เมื่อได้ยินนางอู่กล่าวเช่นนั้น สีหน้าของเจ้าตระกูลอู๋ก็เปลี่ยนทันที “เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?”
อู๋ยุ่นหลานมองฉู่เชียนหลี สายตาของนางเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “ฉู่เชียนหลี ข้าอยากพูดกับเจ้าตามลำพัง”
ซูหยินขมวดคิ้วแน่น “นางอู๋ มีสิ่งใดจะพูดก็พูดตรงนี้เถอะ!”
นางอู๋ตอนนี้เต็มไปด้วยเจตนาชั่วร้าย ใครจะรู้ว่านางจะกล่าวอะไรไร้สาระหรือไม่?
ซูจิ่นจืออดทนไม่ไหวกับท่าทางอวดดีของนาง “น้องเชียนหลี อย่าไปสนใจนาง ข้าว่านางหมดหนทางแล้ว จะตายอยู่แล้วก็ยังไม่หยุด!”
อู๋ยุ่นหลานเงยหน้าขึ้นหัวเราะอย่างเย็นชา “ฉู่เชียนหลี ถ้าเจ้าไม่เชื่อที่ข้าพูด เจ้าอาจจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต!”
อู๋หลินหันกลับมาคำนับซูหยินและฉู่เชียนหลี เอ่ยด้วยใบหน้าตื่นตระหนก “แม่ทัพซู จวิ้นจู่ ข้าสั่งสอนพวกเขาไม่ดีเอง ข้าจะพาพวกเขากลับมาไป และสั่งสอนพวกเขาให้ดี ให้พวกเขาได้สำนึกกับสิ่งที่ทำลงไป”
เขาอยากจะขอโทษแก้ไขสิ่งต่างๆ เพื่อไม่ให้คนอื่นในตระกูลอู่ที่บริสุทธิ์ไม่ต้องเดือดร้อนด้วย แต่คิดไม่ถึงว่า อู๋ยุ่นหลานจะบ้าเช่นนี้ นางทำอย่างนี้ ต้องการลากทั้งตระกูลอู๋ลงไปตายเป็นเพื่อนางหรือ?
“เดี๋ยวก่อน” ฉู่เชียนหลีมองอู๋ยุ่นหลานที่ความชั่วร้ายแทบทะลักออกมา ริมฝีปากพันยกยิ้มขึ้นมา
“เจ้ามีเรื่องอยากคุยกับข้าเป็นการส่วนตัวหรือ?”
“ใช่ ข้ารับรอง ถ้าเจ้าไม่ฟังเจ้าจะเสียใจไปตลอดชีวิต!”
ฉู่เชียนหลีหัวเราะออกมา ครู่ต่อมา รอยยิ้มนั้นก็หายไป และตะโกนไปทางพวกโจวเหลียวที่อยู่หน้าประตู “พวกเจ้า เอาตังอู๋ยุ่นหลานโยนออกไป”
อู๋ยุ่นหลานเบิกตากว้าง “เจ้า...ฉู่เชียนหลี เจ้าไม่อยากรู้หรือ? ข้ามีเรื่องสำคัญมากจริงๆ!”
“ข้าไม่ฟัง ไม่อยากรู้ ให้เจ้าอึดอัดจนตายไปเลย!”
“คุณหนูใหญ่ พวกบ่าวมาแล้ว”โหลเชิ่งและพวกรีบวิ่งเข้ามา เบียดเสียดกับพวกโจวเหลียว
น่าขำ พวกเขาดึงดันอยากเป็นสุนัขรับใช้คนแรกหรืออย่างไร โอกาสที่กว่าจะได้แสดงพลังของสุนัขรับใช้นั้นหาได้ยากยิ่งนัก จะพลาดได้อย่างไร!
โจวเหลียวและพวกถูกเบียดจนโซเซ และถอยไปอย่างไม่พอใจ
“คุณหนูใหญ่เรียกพวกข้า!”
“พวกเจ้าเป็นสุนัขรับใช้หรือ? ” ติงห่ายที่แขนถูกพันด้วยผ้า เขาหันศีรษะมาจ้องมองอย่างดุดัน
“ไม่...ไม่ใช่”
“ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าก็ไม่คู่ควร!”
