สรุปตอน บทที่ 136 นอนหลับ บีบกอดเด็กผู้หญิง หุงข้าว – จากเรื่อง ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดย เย็นอวี่ฟังหัว
ตอน บทที่ 136 นอนหลับ บีบกอดเด็กผู้หญิง หุงข้าว ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดยนักเขียน เย็นอวี่ฟังหัว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ด้วยเหตุนี้ หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม ลานล่าสัตว์ที่เก็บกวาดจนสะอาดก็สุมไฟกลางแจ้งขึ้นทุกด้าน
ฮ่องเต้นั่งบนแท่นนั่งสูง เกาหลินเตรียมย่างงูถวาย เพื่อให้เขาแกล้มสุรา แล้วรายงานด้วยความยินดี “ฮ่องเต้ ยอดผู้บาดเจ็บได้สรุปออกมาแล้ว บาดเจ็บสาหัส 10 คน บาดเจ็บเล็กน้อย 23 คน จวิ้นจู่ได้มอบยาถอนพิษงู และหมอหลวงก็รักษาดูแลอย่างระมัดระวังล้วนมีอาการไม่หนัก”
ฮ่องเต้พยักหน้า มองไปยังฉู่เชียนหลีที่นั่งข้างกองไฟ ในสายตามีประกายความสำเร็จอันโดดเด่น “ทั้งหมดนี้ดีที่ได้เชียนหลี”
“ใช่แล้ว ฉู่จวิ้นจู่เป็นผู้ที่ไม่มีผู้ใดเปรียบได้จริง ๆ”
ทันใดนั้นฮ่องเต้ก็นึกขึ้นได้ “แล้วไป๋หลี่เจิงผู้นั้นล่ะ?คนที่ส่งไปถูกเขาควบคุมไว้หมดแล้วหรือ?”
“รายงานฮ่องเต้ ทหารรักษาพระองค์เพิ่งจะแจ้งมา บอกว่าตอนที่รีบตามไป ศาลหงหรูร้างไม่มีคนไปแล้ว”
“หนีไปแล้ว?”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ทันใดนั้น บนท้องฟ้าก็มีเสียงนกของประติมากรรมหิมะร้องดังมา
“ฉู่ว!”
เซินเป่าวางงูที่ย่างลง มองไปยังท้องฟ้าอย่างดีใจ
“เจ้าขาว รีบลงมา มีของอร่อย!”
เจ้าขาวยิ่งบินยิ่งใกล้ เซินเป่ากะพริบตาอย่างงงงวย
“ท่านแม่ เจ้าขาวเหมือนว่าจะจับอะไรบ้างสิ่งได้”
ฉู่เชียนหลีเหลือบตาขึ้นไปมอง ทันทีหลังจากนั้นสายตาก็มีสงสัย
กรงเล็บเจ้าขาวกำลังจับไป๋หลี่เจิงที่ไม่มีสติ บริเวณไหล่ถูกกรงเล็กเจ้าขาวจับไว้จนมีช่องโหว่เป็นเลือด
ตอนที่เจ้าขาวมีระยะห่างจากพื้นใกล้มาก ก็ทิ้งไป๋หลี่เจิงลงบนพื้น แล้วก็ร่อนลงพื้นเก็บปีกอันกว้างใหญ่
“ฉู่ว!”
เซินเป่าปีนขึ้นไปทันที เดินผ่านไป๋หลี่เจิงผู้นั้นวิ่งไปตรงหน้าเจ้าขาว หยิบงูย่างใส่ในปากของมัน
“เจ้าขาวลองชิมดู ท่านแม่บอกว่านี่เป็นของดีซีซวน อร่อยมาก!”
เจ้าขาวเอียงคอกลืนงูลงไป แล้วค่อย ๆคลอเคลียใกล้ชิดสนิทสนมกับแก้มของเซินเป่า
เซียวจวินยี่เห็นภาพนี้ ทันใดนั้นก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ ใช้ข้อศอกกระทุ้งซูจิ่นจือด้านข้าง
“จิ่นจือ เจ้าบอกว่าเซินเป่าสามารถฟังภาษาสัตว์ได้ งั้นงูพิษที่ถูกพิษงูตัวเองตาย ช่วงก่อนมันตายมันพูดว่าอะไร?”
