ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 93

“กา!”

ไม่ ไม่ใช่สิ!

เฟิ่งเสวียนตู้ฟังภาษาสัตว์ลึกลับของอินทรีมู่หยู เหลือบตาลงเล็กน้อย หยิบดาบของเซินเป่ามาด้วยมือของตนเอง

“อย่าโมโห ข้าช่วยเจ้าฆ่า”

เซินเป่ารีบพยักหน้า: “อืม อืม เจ้าอาขี้เหร่ พวกเราเร่งมือหน่อย ท่านแม่หิวแล้ว”

“ได้”

“กา!”

ข้าสามารถเป็นสัตว์ที่ใช้สำหรับขี่ เป็นวัวเป็นม้าก็ได้หมด!

อา อา!

เฟิ่งเสวียนตู้หิ้วอินทรีมู่หยูขึ้นมาลากไปที่ริมลำธารเล็ก ด้านนั้นฉู่เชียนหลีขยับมือเล็กน้อย การจำกัดขอบเขตของตาข่ายไหมเงือกถูกแก้ออก

อินทรีมู่หยูหมอบลงบนพื้น มองไปทางเฟิ่งเสวียนตู้เต็มไปด้วยความวิงวอน

“กา!”

เจ้าท่าน ท่านดูว่าข้ายังมีโอกาสอีกหรือไม่?

ดวงตาเย็นชาของเฟิ่งเสวียนตู้ขยับเล็กน้อย:

“ชาติหน้ายังเกิดมาเป็นสัตว์ลึกลับอีก อย่าลืมเรียนภาษาที่ใช้กันทั่วไปบนโลกมนุษย์”

อินทรีมู่หยู: “......”

หม้อต้มขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้น ด้านล่าง เปลวไฟจากฟืนกับเศษใบไม้ที่นำมาก่อไฟลุกไหม้ขึ้นสูง

เซินเป่าหาห่อผ้าสัมภาระอันเล็กของตนเองเจอแล้ว ล้วงแล้วล้วงอีก ดึงโสมเมฆแดงที่สวยงามออกมาต้นหนึ่ง

เซียวจวินยี่ช่วยถอนขนไก่เสร็จแล้ว ในตอนนี้เหนื่อยจนปวดเมื่อยแขน เห็นสิ่งของที่อยู่ในมือของเซินเป่า แววตาแสดงออกถึงความกระหายออกมาทันที

“ว้าว หัวไช้เท้านี้เปลือกเป็นสีแดง กินแล้วดับกระหายได้หรือไม่?”

เซินเป่าครุ่นคิดเล็กน้อย หลังจากนั้นนำโสมเมฆแดงยัดเข้าไปในมือของเซียวจวินยี่

“ท่านอาเซียวท่านลองดู ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”

พูดจบ ก็หันหลังวิ่งกลับไป ดึงโสมเมฆแดงออกมาใหม่อีกหนึ่งต้น ถือไปที่ด้านหน้าหม้อใบใหญ่หั่นเป็นแผ่นแล้วโยนลงไป

เซียวจวินยี่กอดโสมเมฆแดงเดินมาถึงริมลำธารเล็ก หลังจากล้างสะอาด แบ่งออกเป็นสองท่อน ยื่นท่อนหนึ่งให้แก่ซูจิ่นจื่อ

“จิ่นจือ เจ้าก็กินดับกระหาย”

ซูจิ่นจือมองดู “หัวไช้เท้า”ครึ่งท่อน กำลังจะรับมา แต่จู่ๆก็รู้สึกว่าไม่ชอบใจ

“นี่คือหัวไช้เท้า?”

เซียวจวินยี่ก้มหัว “หัวไช้เท้า” ด้านที่ถูกตัดทั้งหมดปรากฏเป็นสีแดงก่ำ น้ำค้างสีแดงเกาะตัวแวววาวเป็นจุดๆ ยังมีกลิ่นหอมเข้มข้นของโสมลอยกระจายออกมา

อืม?

“หรือ......หรือ......หรือว่านี่คือ......”

เขาตกใจจนคำที่พูดออกมาไม่คล่องแล้ว

เซินเป่าปอกเปลือกของโสมเสร็จแล้ว หันหัวไปเห็นซูจิ่นจือและเซียวจวินยี่ก้มหัวมองดูโสมเมฆแดงพร้อมกัน อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ

“ท่านลุง ท่านอาเซียว อันนี้ไม่ช่วยดับกระหายใช่หรือไม่?”

เซียวจวินยี่นำโสมเมฆแดงทั้งสองท่อนกลับไปคืนอย่างรีบร้อน

“เซินเป่า อันนี้คือโสมนี่!”

