ฉางเฟิงหยุดชั่วคราว เมื่อเห็นว่าใบหน้าราวเทพเซียนไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เขาจึงพูดต่อ "ข้าน้อยรู้สึกสะอิดเสอียนจนแทบอาเจียน แต่แม่นางยังคงมีสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง!"
ถ้าไม่ใช่เพราะได้รับคำสั่ง เขาคงหนีไปนานแล้ว คงจะไม่อยู่ในห้องนั้นนานเท่านี้!
"แล้วของอยู่ไหนล่ะ?"
ฉางเฟิงชะงักไป จากนั้นก็ตอบอย่างรวดเร็วและเอ่ยอย่างตกใจ "ไม่ใช่กระมัง ท่านต้องการของสกปรกนั่นไปเพื่ออะไร"
อีกฝ่ายไม่ตอบ
ฉางเฟิงไม่มีทางเลือกอื่นจึงตอบไปอย่างหวาดกลัว "ตอนนั้นข้าน้อยกลัวมาก เลยไม่ได้สนใจของพวกนั้น และต้องรีบมารายงานกับท่านด้วยไม่ใช่หรือ? ข้าเดาว่า...คงจะ...โยนทิ้งไปแล้วกระมังขอรับ?"
คำพูดสองสามคำสุดท้าย เขาพูดอย่างระวังมาก
เพราะเขารู้สึกถึงอากาศที่อึดอัดลอยมาจากเจ้านาย
จบเห่แล้ว เขาทำตามคำสั่งการไม่สมบูรณ์ อีกเดี๋ยวเขาคงเอาชีวิตต่อไปไม่รอดแน่
ทว่าระหว่างที่เขาพร้อมที่จะถูกลงทัณฑ์อยู่นั้นเอง เขาที่นอนอยู่บนเบาะนุ่มก็เปลี่ยนท่าอย่างเกียจคร้าน แล้วนอนลงอย่างสบาย ๆ
"แล้วไงต่อ"
"อ๊ะ? อ่อ... นางบอกว่าฤกษ์ดีของวันนี้ผ่านไปแล้ว ไม่สามารถเคารพฟ้าดินได้อีก จากนั้นนางจึงพาสาวใช้ออกไป" ฉางเฟิงชื่นชมผู้หญิงคนนี้จริง ๆ
ปกติในสถานการณ์เช่นนี้ จะแต่งงานหรือไม่ครอบคัวฝ่ายสามีจะต้องเป็นคนตัดสิน แถมที่นี่ยังเป็นจวนอ๋องตวนอีกด้วย
ผู้หญิงคนนี้กลับทิ้งอนาคตที่ดีของตัวเอง ไม่เอายศฐาบรรดาศักดิ์และกลับไปอยู่จวนของตัวเอง
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังม่านลูกปัดก็หัวเราะเบา ๆ
นี่ดูไม่เหมือนพิธีแต่งงานเอาซะเลย
“แล้วยังพูดอะไรอีก”
“นางทิ้งสูตรยาไว้ โดยบอกว่าให้พี่เลี้ยงสวี่เอาไว้พักฟื้น แล้วก็... เอ่อ นางขอเงินค่ารักษาหนึ่งพันตำลึงจากท่านอ๋อง”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉางเฟิงก็ทำหน้าไม่ถูก
เขายังจำได้ถึงตอนที่นางรับตั๋วเงิน ตอนนั้นดวงตาของนางเปล่งประกาย
ใครจะคิดว่าคุณหนูรองอันขี้ขลาดและอ่อนแอของตระกูลกู้ จะเป็นคนบ้าเงิน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงปีศาจพลิกฟ้า
ช่วยต่อเรื่องยอดหมอหญิงปีศาจพลิกฟ้าหน่อยได้ไหมจ๊ะ...
ไม่เห็นมีอัพเดตเพิ่มเลยค่ะ ไม่ลงต่อแล้วหรอค่ะ...