ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 992

“องค์หญิงหงเหมิง เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ท่านยังจะหลงงมงายอีกหรือ?”

“บ่าวเป็นสาวใช้ของท่าน วันนี้ติดตามท่านเข้าวัง ใครจะคิดว่าจู่ๆ ท่านก็ให้ยาขวดหนึ่งแก่บ่าว ให้บ่าววางยาพิษ ลอบสังหารองค์หญิงหมิงหวง…”

ลู่เจียวเจียวกำลังจะคลุ้มคลั่งแล้ว ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำไปด้วยน้ำตา กรีดร้องอย่างไร้เหตุผล “เจ้าพูดจาเหลวไหล! ข้าให้ขวดยาเจ้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่!”

“ข้าไม่รู้จักเจ้าเลยด้วยซ้ำ!”

ขณะที่ลู่เจียวเจียวพยายามตัดความสัมพันธ์ สีหน้าของจักรพรรดินีก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ พลางกระชับแขนเสื้อ แววตาซับซ้อนและเจ็บปวด

หลิวอิ๋งหัวเราะอย่างน่าเวทนา น้ำเสียงอ่อนแรง “เมื่อครู่…องค์หญิงหงเหมิง…ออกจากงานเลี้ยงโดยพลการ…บ่าวคิดว่า…ต้องมีใครเห็นแน่ๆ”

“ช่วงเวลาที่นางออกไป ได้ไปพบคนคนหนึ่ง แม้ว่าบ่าวจะไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่คนคนนั้นก็มอบขวดยาให้องค์หญิงกับมือ องค์หญิง…ยังพูดกับบ่าวว่า วันนี้…นางจะต้องทำให้หมิงหวง…ตายโดยไร้ที่ฝังศพ...”

“เมื่อก่อนในจวนองค์หญิง ท่าน ท่านไม่พอใจในตัวองค์หญิงหมิงหวงเป็นอย่างมาก พยายามทุกวิถีทางเพื่อทำร้ายนางอยู่เสมอ ตอนนี้ท่านต้องการให้องค์หญิงหมิงหวงตาย บ่าวเกลี้ยกล่อมท่านแล้ว แต่ท่านไม่ฟัง ยังเอา…ชีวิตคนในครอบครัวของบ่าวมาข่มขู่”

“องค์หญิงหงเหมิง บ่าวได้ทำตาม… หน้าที่ของตัวเองแล้ว ตอนนี้…ก็ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว”

นางพูดด้วยความมั่นใจ ทุกคนในที่นี้ล้วนตระหนักดีว่าลู่เจียวเจียวมีความคับแค้นใจต่อหนานหว่านเยียนมาโดยตลอด

ดังนั้นคำพูดของหลิวอิ๋งสำหรับพวกเขาแล้ว มันสมเหตุสมผลมาก

องค์ชายทั้งหลายยิ่งโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง แม้แต่จักรพรรดินียังมองลู่เจียวเจียวด้วยความประหลาดใจ ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ “หงเหมิง เป็นเจ้าจริงหรือ?”

“ไม่ ไม่ใช่เพคะ ข้า เสด็จแม่ โปรดฟังข้าอธิบายก่อน!” ลู่เจียวเจียวปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไป ร่างกายปั่นป่วนไปหมด เกาหูเกาหน้า ดูตื่นตระหนกมาก

“ข้า ข้าเพียงแค่…”

“พอแล้ว!” คราวนี้ หนานหว่านเยียนยังไม่ทันเอ่ยปาก จักรพรรดินีก็ตวาดนำขึ้นมาก่อน ตัดบทคำพูดของลู่เจียวเจียว

นางส่ายหน้าด้วยความผิดหวังและเจ็บปวด แววตาเปี่ยมไปด้วยความเสียใจ “หงเหมิง ข้าดีกับเจ้ามาตลอดตั้งแต่ยังเล็ก เดิมทีคิดว่าเจ้าแค่มีนิสัยเอาแต่ใจ แต่ไม่คิดเลยว่า เจ้าจะหลงผิดอย่างกู่ไม่กลับ คิดจะทำร้ายนังหนูหว่านหรือ?”

“สาวใช้คนนี้เป็นคนของเจ้า ตอนนี้นางกำลังจะตาย รับสารภาพอย่างหมดเปลือก เจ้ายังจะโต้แย้งอะไรอีก?!”

เป็นครั้งแรกที่ลู่เจียวเจียวเห็นสีหน้าห่างเหินและเกลียดชังของจักรพรรดินี ทันใดนั้นภาพที่หนานหว่านเยียนพูดกับนางในอู้ไห่ในวันนั้นก็ปรากฏขึ้นในหัว

“ลู่เจียวเจียว เจ้าทำแบบนี้ มันช่างทรยศต่อความคาดหวังและความรักที่ท่านน้ามีให้เจ้าจริงๆ ไม่ช้าก็เร็ว เจ้าจะหาเหาใส่หัว ทำให้นางหมดหวังในตัวเจ้าอย่างแท้จริง”

ลมหายใจของนางหยุดนิ่งทันที ทั้งร่างกายแข็งทื่อไม่มีชีวิตชีวา “ไม่ ไม่ใช่…”

สายตาของทุกคนเชือดเฉือนบนตัวนางราวกับใบมีด ความคิดของลู่เจียวเจียวว่างเปล่า เป็นครั้งแรกที่ตื่นตระหนกจนควบคุมไม่ได้

ใบหน้าหล่อเหลาของกู้โม่หานซีดเผือด แต่ม่านตาสีดำสนิทกลับจิกกัดเป็นพิเศษ ในความเฉยเมยนั้นแฝงความเสียดสีและเยือกเย็นอย่างรุนแรง

“เจ้าไม่มีอะไรจะเสียไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใด ก่อนหน้านี้ข้าเห็นแก่หว่านเยียน จึงได้ไว้ชีวิตเจ้าไป หว่านเยียนยังใจดี ไม่ติดใจเรื่องการลอบสังหารของเจ้าแล้ว นึกไม่ถึงว่า เจ้าจะกล้าทำเป็นครั้งที่สอง ทำการลอบสังหารอีกครั้ง”

“และถึงกับใช้พิษร้ายแรงขนาดนี้ กลัวว่าจะฆ่าหว่านเหยียนไม่ตาย ดูท่าทางที่ไว้ชีวิตเจ้าจะคิดผิดแล้ว!

“อะไรนะ?!” จักรพรรดินีตกตะลึง แม้แต่องค์ชายทั้งหลายยังดูคาดไม่ถึง แววตาของลู่ยวนหลีมืดมนลงทันที “หมายความว่ายังไง หงเหมิงเคยลอบสังหารหว่านเยียนมาก่อนหรือ? เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ลู่เซิงเซิงก็ประหลาดใจไม่น้อย “หมิงหวง เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่? ทำไมถึงไม่พูด?”

หนานหว่านเหยียนเม้มริมฝีปาก มองดูสีหน้าที่ผิดหวังกว่าเดิมของจักรพรรดินี ขมวดคิ้วแน่น กู้โม่หานพานางกลับมา สีหน้าดูอ่อนโยน แต่แววตานั้นเฉียบคมอย่างที่สุด

“เมื่อวานซืน ตอนที่หว่านเยียนพบกับข้า นางได้พาคนมาลอบสังหารหว่านเยียนกับข้า”

“โชคดีที่ปราบนางได้ก่อน อีกอย่างในตอนนั้นนางยอมรับเองว่านางร่วมมือกับคนอื่นมานานแล้ว ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่อยากให้หว่านเยียนตาย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้