ซูจิ่นจือท่าทางตอนย่างท่อนงูชะงักงันไป หลังจากใจจดใจจ่อในความคิดที่ขมขื่นชั่วขณะ ก็ตอบด้วยเสียงหนักแน่น “เซินเป่าน่าจะฟังภาษาซีซวนไม่เข้าใจ”
เซียวจวินยี่ย่างงูอย่างกลัดกลุ้มใจ รู้สึกเข้าใจอย่างมากโดยตลอด หลังจากนั้นก็โรยเกลือจากด้านบนเล็กน้อย ได้กลิ่นหอมโชยมาเข้าจมูก น้ำตาแห่งความมุมานะไหลลงมาจากมุมปาก
เจ้างูอ้วนตัวน้อย ถ้าหากงูกลับชาติมาเกิดใหม่อีกละก็ จำไว้ว่าต้องเรียนรู้ภาษาตงเสวียนให้ดี!
อีกทั้งอย่าลืมลดความอ้วน!
ฮ่องเต้เห็นไป๋หลี่เจิงที่เมื่อครู่เพิ่งจะนึกถึงถูกเจ้าขาวจับออกมา ในสายตาก็มีความสุขดีใจประกายออกมาขณะหนึ่ง
“เกาหลิน นำคนที่ไม่มีตาลากลงไป หลีกเลี่ยงการรบกวนความสนใจในการกินของเชียนหลีพวกเขา”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เกาหลินรีบเร่งพาคนไป ทำความเคารพด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “กระหม่อมน้อมพบจวิ้นจู่……”
“เกากงกง ไม่ต้องมากพิธี” ฉู่เชียนหลีมองไปยังที่ฮ่องเต้นั่งปราดหนึ่ง “ว่าแต่ฮ่องเต้มีคำสั่งอะไรหรือ?”
“ฮ่องเต้กังวลว่าก้อนนี้บนพื้นจะส่งผลกระทบต่อความสนใจในการเสวยของจวิ้นจู่ เลยให้กระหม่อมนำเขาลงไป”
ก้อน?
เกากงกงคำพูดนี้ใช้ได้อย่างประณีตสวยวิจิตร
ฉู่เชียนหลีข่มรอยยิ้มในสายตาลง กวาดมองไปยังไป๋หลี่เจิง เรื่องราวของซีซวนทางนั้นยังไม่ได้ตรวจสอบให้ชัดเจนถึงที่สุด ดังนั้นคนผู้นี้ยังตายไม่ได้ชั่วคราว
“กงกงนำคนลงไปเถอะ”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ทหารรักษาพระองค์รีบเร่งไปทันที ต้องการลากคนไป แต่กลับได้ยินเสียงฉู่เชียนหลีออกมาอีกครั้ง
“รอก่อน”
ฉู่เชียนหลีลุกขึ้นยืน เดินไปข้างหน้าไป๋หลี่เจิง หลังจากจ้องมองพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียดชั่วขณะ ก็ยกมือกดลงไปที่หน้าอกของเขา ทันทีหลังจากนั้นหว่างคิ้วก็ขยับเล็กน้อย
เกาหลินไม่เข้าใจ “จวิ้นจู่ คนผู้นี้มีปัญหาอะไรหรือ?”
แต่เรื่องจริงกลับเหนือความคาดหมาย พลังเสวียนของเขาค่อยค่อยฟื้นฟูกลับมาทีละนิดอยู่จริง ๆ เพียงแค่ถูกหงส์พลังอัคคียับยั้งต่อเนื่อง ดูเหมือนว่าล้วนอ่อนลงไปเล็กน้อย
“พอแล้ว พอแล้ว อย่าคาดคั้นตัวเจ้าเองแล้ว” ฉู่เชียนหลีสังเกตเห็นอาการเฟิ่งเสวียนตู้ถ่ายทอดพลังเสวียนให้นาง เอ่ยปากห้ามไว้ทันที นางไม่อยากให้เจ้าขี้เหร่ใช้พลังเสวียนมากเกินไปจนทำให้อาการกำเริบอีก
เฟิ่งเสวียนตู้มองสีหน้าฟื้นฟูมีเลือดฝาดของนาง ก็ไม่ได้กลับไปเคี่ยวเข็ญอีก
“เจ้าขี้เหร่ งูวงทองของเขตธุลีจะมีผลกระทบต่อพลังเสวียนหรือไม่?”
วันนี้ตอนที่นางกินก็ค้นพบว่ารสชาติงูพวกนั้นดีเป็นพิเศษ กินลงไปแล้วพลังทิพย์ยังผันแปรเล็กน้อย ถึงแม้กินไปครึ่งค่อนวันก็เท่ากับตอนแรกที่แทะไก่ขนม่วงไปหนึ่งคำ แต่ว่าพลังเสวียนนั้นแท้จริงยังคงมีอยู่
“ไม่ได้”
ฉู่เชียนหลีหรี่ตา “งั้นเรื่องราวก็ยิ่งน่าสนใจมากยิ่งขึ้นแล้ว”
ซีซวนที่แท้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ อีกทั้งผู้อยู่เบื้องหลังที่สร้างวงทองที่มีพลังเสวียนออกมา?
นางจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจน แล้วจับผู้อยู่เบื้องหลังนั้นออกมา
อย่าถามว่าจับออกมาทำอะไร?
ให้ถามว่าการสร้างอุตสาหกรรมการเพาะปลูก
ฝ่ายตรงข้ามสามารถทำงูวงทองออกมาได้ แน่นอนว่าสามารถทำสัตว์ที่มีพลังเสวียนออกมาได้มากมาย งั้นกินไปแล้วไม่อร่อยหรือ?
ดังนั้นจะว่าไป ชีวิตที่ยังมีชีวิตอยู่ต้องเรียนรู้ฝีมือนี้ให้ได้แน่นอน ช่วงเวลาวิกฤตินั่นจะเป็นสิ่งที่รักษาชีวิตไว้ได้ ก็เหมือนกับเมื่อก่อนที่อยู่องค์กรกาลเวลา มีเจ้าท่านที่จุดเด่นของพืชพันธ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พังทลายกาลเวลาติดคุกจนค้นพบของที่ทำให้พ้นโทษ หลักจากออกมาก็พังทลายต่อ เป็นเช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมา ตอนนางปลดเกษียณ ฝ่ายตรงข้ามยังพยายามต่อสู้ในกาลเวลาต่าง ๆอยู่
กลับถึงห้อง เฟิ่งเสวียนตู้ให้คนนำหินหยกเจ็ดสีนั้นออกมา
“อาวุธที่ยึดมาจากข้าศึกของเจ้า”
ฉู่เชียนหลีรับมาอย่างเบิกบาน “ก่อนหน้านี้มัวยุ่งแต่ควบคุมพวกม้าป่า ยังคิดว่าไป๋หลี่หงเป็นตายล้วนต้องการบิดพลิ้วเอาสิ่งของกลับไป คิดไม่ถึงว่าเจ้าเอามาได้”
“อืม” เฟิ่งเสวียนตู้ไม่ได้พูดแทรกไปก่อนหน้านี้ แล้วเปิดปากถาม “หยกก้อนนี้นอกจากมีสีสันที่พิเศษ ดูเหมือนก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ”
เขาใช้พลังเสวียนตรวจสอบมาแล้ว แต่ก้อนหยกกลับไม่ตอบสนองแม้แต่น้อย
ฉู่เชียนหลีนำหยกวางไว้บนฝ่ามือ หลังจากดูอย่างละเอียดไปชั่วขณะหนึ่ง ก็ยิ้มประจบต่อเฟิ่งเสวียนตู้
“ดับไฟเทียนไข ข้าจะให้เจ้าดูของดี”
เฟิ่งเสวียนตู้ตะลึงงัน ใจสั่นเล็กน้อยทันที ของอะไรกันยังต้องดับไฟเทียนไขมอง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี
ไม่อัฟแล้วหรือคะ...
เรื่องนี้สนุกมากขอทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้อัพเดทเรื่องนี้ต่อไปนะคะ😭...
เรื่องนี้สนุกมากไม่ลงตอนใหม่แล้วหรอค่ะ...
ขอร้องลงตอนใหม่ด้วยนะคะ😭...
เรื่องนี้ไม่ลงต่อแล้วหรอค่ะ...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทแล้วหรอค่ะ...