ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 75

ซุนยู่จือเห็นซูยี่ไม่ไว้หน้านางเช่นนี้ สีหน้าของนางมีร่องรอยของความดุร้ายปรากฏขึ้นทันที

“ซูยี่ เช่นนี้ก็เท่ากับว่าเจ้าไม่คิดจะให้เกียรติพี่สะใภ้ของเจ้า?”

“เกียรติต้องหาด้วยตัวเอง ไม่ใช่รอคนอื่นให้” ซูยี่พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

เรื่องที่ซุนยู่จือเคยทำมาในหลายปีนี้ จะบอกว่าเป็นบ่อมูลหมูก็ไม่เกินจริง ยังจะเอาหน้าอีกเหรอ?

นางไม่ดูสาระรูปของตนเองบ้างเลยหรือว่าคู่ควรหรือไม่?

ซุนยู่จือหัวเราะอย่างเย็นชา “ได้ เจ้าเป็นคนบีบบังคับข้าเอง”

ในขณะ นางหยิบจี้หยกที่มีเชือกสีแดงผูกชิ้นหนึ่งออกมา ถืออยู่บนปลายนิ้วเขย่าไปมาอย่างเชื่องช้า

“ดูซิ ข้าไปพบของดีอะไรมา?”

สีหน้าของซูยี่เคร่งขรึมลงทันที

โดยเฉพาะซูจิ่นจือที่อยู่ด้านข้างก้าวออกมาข้างหน้าสองก้าว ถามด้วยความร้อนใจ

“นั่นเป็นของท่านแม่ ไปอยู่ในมือของเจ้าได้อย่างไร?”

“แหม ของหมั้นหมายระวังน้องรองและน้องสะใภ้ เก็บมานานหลายปียังคงดูใหม่ ถึงขั้นจนจนต้องมาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กที่หลังคารั่ว แต่ก็ไม่ยอมแตะต้องมัน เห็นแล้วน่าซาบซึ้งถึงมาก”

ซูยี่จ้องจี้หยกไม่กระพริบตา “คืนให้ข้า!”

“คืนเจ้า?” ซุนยู่จือหัวเราะ “น้องรอง ของถูกเจ้าส่งไปที่โรงจำนำ หลังจากนั้นมาอยู่ในมือของข้า ข้าจะคืนให้เจ้าอย่างง่ายดายได้อย่างไร?”

สีหน้าของซูยี่คล่ำม่วง “เจ้าต้องการพูดอะไร?”

“ยาถอนพิษที่อยู่ในมือของฉู่เชียนหลี”

“เป็นไปไม่ได้!”

ซูยี่ตะคอก ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

เดิมทีซุนยู่จือคิดว่าอย่างไรก็ทำสำเร็จแล้ว หลังจากได้ยินคำตอบของเขา ภายในใจรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที

“ซูยี่ เจ้าคิดให้ดีก่อน ตอนที่หมินเสียนจากไป ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับนางล้วนแต่ถูกคนทำลายจนหมดสิ้น เหลือไว้เพียงจี้หยกชิ้นนี้ที่เป็นของแทนใจสุดท้ายของเจ้า”

ซูยี่กัดฟันแน่น หลับตาทั้งคู่ลงปกปิดความบอบช้ำที่ทะลักออกมา

ซุนยู่จือเห็นเขาถูกกระตุ้น รีบพูดต่อทันที

“พวกเจ้าสองคนรักกันอย่างสุดซึ้ง มุ่งมั่นที่จะมีชีวิตและตายร่วมกัน เจ้าแน่ใจหรือว่าจะไม่สนใจแม้กระทั่งของแทนใจสุดท้ายของนาง? ข้าแค่ต้องการยาถอนพิษของฉู่เชียนหลี หลังจากได้ยาถอนพิษมา ข้าจะรีบคืนของให้เจ้าทันที”

“ไม่!”

ซูยี่ลืมตาขึ้น สีหน้าแน่วแน่

“ความสัมพันธ์ของข้าและน้องเสียนถูกจารึกไว้ในใจ จี้หยกชิ้นนี้ เจ้าต้องการก็เอาไปเถอะ ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้ามีโอกาสข่มขู่ฉู่เชียนหลีเพราะข้า!”

ซุนยู่จือได้ยินคำพูดประโยคนี้ ยกจี้หยกขึ้นด้วยความโมโห

“ถ้าหากเจ้าไม่ตอบตกลง เชื่อหรือเปล่าว่าข้าจะโยนมันทันที?”

“แล้วแต่เจ้า”

นางอู๋เริ่มร้อนใจแล้ว “ฮูหยินซุน เจ้าอย่าลืมเรื่องที่ตอบตกลงข้า”

หมอคนอื่นไม่เข้าใจว่าพิษที่อยู่บนร่างกายของฉู่หลิงเซวียนคืออะไรกันแน่ ดังนั้น นางจำเป็นต้องเริ่มลงมือจากฉู่เชียนหลี เพื่อเอายาถอนพิษมา!

ซุนยู่จือกัดฟัน “ซูยี่ ข้าจะถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ตกลงเจ้าจะให้ยาถอนพิษหรือไม่?”

“ไม่!”

“ได้! เจ้าเป็นคนเลือกเองนะ”

ซุนยู่จือกัดฟัน ขว้างจี้หยกที่อยู่ในมือลงพื้นอย่างกะทันหัน

“ไม่!”

ซูจิ่นจือคร่ำครวญเสียงเบาด้วยความเจ็บปวด ก้าวออกไปข้างหน้าหวังรับจี้หยก แต่มันไม่ทันการณ์

ซูยี่หลับตาลงด้วยความเจ็บปวด มีหยดน้ำตาไหลออกมาจากหางตา

น้องเสียน ข้าทำผิดต่อเจ้า……

ในช่วงวิกฤต มีเงาแส้แลบผ่าน ในขณะที่จี้หยกกำลังจะตกสู่พื้น มันถูกม้วนขึ้นมาได้อย่างหวุดหวิด

“เพี๊ยะ”

จี้หยกตกลงบนฝ่ามือ ฉู่เชียนหลีกำมันเอาไว้แน่น ถึงถอนหายใจอย่างโล่งอก

หลังจากนั้น นางสะบัดแส้อย่างกะทันหัน ฟาดไปทางซุนยู่จือโดยตรง

“อาศัยตอนที่เขาไม่อยู่รังแกท่านลุงและท่านผู้พี่ ใจสุนัขเจ้ากล้ามาก”

“อ๊าก!”

ซุนยู่จือโดนแส้ฟาดใส่บนร่างกาย ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดออกมาทันที ไม่ทันระวังล้มลงบนพื้น

ซูยี่สังเกตเห็นฉู่เชียนหลี หัวใจที่บีบคั้นจนถึงขีดสุดผ่อนคลายลงทันที

“เชียนหลี เจ้ากลับมาแล้ว?”

ฉู่เชียนหลีย่างเท้าเข้าไป ส่งจี้หยกที่สำคัญในมือให้ซูยี่

“ท่านลุง ข้าขอโทษ……”

ถ้าหากนางรอบคอบมากกว่านี้ ก็คงไม่เกิดเรื่องที่เป็นกังวลใจเช่นนี้ขึ้น ทำให้ท่านลุงและท่านผู้พี่ต้องรับแบกความขุ่นเคือง

ซูยี่รู้สึกอึ้ง รีบส่ายหัว “พูดอะไรของเจ้า เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับเจ้า”

ฉู่เชียนหลีเม้มริมฝีปาก เปลี่ยนความอัดอั้นใจทั้งหมดเป็นความโกรธใส่ซุนยู่จือแทน

“ท่านป้าใหญ่ ไม่ได้เจอกันหลายปี กิริยาของท่านโผงผางกว่าเดิม?”

ความทรงจำผุดขึ้นในหัว อารมณ์ความเกลียดชังของเจ้าของร่างเดิมก็ผุดตามมาด้วย

ตอนที่เจ้าของร่างเดิมกลับจวนเฉิงเสี้ยง ซูหมินและซูยี่ยังนำทัพอยู่ในสนามรบ ส่งจดหมายมากำชับซุนยู่จือรับนางไปพักที่บ้านตระกูลซู และทำให้เจ้าของร่างเดิมได้คุ้นเคยกับบ้านฝั่งแม่

ซุนยู่จือส่งบ่าวรับใช้ไปรับเจ้าของร่างเดิมกลับมาอย่างเชื่อฟังจริง

เพียงแต่แวบแรกที่เจอนาง ปิดจมูกของตนเองด้วยความรังเกียจ หลังจากสั่งให้คนพานางไปชำระล้างให้สะอาด ถึงอนุญาตให้เข้าบ้าน

เจ้าของร่างเดิมถูกสาดจนเปียกปอนด้วยบ่อน้ำบาดาลในฤดูหนาว

ต่อมา เจ้าของร่างเดิมเกิดความคับแค้นในใจ ไม่กล้าเข้าใกล้ตระกูลซู ท่านป้าใหญ่ที่แสนดีคนนี้กลายเป็นผู้นำได้สำเร็จ

“เจ้า……”

ซุนยู่จือหันกลับไปด้วยความหัวเสีย หลังจากนั้นยืนตกตะลึงอยู่ตรงที่เดิม

ฉู่เชียนหลีกลับมาอย่างเร่งรีบ ผ้าคลุมหน้าหลุดไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เผยให้เห็นใบหน้าสวยเฉียบคมทั้งหน้า

ในตอนนี้ ดวงตาของนางเคร่งขรึม ตรงกลางหว่างคิ้วซ่อนความเฉียบแหลม

นางในตอนนี้ราวกับเป็นกระบี่ที่ถูกชักออกจากฝัก ทำให้ผู้คนไม่กล้ามองขอบกระบี่ที่แหลมคมโดยตรง

ซุนยู่จือฝืนความเจ็บปวดลุกขึ้นยืน สังเกตเห็นใบหน้าของฉู่เชียนหลี ในแววตาของนางมีประกายแห่งความเจ้าเล่ห์แลบผ่าน

บนใบหน้านางมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นอีกครั้ง ราวกับไม่สนใจที่ถูกฉู่เชียนหลีฟาดก่อนหน้านี้

“ห้าปีไม่เจอ รูปลักษณ์ของเชียนหลีเปลี่ยนไปจนไม่มีใครสามารถเทียบ?”

สีหน้าของฉู่เชียนหลีหวั่นไหวเล็กน้อย สายตาที่ซุนยู่จือมองนางเมื่อกี้ เหมือนกับกำลังมองวัตถุล้ำค่าชิ้นหนึ่ง ทำให้รู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง

“ท่านมาก็เพื่อมาดูว่าข้างามหรือไม่เหรอ?”

“ย่อมไม่ใช่อยู่แล้ว ข้ามาก็เพื่อเจ้า ป้าใหญ่ได้ยินมาว่าเจ้าและหลิงเซวียนเกิดความเข้าใจผิดกันเล็กน้อย และยังทำให้เจ้ากับแม่เลี้ยงของเจ้าเกิดความคับข้องใจต่อกัน เข้ามาเพื่อช่วยแก้ปมความเข้าใจผิด มาด้วยความหวังดีล้วนๆ”

“หวังดี?”

ฉู่เชียนหลีมองไปทางนางอู๋และฉู่หลิงเซวียนที่ยืนเงียบอยู่ด้านข้าง

สีหน้าของนางอู๋ยังคงดูซีดเซียว เห็นได้ชัดว่าอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ยังไม่หายดี

ฉู่หลิงเซวียนสวมหมวกไม้ไผ่ที่มีผ้าบางสีขาว ผ้าบางสีขาวยาวไปถึงช่วงเอว แต่นางแทบอยากจะให้มันยาวกว่านี้จนคลุมนางไปทั้งตัว

ฉู่หลิงเซวียนเงยหน้า สบตากับฉู่เชียนหลีผ่านภาพบางสีขาว เกิดความรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาทันที

ผ่านไปสักพัก นึกถึงคำพูดของซุนยู่จือที่เคยบอกกับนางก่อนมา จำเป็นต้องได้รับการรับประกันของยาถอนพิษ รู้สึกเกิดความมั่นใจขึ้นมาทันที จึงจ้องฉู่เชียนหลีด้วยความรังเกียจ

คิ้วของฉู่เชียนหลีขยับเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ามาขอร้องคนอื่น แต่กลับยังทำตัวหยิ่งเหมือนเป็นผู้สูงส่ง

ช่างทำให้รู้สึกไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก!

ซุนยู่จือสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ตึงเครียด รีบยิ้มแล้วพูดทันที

“เชียนหลี ฟังป้าใหญ่สักคำ ท้ายที่สุดเจ้าก็เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง สักวันก็ต้องแต่งงานกับคนอื่น สารรูปของซูยี่และซูจิ่นจือสามารถปกป้องเจ้าได้นานแค่ไหน? ปัจจุบันเจ้าถูกองค์ชายสามทอดทิ้ง และยังท้องก่อนแต่ง คลอดเด็กที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อออกมา ไม่ได้รับการสนับสนุนจากบ้านฝั่งแม่อีก แหมแหม……”

ดวงตาของเฟิ่งเสวียนตู้หวั่นไหวเล็กน้อย มีประกายที่มัวหมองและเยือกเย็นแลบผ่าน

ไฟแห่งความโกรธภายในใจของฉู่เชียนหลีลุกโชน แต่กลับอดทนไว้ไม่ปลดปล่อยออกมา กลับกันเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย็นชา ห้ามท่านลุงและท่านผู้พี่ที่กำลังจะโต้เถียง

“แล้วตามที่ท่านว่า ข้าควรทำอย่างไร?”

นางก็อยากรู้เหมือนกันว่าท่านป้าใหญ่ที่ไม่เอาไหนและใจร้ายคนนี้คิดจะมาไหมไหนอีก!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี