ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 993

ลู่เจียวเจียวร้องครวญครางพลางตะโกนลั่น “ข้าผิดไปแล้ว หมิงหวง ข้ารู้สึกผิดจริงๆ!”

“ข้า ข้ายอมรับว่าข้าอิจฉาเจ้ามาก อิจฉาเจ้าที่พอมาถึงก็ได้รับความรักจากเสด็จแม่ อิจฉาที่บรรดาพี่น้องราชวงศ์รายล้อมตัวเจ้า”

“ข้าโง่เอง โง่กว่าหมูกว่าหมา ถึงได้…ถึงได้จัดการกับเจ้าโดยไม่เจียมตัว ข้าขอร้องเจ้า ข้ายังไม่อยากตาย เจ้าปล่อยข้าไปเถอะ อย่าให้กู้โม่หานฆ่าข้าได้ไหม?”

“เจ้าอยากรู้ว่าบุคคลลึกลับคนนั้นคือใครใช่ไหม ข้ารู้ว่าเป็นใคร บุคคลลึกลับคนนั้นความจริงแล้วคือ…”

ขณะที่ลู่เจียวเจียวกำลังจะสารภาพบุคคลลึกลับ จู่ๆ ก็กระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรง แขนขากระตุก จากนั้นก็ทรุดตัวลงทันที…

ทุกคนตื่นตกใจในทันที

“ลู่เจียวเจียว?!” หนานหว่านเยียนตกใจ รีบย่อตัวลงดู แต่กลับพบว่าลู่เจียวเจียวไม่มีลมหายใจแล้ว ดวงตาทั้งสองเบิกโพลง น่ากลัวมาก

หนานหว่านเยียนรู้สึกใจหายวาบทันที จับชีพจรดูถึงรู้ว่าลู่เจียวเจียวถูกวางยาพิษ ไฟโทสะอันท่วมท้นปะทุออกมาจากดวงตา “นางตายแล้ว”

“อา!” ลู่เซิงเซิงเป็นคนแรกที่ได้สติ นางเอามือกุมหัวใจ อดหลั่งน้ำตาไม่ได้ “หงเหมิง…”

ในตอนแรกทุกคนต่างตกตะลึง จนกระทั่งเสียงร้องไห้ของลู่เซิงเซิงดังขึ้น พวกเขาจึงได้สติในทันใด ก่อนจะกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว

เพียงชั่วครู่ ภายในตำหนักหนิงปี้ก็เละเป็นโจ๊ก

“ทุกคนเงียบ!” ทันใดนั้นลู่อู๋เจียงก็กระแทกฝ่ามือลงบนโต๊ะ หน้าอกทั้งแน่นและหายใจไม่ออก “สับสนวุ่นวาย กลายเป็นตัวอะไรกันไปหมด!”

ร้ายดีอย่างไรลู่เจียวเจียวก็เป็นน้องสาวของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ชอบนาง แต่ความผูกพันยี่สิบปี เขาจะไม่รู้สึกว่างเปล่าในใจได้อย่างไร?

แต่ ณ เวลานี้ การทำความเข้าใจสถานการณ์ต่างหากที่สำคัญที่สุด!

องค์ชายทั้งหลายเริ่มรักษาความเรียบร้อยทันที จักรพรรดินีมองดูศพที่ตายตาไม่หลับของลู่เจียวเจียว เสียใจเป็นอย่างยิ่ง มือทั้งสองข้างสั่นเทา “หงเหมิง…”

ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นนาง เป็นลูกสาวที่เลี้ยงดูมากับมือถึงยี่สิบปี…

หยุนเหิงและอวี๋เฟิง รวมถึงโม่เหยียนต่างตกตะลึง นึกไม่ถึงว่าการตายของลู่เจียวเจียวจะกะทันหันขนาดนี้ และดูเหมือนจะได้รับความทุกข์ทรมานมากมาย

เฉิงซูหย่วนสะดุ้งโหยง เข้าไปซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเย่เชียนเฟิง พลางกลืนน้ำลายลงคอ

เย่เชียนเฟิงขมวดคิ้วมองศพของลู่เจียวเจียว สุดท้ายก็มองไปที่หนานหว่านเยียน จิตใจดำดิ่งลง

กู้โม่หานโน้มตัวลง เอื้อมมือออกตรวจลมหายใจของลู่เจียวเจียว แล้วมองผิวหนังที่เผยออกมาของนาง หลังจากยืนยันว่าไม่มีบาดแผลภายนอกใดๆ แล้ว ก็เลิกคิ้วให้หนานหว่านเยียนพลางพูดว่า “ทำไมจู่ๆ ถึงเป็นแบบนี้?”

หนานหว่านเยียนไม่ตอบคำถาม พลางตรวจดูแขนขาของลู่เจียวเจียว สุดท้ายสีหน้าก็ขรึมลง พลิกฝ่ามือขวาของลู่เจียวเจียวขึ้นมาให้ทุกคนดู

“เป็นพิษจากหม่อมสีม่วง มีกลิ่นหอมจางๆ ไม่สามารถตรวจพบได้หากไม่ดมกลิ่นอย่างละเอียด มีความเป็นพิษสูง เมื่อพิษกำเริบจะปรากฏสีม่วง”

“ประมาณเวลา น่าจะเกิดขึ้นก่อนหน้านี้สองถ้วยชา อาจจะพร้อมกับตอนที่ไปพบบุคคลลึกลับและเตรียมการลอบสังหาร ก็ถูกวางยาพิษเสียแล้ว”

“นางน่าจะสัมผัสกับอาหาร พิษผสมกับอาหารทำให้ฤทธิ์ของพิษอ่อนลง ดังนั้นอาการจึงไม่ได้กำเริบตั้งแต่แรก…”

ใบหน้าหล่อเหลาของกู้โม่หานบึ้งตึง ดวงตาสวยงามอันโหดเหี้ยมหรี่ลงมาก

ช่างเป็นการวางแผนที่รอบคอบจริงๆ จัดการให้องค์หญิงไปฆ่าคนก่อน จากนั้นก็ปิดปากองค์หญิง เช่นนี้ ก็ไม่มีใครสามารถเปิดเผยตัวตนของบุคคลลึกลับได้แล้ว…

ก่อนที่ทุกคนจะประมวลผลข้อมูลในคำพูดของหนานหว่านเยียนได้หมด ทันใดนั้น อวี๋เฟิงก็อุทานออกมาว่า “ไม่ได้การ! ฮองเฮาเหนียงเหนียง ดูเหมือนว่านางก็ถูกวางยาพิษเหมือนกัน!”

เห็นเพียงหลิวอิ๋งชักกระตุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน เลือดสีดำไหลทะลักออกมาจากปาก จากนั้นก็ขาดใจตาย ล้มลงกับพื้นไม่ไหวติง

สีหน้าของหนานหว่านเยียนแย่ลงอย่างสุดขั้ว ตรวจดูแขนขาของหลิวอิ๋ง จากนั้นจึงพบว่าฝ่ามือของหลิวอิ๋งเป็นสีม่วงทั้งหมด

“เช่นเดียวกับหงเหมิง ล้วนเป็นพิษจากหม่อนสีม่วง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้