โหลเชิ่งและพวกเดินเข้ามา ลากตัวนางอู๋ออกไปข้างนอก
อู๋ยุ่นหลานโกรธแทบบ้าคลั่ง “ฉู่เชียนหลี เรื่องที่ข้าอยากพูดนั้นเกี่ยวกับแม่ของเจ้า หรือว่าเจ้าไม่อยากรู้?”
“ไม่อยาก ไม่ฟัง ไสหัวไปซะ!”
ความทรงจำส่วนใหญ่คือนางต้องทนต่อความเจ็บปวดกับการแว้งกัดของนางอู๋ กระอักเลือดอะไร นางกระอักเลือดมาหลายครั้ง นางมีประสบการณ์และคุ้นเคยมาก ใครกลัวใคร?
อู๋ยุ่นหลานคำรามเสียงดัง “หยุด ปล่อยข้า! ฉู่เชียนหลี เจ้าเชื่อข้า!”
ฉู่เชียนหลียกมือขึ้น โหลเชิ่งและพวกรีบหยุดลากคนทันที
“อยากะคุยกับข้าตามลำพังใช่หรือไม่?”
“...ใช่”
“งั้นเจ้าก็ขอร้องข้าสิ?” ฉู่เชียนหลียกสองมือกอดอก เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา
นางอู๋เดือดดาลจนแทบจะกระอักเลือด “เจ้า...เจ้าคนสาร...”
โหลเชิ่งปล่อยมือจากนางอู๋ อู่ยุ่นหลานล้มลงไปกองอยู่บนพื้น ก่อนจะกลื่นคำสบถของตนกลับไป
สายตาของฉู่เชียนหลีเย็นชา “อู๋ยุ่นหลาน ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเจ้าขอร้องข้า ข้าจะยอมคุยกับเจ้าเป็นการส่วนตัว ไม่อย่างนั้นบ่าวรับใช้ของข้าจะโยนเจ้าออกไป”
ร่างกายของอู๋ซื่อสั่นเทา
“เจ้า...”
โหลเชิ่ง
“ข้าขอร้องเจ้า!” นางอู๋เหมือนว่าจะตัดสินใจได้บางอย่าง จึงกัดฟันพูด “ฉู่เชียนหลี ข้าขอร้องเจ้า ข้าอยากคุยกับเจ้าตามลำพัง”
ยอมอดกลั้นความเกลียดชังเพราะอยากคุยกับนางอย่างนั้นหรือ? อู๋ยุ่นหลานอยากพูดอะไรกับนางกันแน่?
สายตาของฉู่เชียนหลีขยับเบาๆ นิ้วชี้ไปที่เซินเป่าที่อยู่ด้านข้าง
เซินเป่าก็พลันกระโดษขึ้นมา “น่ากลัวมาก เซินเป่ากลัวนางปีศาจคนนี้”
ผู้อาวุโสใหญ่รีบก้าวไปข้างหน้าและอุ้นเซินเป่าขึ้นมา “เซินเป่าไม่ต้องกลัว เจ้าปู่เฟิ่งจะปกป้องเจ้าเอง” หลังจากกล่าวจบ ภายใต้การส่งสัญญาณของเซินเป่า ผู้อาวุโสใหญ่ก็อุ้มเขาออกไป
ทันทีที่เซินเป่าออกไปจากห้อง ก็หาสถานที่ที่ไม่มีใครอยู่ เรียกเจ้าขาวออกมา จากนั้นก็ขี่เจ้าขาวตรงไปพระราชวัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี
ไม่อัฟแล้วหรือคะ...
เรื่องนี้สนุกมากขอทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้อัพเดทเรื่องนี้ต่อไปนะคะ😭...
เรื่องนี้สนุกมากไม่ลงตอนใหม่แล้วหรอค่ะ...
ขอร้องลงตอนใหม่ด้วยนะคะ😭...
เรื่องนี้ไม่ลงต่อแล้วหรอค่ะ...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทแล้วหรอค่ะ...