงจากเตียง
“ให้หม่ามี๊นอนต่ออีกหน่อยเถอะ แม่จะพาเวยเวยไปทานอาหารเช้าชั้นล่าง โอเคไหม?” เวินหลีพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...