ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 137

สรุปบท บทที่ 137 ตั้งเป้าหมายเล็กเล็กก่อน: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

อ่านสรุป บทที่ 137 ตั้งเป้าหมายเล็กเล็กก่อน จาก ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดย เย็นอวี่ฟังหัว

บทที่ บทที่ 137 ตั้งเป้าหมายเล็กเล็กก่อน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เย็นอวี่ฟังหัว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

“แค่ก แค่ก” เฟิ่งเสวียนตู้ยืดตัวนั่งตรงเล็กน้อย หลังจากเตรียมใจเสร็จ ถึงจะกวัดแกว่งเสื้อผ้าดับไฟเทียนไข “เชียนหลี……”

“ชู่ว”

ฉู่เชียนหลีทำเสียงชู่วเบาเบา แล้วเข้าใกล้เฟิ่งเสวียนตู้ ปลายนิ้วขาวยื่นออกไปดึงดูดพลังทิพย์บางเบาที่อยู่บนหยกเจ็ดสีก้อนนั้น

เวลาต่อมา ฉับพลันก้อนหยกก็แย้มส่องแส่งสว่างโชติช่วงอันอ่อนโยนออกมา หลังจากนั้นไม่นานแสงสีรุ้งเป็นสายสาดส่องออกมาจากก้อนหยก ท่ามกลางแสงสีมืดมิดยามราตรีรวมกลุ่มก็เป็นแสงทะเลสีรุ่งกลุ่มหนึ่ง

ฉู่เชียนหลีกุมมือของเฟิ่งเสวียนตู้ ให้เขายื่นนิ้วมือไปแตะเบาเบา แสงสีรุ่งเหล่านั้นก็เชื่อฟังทำตามรอยขีดเขียนปลายนิ้วของเขาเรียงลำดับจนกลายเป็นเส้นเดียวกัน

“สนุกไหม?”

เสียงหัวเราะของฉู่เชียนหลีดังขึ้น

“นี่คือ……”

“ชี่ทิพย์!”

“ชี่ทิพย์คืออะไร?” เหมือนกับพลังเสวียนหรือไม่?

“แน่นอนว่าเป็นของดี”

มีหินทิพย์แล้ว การบำเพ็ญของท่านลุงและท่านผู้พี่ก็สามารถเข้าสู่หนทางที่ถูกต้องแล้ว

ตราประทับอันหนึ่งเปลี่ยนเป็นค่ายกล เกรงว่าทุกหนแห่งเขตธุลีนี้พลังเสวียนดุจทะเลทราย ในนั้นนางเองก็สามารถสร้างดินแดนสีเขียวออกมาได้!

รอจนทักษะของท่านลุงและท่านผู้พี่สูงขึ้นแล้ว นางไม่ใช่ว่าสามารถวางใจไปใช้ชีวิตวัยเกษียณแล้วหรือ?

ถึงตอนนั้น นางและเซินเป่าอยากกินไก่ขนม่วงก็กินไก่ขนม่วง กินส่วนกลางเสร็จก็กินส่วนบน จะว่าไปในไม่ช้าก็สามารถกินหงส์ตัวใหญ่ของเผ่าหงส์ได้แล้ว?

ช่างมีความสุข!

เฟิ่งเสวียนตู้รู้สึกแผ่นหลังหนาวเหน็บอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ปลายนิ้วมือหุบเข้าด้วยกันอย่างช่วยไม่ได้ แล้วกุมมือของฉู่เชียนหลี

“เป็นอะไร?”

ฉู่เชียนหลีจิตใจกระตุก เก็บพลังทิพย์กลับ แสงสว่างสีรุ่งก็หายไปอย่างไร้เงาไร้ร่องรอย

“เมื่อครู่ค่อนข้างหนาว”

“หนาว?” ฉู่เชียนหลีรับรู้ได้อย่างละเอียดต่อมาตรงหน้าก็ใกล้อุ่นจนร้อนแล้ว แล้วพูดอย่างจริงจัง “สุขภาพร่างกายของเจ้าอ่อนแอเกินไปแล้ว ต่อไปถ้าหาของอร่อยได้จะให้เจ้าบำรุง”

หงส์น่าจะเป็นจำพวกไฟใช่ไม่?

บำรุงร่างกายให้เจ้าขี้เหร่แน่นอนว่าไม่ใช่ปัญหา

“ข้าไม่ใช่……”

ฉู่เชียนหลีตั้งใจแน่วแน่ บีบจับหินหยกเจ็ดสีในมือ “ข้าตัดสินใจแล้ว เจ้าขี้เหร่ พวกเราตั้งเป้าหมายเล็กเล็กก่อน จับหงส์เฒ่าตัวนั้นของเผ่าหงส์!”

เฟิ่งเสวียนตู้ “……”

หลังจากฉู่เชียนหลีตั้งเป้าหมายแล้ว รีบปีนขึ้นเตียงทันที แล้วห่มผ้าห่มให้ตนเองเรียบร้อย

“เจ้าขี้เหร่ เจ้าพยายามไปก่อนละกัน ข้านอนก่อนค่อยหารือกัน”

เฟิ่งเสวียนตู้ยังคงนิ่งขรึม ทันทีหลังจากนั้นฉู่เชียนหลีก็นอนหลับหายใจเข้าออกนิ่งสงบแล้ว

เที่ยงวันต่อมา

ฉู่เชียนหลีลืมตามองแสงแดดที่แยงตา เกียจคร้านไม่ยอมขยับเขยื้อน

เซินเป่าย่องเบาเบาเข้ามา เห็นฉู่เชียนหลีที่ตื่นนอนแล้ว ก็รีบรุดเข้าไป สะบัดรองเท้าทิ้งแล้วปีนขึ้นเตียง นำตนเองไปซุกในอกของฉู่เชียนหลี แล้วเบิกดวงตาดำสนิทกว้าง พูดด้วยน้ำเสียงหวาน

“ท่านแม่”

ฉู่เชียนหลีเพิ่งจะตื่นนอนก็ได้รับการจู่โจมที่แสนหวานล้ำ ยื่นมือออกไปกอดรัดเซินเป่า แล้วลูบตั้งแต่หัวจรดเท้า

เซินเป่าหดตัวเองเป็นก้อนอย่างเชื่อฟัง เล่นเป็นเพื่อนฉู่เชียนหลี รอจนนางมีความสุข ก็พุ่งไปจุ๊บแก้มท่านแม่ของตัวเอง

ฉู่เชียนหลียิ้มจนคิ้วโก่งงอ บีบกอดเด็กผู้หญิงที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจให้เบิกบาน เหล่าปรมาจารย์จิตวิทยาจริงใจไม่แกล้งข้า

“เด็กดี”

“ฮี่ฮี่ ท่านแม่ลุกขึ้นมากินข้าวเถอะ เซินเป่าวันนี้เรียนต้มซุปงูกับเจ้าปู่มาแล้ว ลงมือหุงข้าวให้ท่านแม่เองเลย”

“ดี!ท่านแม่มาแล้ว”

นอน บีบกอดเด็กผู้หญิง ทำกับข้าว ความสุขใหญ่สามอย่างในชีวิตคน

ฉู่เชียนหลีกินซุปงูที่มีรสชาติเสร็จแล้ว ได้แต่รู้สึกว่าพลังทั่วร่างฟื้นฟูมาครึ่งหนึ่ง ก็รู้สึกว่ากินจนค่อนข้างอิ่มแปล้ ปากค่อนข้างมัน

นางเพิ่งจะกระทุ้งในปาก เวลาต่อมา แก้วชาผลไม้กลิ่นหอมที่เพิ่งออกจากเตาก็ปรากฏต่อหน้า

“อั๊ยหยา ขอบคุณเจ้าขี้เหร่”

นางประกาศตั้งแต่วันนี้นางและเฟิ่งเสวียนตู้ก็คือพี่น้องที่มีคนให้กำเนิดคนละพ่อ คนละแม่ คนละเพศ

“ข้าเองก็มีเรื่องอยากถามเจ้า” ฮ่องเต้เปิดปากพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

“ฮ่องเต้โปรดตรัส”

“เชียนหลี ครั้งนี้เจ้าได้ช่วยข้าและขุนนางราขสำนักไว้อีกครั้ง อยากได้สิ่งใดเป็นรางวัล?”

ฉู่เชียนหลีไม่เคยเกรงใจมาก่อน หากนางอะไรก็ไม่ต้องการ นี่อาจทำให้ในใจของฮ่องเต้ไม่สงบ

“ฝ่าบาท ม้าป่าฝูงใหญ่นั่นในวันนี้ถูกโม่เฟิงทำให้เชื่องเรียบร้อย ข้าอยากหารือจุดใหญ่กับฝ่าบาท เพื่อสะดวกให้ข้าฝึกซ้อมม้าพวกนั้นให้เป็นม้าศึก”

ซีซวนมีความแตกต่าง ทั้งยังต้องยื่นมือไปถึงตงเสวียน นางและท่านลุงต้องเตรียมตัวเนิ่น ๆ หากวันหนึ่งราชสำนักมีสงคราม ก็ไม่ถึงกับว่าตั้งตัวตั้งรับไม่ทัน

สายตาฮ่องเต้สาดแสงโชติช่วงแวบหนึ่ง “ได้ เจ้าคิดว่าลานล่าสัตว์หลังนี้ของราชวงศ์เป็นอย่างไร?”