เซินเป่าตบไปที่หน้าผากหนึ่งที: “เจ้าอาขี้เหร่เคยบอกว่า โสมเมฆแดงช่วยบำรุงเลือดลม แน่นอนว่าไม่ช่วยดับกระหาย ถ้าอย่างนั้นพวกท่านลองอันนี้”

พูดจบ เขาวิ่งไปที่ด้านหน้าห่อผ้าสัมภาระอันเล็ก นั่งยองๆอยู่บนพื้นคุ้ยอยู่สักพัก หยิบโสมหิมะหยกขาวต้นหนึ่งออกมา

“อันนี้แข็งๆเย็นๆ น่าจะพอใช้ได้”

เซียวจวินยี่ยกมือขึ้นพยายามค้ำคางของตนเองที่อ้าค้างจากอาการตื่นตะลึงเอาไว้

“เซินเป่า ท่านอาเซียวรู้สึกว่า......ที่ลำธารเล็กด้านนั้นก็ดีมากแล้ว!”

พูดจบ วิ่งไปที่ริมลำธารนั่งยองๆลงไป แล้วเอาหัวมุดลงไปในลำธารเล็ก

เซียวจวินยี่ น้ำในลำธารเล็กก็ช่วยดับกระหายได้ไม่ใช่หรือ?

เจ้ายังอยากจะเอาหัวไช้เท้าจากในมือของเซินเป่า เจ้าคู่ควรหรือ?

เจ้าไม่คู่ควร เจ้าคู่ควรแก่การดื่มน้ำเย็นเท่านั้น!

เซินเป่าตกตะลึง: “ท่านอาเซียว หากท่านรู้สึกว่าอันนี้ไม่ได้ ข้ายังมีอันอื่น......”

“เซินเป่า!”

ซูจิ่นจือรีบร้อนตัดบทเซินเป่า รู้สึกว่าถ้าหากให้เขาพูดจนจบ น้องชายที่แสนดีท่านนั้นของเขาคงมุดลงไปในลำธารเล็กทั้งตัว

“เจ้าไปต้มไก่ขนสีม่วงเถอะ ท่านอาเซียวด้านนั้นไม่เป็นอะไรหรอก”

“อ่อ”

เซินเป่าพยักหน้า: โลกของผู้ใหญ่ยากที่จะเข้าใจ!

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม กลิ่นหอมเข้มข้นก็ลอยกระจายออกมา สูดดมไปทีหนึ่ง ความสดอร่อยทำให้รู้สึกอยากกินจนน้ำลายหก

ฉู่เชียนหลีที่กำลังนอนหลับอย่างสนิทค่อยๆลืมตาขึ้น ลุกขึ้นนั่งอย่างเกียจคร้าน

ไม่รู้ว่าโต๊ะเก้าอี้ถูกจัดวางไว้ที่ริมลำธารเล็กตั้งแต่เมื่อไหร่ เฟิ่งเสวียนตู้กำลังช่วยเซินเป่าแบ่งเนื้อไก่

“ท่านแม่ ท่านตื่นแล้ว ไก่ตุ๋นเสร็จแล้ว” เซินเป่ากล่าวอย่างมีความสุข

ฉู่เชียนหลีลุกขึ้นและบิดขี้เกียจ หิวจนไส้จะขาดตั้งนานแล้ว รู้สึกดีใจที่ได้ยินคำประกาศ

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราเริ่มกิน!”

ข้างโต๊ะ ข้างหน้าของฉู่เชียหลีและเซินเป่ามีถ้วยใบใหญ่วางไว้คนละถ้วย ในนั้นใส่ส่วนที่มีรสชาติอร่อยที่สุดของไก่ไว้

ขนของอินทรีมู่หยูเป็นสีม่วง แต่ทว่าเนื้อเป็นสีขาวนุ่ม น้ำซุปที่ต้มออกมาก็เป็นสีขาวนม มองแล้วยิ่งเจริญอาหาร

ฉู่เชียนหลีดื่มน้ำซุปไก่ไปคำหนึ่ง จากนั้นคีบน่องไก่ขึ้นมากิน

เนื้อนุ่มเปื่อย รสชาติสดอร่อย ตามด้วยกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของโสมเมฆแดงเมื่อกินลงไปคำหนึ่ง รู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง พลังทิพย์ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“ว้าว สมกับที่เป็นไก่ที่เข้าใจพลังเสวียนจริงๆ รสชาตินี้ไม่เป็นสองรองใคร”

ฉู่เชียนหลีอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

เซินเป่ากลืนเนื้อไก่คำใหญ่ลงไป กล่าวออกเสียง: “อืม อืม อร่อย! ท่านแม่กินเยอะเยอะหน่อย”

“ใช่แล้ว เก็บไว้ให้ท่านปู่ใหญ่ของเจ้าหรือยัง?”

“อืม อืม ให้เจ้าอาขี้เหร่ช่วยเก็บไว้ให้แล้ว อีกสักพักจะเอาไปไว้ที่ท่านแม่”

“ได้”

ฝั่งตรงข้าม เซียวจวินยี่กินกระดูกซี่โครงไก่ไปหนึ่งชิ้น หน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที กลายเป็นร้อนผ่าวไปทั้งตัว เหมือนกับว่ามีไฟกำลังเผาไหม้อยู่ในร่างกาย สิ่งที่มาพร้อมกัน ก็คือกำลังภายในที่เพิ่มขึ้น

“จิ่น......จิ่นจือ......”

ซูจิ่นจือกลืนเนื้อไก่ที่สดอร่อยในปากลงไป จากนั้นดื่มน้ำซุปไก่ตามลงไปอีกอึกใหญ่ กำลังภายในที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้เส้นลมปราณของเขาเจ็บปวด แต่ในใจของเขากลับรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก

ยิ่งเข้าใจมาก ถึงยิ่งรู้ความโง่เขลาของตนเอง

น้องสาวเชียนหลีและเซินเป่ามีความลับมากไป มากเกินไป บางทีความพยายามตลอดชีวิตของเขาอาจจะให้ความช่วยเหลือพวกเขาไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่บางทีความช่วยเหลือแค่เพียงน้อยนิดนั่น ก็คุ้มค่าที่เขาจะต่อสู้ไปตลอดชีวิต

เขาจะต้องพยายามก้าวเดินให้ทันน้องสาวเชียนหลีและเซินเป่า พยายามไม่ให้ถูกทิ้งไว้ให้ห่างมากเกินไป

“รีบกิน!”

เซียวจวินยี่มองไปที่เขา แววตาสั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นหยิบซี่โครงไก่ขึ้นมาหนึ่งชิ้น เลียนแบบท่าทางของเขาพยายามยัดลงไปในท้อง

หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม ซูจิ่นจือและเซียวจวินยี่นอนหลับลึกอยู่บนพื้น สีแดงฉานไปทั่วทั้งตัว ร้อนจนควันขึ้น เสื้อผ้าเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

ฉู่เชียนหลีและเซินเป่าร่วมมือกันกินอินทรีมู่หยูหมดไปเกินครึ่งตัวแล้ว ตอนนี้ท้องก็เป็นกลมๆ นั่งลงบนพรมที่อยู่บนผืนหญ้าและลูบท้องอย่างพึงพอใจ

“ฮู่ว อิ่มมากเลย!”

ฉู่เชียนหลีหลับตาลงอย่างสบายใจ เมื่ออ้าปาก ก็เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของไก่ตุ๋น

ในตอนนี้ พลังทิพย์ภายในร่างกายของนางไม่เพียงแต่ฟื้นคืนมาทั้งหมด ยังก้าวกระโดดไปอีกขั้นอย่างทันทีทันใด เลื่อนขั้นไปถึงนักพรตทิพย์ระดับสี่

เซินเป่ากอดท้องกลมๆ แก้มแดงก่ำ ดวงตาโค้งจนเหมือนกับจันทร์เสี้ยว

“ท่านแม่ เซินเป่าชอบกินไก่ขนสีม่วง!”

“ท่านแม่ก็ชอบ!”

ฉู่เชียนหลีกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงไป จู่ๆภายในใจก็เกิดความสนใจในเรื่องที่เฟิ่งเสวียนตู้พูดเกี่ยวกับจงอวี้

สัตว์ที่สามารถฝึกพลังเสวียนได้รสชาติอร่อยเช่นนี้เอง สิ่งที่สำคัญคือยังสามารถเกิดพลังเสวียนได้ ยังไงนางก็จะต้องตามไปลิ้มลองให้ได้!

ท้ายที่สุด ชีวิตปลดเกษียณที่ไม่มีอาหารรสเลิศ รู้สึกว่าขาดความสนุกสนานลงไปเยอะเลย

เซินเป่าเข้าไปใกล้ด้านหน้าฉู่เชียนหลี ดวงตาโตส่องประกายแวววาว: “ท่านแม่ ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปกัน?”

“อืม รอท่านแม่แก้ไขปัญหาพวกเศษขยะพวกนั้นแล้ว พวกเราก็ออกเดินทาง!”

“ดีมากเลย!” เซินเป่าส่งเสียงร้องด้วยความดีใจ “จับไก่ขนสีม่วง!”

ฉู่เชียนหลียกมุมปากขึ้นตาม พูดหยอกเขาอยู่อีกด้านหนึ่ง: “จับกี่ตัว?”

เซินเป่านึกถึงการละเล่นที่เคยเล่นขึ้นมาได้ ท้องเล็กๆสั่นกระเพื่อมทันทีที่หัวเราะ

“จับห้าตัว!”

ฉู่เชียนหลีกลั้นขำ: “จับได้แล้ว!”

เซินเป่าบีบปากไว้: “กา!”

ฉู่เชียนหลี: “กา!”

หลังร้องจบ ฉู่เชียนหลีและเซินเป่าหันไปมองซูจิ่นจือและเซียวจวินยี่พร้อมกัน อืม หลับไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็รับต่อไม่ได้

จากนั้น สายตาของทั้งสองคนก็ตกไปที่บนร่างของเฟิ่งเสวียนตู้ เทียนชูและเทียนเซวียน

เทียนชูถูกมองจนนรู้สึกหวาดกลัวอย่างสุดขีด ครู่ใหญ่ๆ อ้าปากด้วยความลังเล: “......กา!”

เทียนเซวียน: “กา!”

เฟิ่งเสวียนตู้: “……”

เขาเป็นตี้จวินหงส์ผู้มีรูปร่างหน้าตาสง่างามเกรงขาม คงไม่เล่นการละเล่นเหมือนเด็กแบบนี้หรอก!

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง

“......กา......”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี