บทที่ 138 สุนัขรับใช้เข้าประจำตำแหน่งเรียบร้อย – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี
ตอนนี้ของ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดย เย็นอวี่ฟังหัว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 138 สุนัขรับใช้เข้าประจำตำแหน่งเรียบร้อย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ฉู่เชียนหลีปรึกษาหารือรายละเอียดต่อกับฮ่องเต้ แล้วถึงจะออกไป
เรื่องราวกลางลานล่าสัตว์ถูกแพร่อย่างรวดเร็วจนถึงเมืองหลวง
ได้ยินว่าฉู่เชียนหลีที่ลานล่าสัตว์พยายามกอบกู้สถานการณ์ของขุนนางราชสำนักให้คืนสู่สภาพปกติอีกครั้ง ประชาชนมากมายในเมืองหลวงต่างมีเต็มไปด้วยสีหน้าตื่นเต้น ดีใจยิ่งกว่าเก็บเงินได้เปล่า ๆ เสียอีก ทยอยพากันไปบนถนน พากันชมจักรพรรดินั่งราชรถกลับวังหลวง
ฉู่เชียนหลีพิงบนรถม้าอย่างเกียจคร้านผ่อนคลาย ในปากเคี้ยวเนื้องูตากแห้งที่ผู้อาวุโสใหญ่ทำขึ้นมาใหม่ ได้ยินเสียงร้องตะโกนบนถนนสองข้างทางของเหล่าประชาชน อดไม่ได้ที่จะนั่งให้ตัวตรง ๆ แล้วเปิดม่านหน้าต่างรถออก
“อ่า คุณหนูใหญ่!”
“คุณหนูใหญ่อะไรกัน ควรเรียกว่าจวิ้นจู่แล้ว!”
“ถวายบังคมจวิ้นจู่!”
ฉู่เชียนหลีอดยิ้มไม่ได้ เห็นผู้คนมากมายที่วิ่งตามขบวนรถกลับมา รอยยิ้มเด็กน้อย ในสายตาสาดส่องประกายเล็กน้อย
ท่านลุงด้วยเหตุนี้จึงปกป้องรักษาตงเสวียนโดยไม่เรียกร้องใด ๆ คงจะเป็นเพราะเพื่อความคึกคักแบบนี้ สถานที่ที่สงบสุข
กลับถึงตระกูลซูด้วยเส้นทางที่คึกคัก ฉู่เชียนหลีรีบไปดูเจ้าชมพูและปักษีขาวสองตัวก่อน เห็นพวกมันเชื่องและเชื่อฟังมาก ก็ค่อยค่อยวางใจลง
โหลเชิ่งพวกเขากินยาของฉู่เชียนหลี นี่เลยทำให้ฟื้นฟูพลังได้เรียบร้อยแล้ว รีบเร่งไปทำความเคารพทันที
“บ่าวคารวะคุณหนูใหญ่ คารวะใต้เท้าซู……”
ฉู่เชียนหลีเปิดปากพูด “ลุกขึ้นเถอะ”
ซูยี่พยักหน้าเล็กน้อย แต่ไม่ได้เปล่งเสียงออกมา
โหลเชิ่งพวกเขากลับไม่ได้ลุกขึ้น “บ่าวรอและคนอื่น ๆ ไม่สามารถจัดการนำสัมภาระกลับมาได้ คุณหนูใหญ่โปรดลงโทษ”
ตอนที่พวกเขารีบไปถึงเขาไร้เงา สัมภาระที่ทิ้งไว้ก่อนหน้าคาดไม่ถึงว่าวางไว้อย่างมั่นคงปลอดภัย เพียงแค่ลมพัดแดดสาดส่อง มีฝุ่นละอองมากบางส่วน ทำให้พวกเขารู้สึกคาดไม่ถึงจริง ๆ
เส้นทางนี้ที่รีบกลับมา พวกเขาผ่านประสบการณ์เป็นตายหลายครั้ง แต่ก็ล้วนปกป้องสัมภาระไว้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามคาดไม่ถึงว่าเมืองหลวงที่เห็นได้ด้วยตา กลับพบเจอฝูงม้าบุกเข้าจู่โจมอย่างรวดเร็ว
น้ำเสียงเปล่งออกไป เฟิ่งเสวียนตู้เดินเข้าประตูมา “เชียนหลี ข้าวของของเจ้าเทียนชูล้วนรวบรวมหากลับมาได้แล้ว”
โหลเชิ่งและคนอื่น ๆ ถอนหายใจอย่างหนัก ความรับผิดของตนเองบนใบหน้าในที่สุดก็ไม่ได้หนักหนาขนาดนั้นแล้ว
ตอนแรกที่ออกจากเมืองหลวงเข้าไปเขาไร้เงา พวกเขาเพียงแค่อยากมีชีวิตต่อ แม้กระทั่งในใจบางคนยังคิดว่าคุณหนูใหญ่ส่งพวกเขาเข้าภูเขาก็เพื่อส่งไปตาย
แต่กลางหุบเขาได้ผ่านการถูกฝูงหมาป่าไล่โจมตี และต่อสู้กับเสือดาว พวกเขาถึงได้พบว่าอาการบาดเจ็บบนร่างกายแท้จริงกับฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วเป็นพิเศษ อีกทั้งแรงภายในก็เพิ่มทวีขึ้นทุกวัน ดีกว่าที่พวกเขาฝึกฝนมาก่อนหน้าสิบปีเสียอีก
นี่เพิ่งจะรับรู้ได้ คุณหนูใหญ่ให้พวกเขากินยาลูกกลอนแก้พาเม็ดนั้นลงไป แน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งของธรรมดา
หลังจากลงจากเขาเข้าใกล้เมืองหลวง ได้ยินข่าวลือมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาเพิ่งจะเข้าใจ เดิมทีคุณหนูใหญ่คาดไม่ถึงว่าเป็นผู้ฝึกตน ยาถอนพิษที่พวกเขากินลงไป แม้แต่ฮ่องเต้ล้วนละโมบยาหนิงลู่
บุญคุณที่ช่วยชีวิต และบุญคุณที่ให้ชีวิตใหม่ แม้พวกเขายอมตายก็ยากที่ตอบแทน
ฉู่เชียนหลีสังเกตเห็นสีหน้าซาบซึ้งในบุญคุณของโหลเชิ่งและคนอื่น ๆ สายตาก็เคลื่อนไหวเล็กน้อย “ลุกขึ้นให้หมด รักษาบาดแผลให้หายดี ข้ายังรอให้พวกเจ้ามาช่วยเรื่องใหญ่อยู่นะ”
ทำเรื่องใหญ่?
คุณหนูรับพวกเขาเป็นคนรับใช้แล้วจริง ๆ หรือ?
โหลเชิ่ง ติงห่าย คนอื่น ๆ มีความสุขจนควบคุมไม่ได้ คิดถึงคำพูดฉู่เชียนหลีก่อนหน้านี้ที่จวนเฉิงเสี้ยง แล้วรับรองด้วยน้ำเสียงดังทันที
“คุณหนูใหญ่ บ่าวและคนอื่น ๆ จะต้องเป็นสุนัขรับใช้ที่ดีที่สุด!”
“เฮ้อ” ฉู่เชียนหลีจุกอยู่ในคอ ตอนแรกนางเคยพูดจริง ๆ ต้องเก็บคนเหล่านี้มาเป็นสุนัขรับใช้ เพียงแค่ตะโกนเสียงดังแบบนี้ ค่อนข้างขายหน้าอย่างมาก “พวกเจ้า……ไปรักษาแผลกันเถอะ รักษาแผลให้หาย ก็เริ่มฝึกฝนกับโจวเหลียวและคนอื่น ๆ”
“ขอรับ คุณหนูใหญ่ยังมีอีกเรื่อง สัญญาขายร่างกายของพวกเราบางคนยังอยู่ที่ตระกูลฉู่……”
น้ำเสียงยังไม่ทันเปล่งออกไป เทียนเสวียนก็รีบรุดเข้ามา
“คุณหนูใหญ่ ฉู่เยี่ยนชิงอยู่นอกจวนพาฉู่หลิงเซวียนมาขอพบขอรับ”
ฉู่เชียนหลีเงยหน้า สายตาสาดความเย็นชา “คนผู้นี้พูดถึงไม่ได้จริง ๆ อ่า!ให้พวกเขาเข้ามา”
“พี่ชมพู มีคนมากระทุ้งถึงที่แล้ว!จัดการเลยไหม?”
ทันใดนั้นเถาวัลย์ก็ยืดตรงขึ้น ดอกกระดูกสีชมพูดอกตูมก็เตรียมผลิบาน
ฮือ คนสารเลวแบบนี้ เจ้าชมพูคำเดียวกินได้สิบคน!
เทียนเสวียนเดินมา ไม่กล้าก่อให้เกิดเถาวัลย์โลหิต ได้เพียงแค่เตือนอยู่ด้านข้าง “พวกเจ้าอย่าเข้ามามั่วซั่ว คุณหนูใหญ่รอพบพวกเขาอยู่นะ!”
อ๋อ งั้นไม่เป็นไรแล้ว
โต้เกิ๋นและเผิงเกิ๋นก้มหน้าลงทันที ทำการพิจารณาขนยาวสีม่วงต่อไป
เถาวัลย์ของเจ้าชมพูก็รีบพันกลับไปบนรั้ว แสร้งทำเป็นสิ่งของปกติทั่วไป ตั้งขึ้นดูดซับสุริยันจันทราสว่างไสว
เทียนเสวียนโล่งใจเล็กน้อย มองไปยังเถาวัลย์โลหิตที่นับวันยิ่งใหญ่และแข็งแรง ในสายตาก็แววหวาดกลัว
หลังจากมาถึงเขตธุลี พลังเสวียนของเขาก็ถูกระงับไปครึ่งหนึ่ง แต่ก็คงเพราะไม่ไร้คู่ต่อสู้เด็ดขาดแล้ว ทำยังไงก็นึกไม่ออก ยังพบกับพืชทิพย์ที่สามารถคุกคามความปลอดภัยของตนเองได้อีก จุดสำคัญคือเถาวัลย์โลหิตต้นนี้ในภายภาคหน้าจะค่อยค่อยร้ายกาจมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้ทุกครั้งที่เดินผ่านลานบ้าน ก๊อกสั่นขวัญแขวน ได้แต่ตระหนักและรู้สึกวิ่งอยู่บนความเป็นความตายที่จุดเส้นอันตรายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ช่างตื่นเต้นเร้าใจมาก
ฉู่เยี่ยนชิงและฉู่หลิงเซวียนคิดไม่ถึงเลยทั้งสิ้น แค่เดินผ่านลานบ้านง่าย ๆ สบาย ๆ ชีวิตพวกเขาก็ไม่เหลือแล้ว
กลางห้องรับแขก ฉู่เชียนหลีนั่งดื่มชาอย่างเกียจคร้านอยู่บนเก้าอี้ ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากประตู ก็เหลือบตามองไป
ฉู่เยี่ยนชิงมองแล้วค่อนข้างผอมลง บนใบหน้ามีร่องรอยสีหน้าอ่อนล้า ในเวลานี้สวมใส่ชุดสีฟ้าอมเขียว แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด มองมาอย่างทุก์ใจ หากว่าฉู่เชียนหลีอีกนิดจะอาเจียนมื้อเที่ยงที่เพิ่งกินไปไม่นานแล้ว
“เชียนหลี พ่อได้ยินว่าที่ลานล่าสัตว์เจ้ามีเหตุการณ์ที่อันตราย เจ้าไม่เป็นอะไรสบายดีหรือไม่?ไม่กี่วันมานี้พ่อกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เป็นห่วงเจ้าอย่างมาก”
ฉู่เชียนหลสูดลมหายใจเงียบเงียบ พินิจพิเคราะห์เตรียมป้องกันฉู่เยี่ยนชิงอย่างที่สุด
คนผู้นี้รู้ว่าไม่ควรใช้แผนแอบลอบทำร้าย ด้านบวกก็เข็มแข็งไม่เท่าตนเอง ดังนั้นเลยตัดสินใจเลือกใช้กลยุทธ์โอบล้อม ให้นางสะอิดสะเอียนจนตาย?
อย่าว่าแต่ การฆ่าให้ตายทางนี้ยังพอเป็นไปได้ เพราะตอนนี้นางค่อนข้างอยากอาเจียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี
ไม่อัฟแล้วหรือคะ...
เรื่องนี้สนุกมากขอทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้อัพเดทเรื่องนี้ต่อไปนะคะ😭...
เรื่องนี้สนุกมากไม่ลงตอนใหม่แล้วหรอค่ะ...
ขอร้องลงตอนใหม่ด้วยนะคะ😭...
เรื่องนี้ไม่ลงต่อแล้วหรอค่ะ...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทแล้วหรอค่ะ...