“ลานล่าสัตว์แน่นอนว่าดี เพียงแต่นี่เป็นสถานที่ของฝ่าบาท……”

“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสัญญาไว้ เพียงแต่เจ้ามีความต้องการ ข้าก็ต้องพยายามร่วมมือสุดความสามารถแน่นอน เจ้าและตระกูลซูไม่ทำให้ข้าผิดหวัง แน่นอนว่าข้าเองก็ไม่คิดเล็กคิดน้อย พื้นที่ลานล่าสัตว์ตรงนี้กว้างใหญ่ คอกม้ารอมีพร้อมตามที่ควร อีกทั้งด้านหลังมีป่าภูเขา ก็สะดวกให้ม้าทำกิจกรรม ให้เจ้าก็เหมาะเจาะพอดี”

ฉู่เชียนหลีพูดจาสง่างาม “ขอบพระทัยฮ่องเต้ ม้าพวกนั้นยังไม่สรุปจำนวนที่แน่ชัด รอจนฝึกเสร็จแล้ว ข้าจะเก็บไว้หนึ่งในสาม ที่เหลือถวายฮ่องเต้เพื่อทำหน้าที่เป็นกองทัพใหญ่ตงเสวียน”

“เช่นนี้ก็ดีอย่างยิ่ง”

ในใจฮ่องเต้เบิกบาน บุคลิกองอาจห้าวหาญในวันนั้นของโม่เฟิง ใครเห็นแล้วใจจะไม่เต้นกัน?

ม้าฝูงใหญ่ขนาดนี้ถูกฉู่เชียนหลีฝึกซ้อมออกมา เกรงว่าแค่มีครึ่งหนึ่งของโม่เฟิงก็เพียงพอให้ตงเสวียนป้องกันกำลังรบทหารม้าของทัพใหญ่เพิ่มการสกัดกั้นสูงมากขึ้น

ฉู่เชียนหลีคิดถึงแผนการของตนเอง ตัดสินใจยังไงก็ควรแจ้งฮ่องเต้ก่อน

“ฝ่าบาท ซุนยู่จือทางนั้น ไม่ทราบว่าฮ่องเต้ส่งคนไปไต่สวนให้ชัดเจนได้หรือไม่?”

“ได้ตรวจสอบจนชัดเจนแล้ว” คิดถึงคำสารภาพของซุนยู่จือ สีหน้าของฮ่องเต้ก็นิ่งขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด “เชียนหลี ซุนยู่จือและคนพวกนั้นที่อยู่เบื้องหลังนาง ล้วนสมควรตาย!”

หญิงสาวที่ไม่มีความผิดมากมายขนาดนั้นถูกทำร้าย ยังตายโดยไม่ชัดเจน สังหารซุนยู่จือร้อยครั้งยังยากที่แก้ไขความเจ็บช้ำ

“ฝ่าบาท งั้นปลดปล่อยซุนยู่จือออกมาเถอะ”

ฮ่องเต้ไม่เข้าใจ “เชียนหลี ซุนยู่จือนั้นทำความเลวเอาไว้มาก ตายไปยังน้อย เจ้ายังต้องการปล่อยนาง?”

“ฮ่องเต้ นางมีชีวิต คนมากมายย่อมนอนหลับได้ยากตลอดวันคืน ฮ่องเต้ก็จะได้เห็นซีซวนที่กำลังเคลื่อนไหวเพื่อจะก่อการร้าย พูดไม่ได้ว่าเมื่อไหร่กันแน่ที่จะเริ่มคุกคามตงเสวียน หากมีการรุกรานจากภายนอกแน่นอนว่าไม่อาจมีความไม่สงบภายในได้อีก ปล่อยซุนยู่จือออกไป ตกปลาตัวใหญ่บางส่วนที่อยู่เบื้องหลังนาง ฮ่องเต้สามารถคว้าโอกาสดีดีกวาดล้างขุนนางสักหน่อย”

ฮ่องเต้เงยหน้าขึ้น ในสายตามีแววตาสีหน้าตัดสินใจ “……ได้ สองปีนี้ ราชสำนักบรรยากาศอึมครึมเต็มไปด้วยเหตุร้าย ควรจะชำระสะสางให้ดีดีสักครั้ง”

“ฮ่องเต้ปรีชาสามารถ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี