“กา!”
ไม่ ไม่ใช่สิ!
เฟิ่งเสวียนตู้ฟังภาษาสัตว์ลึกลับของอินทรีมู่หยู เหลือบตาลงเล็กน้อย หยิบดาบของเซินเป่ามาด้วยมือของตนเอง
“อย่าโมโห ข้าช่วยเจ้าฆ่า”
เซินเป่ารีบพยักหน้า: “อืม อืม เจ้าอาขี้เหร่ พวกเราเร่งมือหน่อย ท่านแม่หิวแล้ว”
“ได้”
“กา!”
ข้าสามารถเป็นสัตว์ที่ใช้สำหรับขี่ เป็นวัวเป็นม้าก็ได้หมด!
อา อา!
เฟิ่งเสวียนตู้หิ้วอินทรีมู่หยูขึ้นมาลากไปที่ริมลำธารเล็ก ด้านนั้นฉู่เชียนหลีขยับมือเล็กน้อย การจำกัดขอบเขตของตาข่ายไหมเงือกถูกแก้ออก
อินทรีมู่หยูหมอบลงบนพื้น มองไปทางเฟิ่งเสวียนตู้เต็มไปด้วยความวิงวอน
“กา!”
เจ้าท่าน ท่านดูว่าข้ายังมีโอกาสอีกหรือไม่?
ดวงตาเย็นชาของเฟิ่งเสวียนตู้ขยับเล็กน้อย:
“ชาติหน้ายังเกิดมาเป็นสัตว์ลึกลับอีก อย่าลืมเรียนภาษาที่ใช้กันทั่วไปบนโลกมนุษย์”
อินทรีมู่หยู: “......”
หม้อต้มขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้น ด้านล่าง เปลวไฟจากฟืนกับเศษใบไม้ที่นำมาก่อไฟลุกไหม้ขึ้นสูง
เซินเป่าหาห่อผ้าสัมภาระอันเล็กของตนเองเจอแล้ว ล้วงแล้วล้วงอีก ดึงโสมเมฆแดงที่สวยงามออกมาต้นหนึ่ง
เซียวจวินยี่ช่วยถอนขนไก่เสร็จแล้ว ในตอนนี้เหนื่อยจนปวดเมื่อยแขน เห็นสิ่งของที่อยู่ในมือของเซินเป่า แววตาแสดงออกถึงความกระหายออกมาทันที
“ว้าว หัวไช้เท้านี้เปลือกเป็นสีแดง กินแล้วดับกระหายได้หรือไม่?”
เซินเป่าครุ่นคิดเล็กน้อย หลังจากนั้นนำโสมเมฆแดงยัดเข้าไปในมือของเซียวจวินยี่
“ท่านอาเซียวท่านลองดู ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
พูดจบ ก็หันหลังวิ่งกลับไป ดึงโสมเมฆแดงออกมาใหม่อีกหนึ่งต้น ถือไปที่ด้านหน้าหม้อใบใหญ่หั่นเป็นแผ่นแล้วโยนลงไป
เซียวจวินยี่กอดโสมเมฆแดงเดินมาถึงริมลำธารเล็ก หลังจากล้างสะอาด แบ่งออกเป็นสองท่อน ยื่นท่อนหนึ่งให้แก่ซูจิ่นจื่อ
“จิ่นจือ เจ้าก็กินดับกระหาย”
ซูจิ่นจือมองดู “หัวไช้เท้า”ครึ่งท่อน กำลังจะรับมา แต่จู่ๆก็รู้สึกว่าไม่ชอบใจ
“นี่คือหัวไช้เท้า?”
เซียวจวินยี่ก้มหัว “หัวไช้เท้า” ด้านที่ถูกตัดทั้งหมดปรากฏเป็นสีแดงก่ำ น้ำค้างสีแดงเกาะตัวแวววาวเป็นจุดๆ ยังมีกลิ่นหอมเข้มข้นของโสมลอยกระจายออกมา
อืม?
“หรือ......หรือ......หรือว่านี่คือ......”
เขาตกใจจนคำที่พูดออกมาไม่คล่องแล้ว
เซินเป่าปอกเปลือกของโสมเสร็จแล้ว หันหัวไปเห็นซูจิ่นจือและเซียวจวินยี่ก้มหัวมองดูโสมเมฆแดงพร้อมกัน อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
“ท่านลุง ท่านอาเซียว อันนี้ไม่ช่วยดับกระหายใช่หรือไม่?”
เซียวจวินยี่นำโสมเมฆแดงทั้งสองท่อนกลับไปคืนอย่างรีบร้อน
“เซินเป่า อันนี้คือโสมนี่!”
เซินเป่าตบไปที่หน้าผากหนึ่งที: “เจ้าอาขี้เหร่เคยบอกว่า โสมเมฆแดงช่วยบำรุงเลือดลม แน่นอนว่าไม่ช่วยดับกระหาย ถ้าอย่างนั้นพวกท่านลองอันนี้”
พูดจบ เขาวิ่งไปที่ด้านหน้าห่อผ้าสัมภาระอันเล็ก นั่งยองๆอยู่บนพื้นคุ้ยอยู่สักพัก หยิบโสมหิมะหยกขาวต้นหนึ่งออกมา
“อันนี้แข็งๆเย็นๆ น่าจะพอใช้ได้”
เซียวจวินยี่ยกมือขึ้นพยายามค้ำคางของตนเองที่อ้าค้างจากอาการตื่นตะลึงเอาไว้
“เซินเป่า ท่านอาเซียวรู้สึกว่า......ที่ลำธารเล็กด้านนั้นก็ดีมากแล้ว!”
พูดจบ วิ่งไปที่ริมลำธารนั่งยองๆลงไป แล้วเอาหัวมุดลงไปในลำธารเล็ก
เซียวจวินยี่ น้ำในลำธารเล็กก็ช่วยดับกระหายได้ไม่ใช่หรือ?
เจ้ายังอยากจะเอาหัวไช้เท้าจากในมือของเซินเป่า เจ้าคู่ควรหรือ?
เจ้าไม่คู่ควร เจ้าคู่ควรแก่การดื่มน้ำเย็นเท่านั้น!
เซินเป่าตกตะลึง: “ท่านอาเซียว หากท่านรู้สึกว่าอันนี้ไม่ได้ ข้ายังมีอันอื่น......”
“เซินเป่า!”
ซูจิ่นจือรีบร้อนตัดบทเซินเป่า รู้สึกว่าถ้าหากให้เขาพูดจนจบ น้องชายที่แสนดีท่านนั้นของเขาคงมุดลงไปในลำธารเล็กทั้งตัว
“เจ้าไปต้มไก่ขนสีม่วงเถอะ ท่านอาเซียวด้านนั้นไม่เป็นอะไรหรอก”
“อ่อ”
เซินเป่าพยักหน้า: โลกของผู้ใหญ่ยากที่จะเข้าใจ!
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม กลิ่นหอมเข้มข้นก็ลอยกระจายออกมา สูดดมไปทีหนึ่ง ความสดอร่อยทำให้รู้สึกอยากกินจนน้ำลายหก
ฉู่เชียนหลีที่กำลังนอนหลับอย่างสนิทค่อยๆลืมตาขึ้น ลุกขึ้นนั่งอย่างเกียจคร้าน
ไม่รู้ว่าโต๊ะเก้าอี้ถูกจัดวางไว้ที่ริมลำธารเล็กตั้งแต่เมื่อไหร่ เฟิ่งเสวียนตู้กำลังช่วยเซินเป่าแบ่งเนื้อไก่
“ท่านแม่ ท่านตื่นแล้ว ไก่ตุ๋นเสร็จแล้ว” เซินเป่ากล่าวอย่างมีความสุข
ฉู่เชียนหลีลุกขึ้นและบิดขี้เกียจ หิวจนไส้จะขาดตั้งนานแล้ว รู้สึกดีใจที่ได้ยินคำประกาศ
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราเริ่มกิน!”
ข้างโต๊ะ ข้างหน้าของฉู่เชียหลีและเซินเป่ามีถ้วยใบใหญ่วางไว้คนละถ้วย ในนั้นใส่ส่วนที่มีรสชาติอร่อยที่สุดของไก่ไว้
ขนของอินทรีมู่หยูเป็นสีม่วง แต่ทว่าเนื้อเป็นสีขาวนุ่ม น้ำซุปที่ต้มออกมาก็เป็นสีขาวนม มองแล้วยิ่งเจริญอาหาร
ฉู่เชียนหลีดื่มน้ำซุปไก่ไปคำหนึ่ง จากนั้นคีบน่องไก่ขึ้นมากิน
เนื้อนุ่มเปื่อย รสชาติสดอร่อย ตามด้วยกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของโสมเมฆแดงเมื่อกินลงไปคำหนึ่ง รู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง พลังทิพย์ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ว้าว สมกับที่เป็นไก่ที่เข้าใจพลังเสวียนจริงๆ รสชาตินี้ไม่เป็นสองรองใคร”
ฉู่เชียนหลีอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
เซินเป่ากลืนเนื้อไก่คำใหญ่ลงไป กล่าวออกเสียง: “อืม อืม อร่อย! ท่านแม่กินเยอะเยอะหน่อย”
“ใช่แล้ว เก็บไว้ให้ท่านปู่ใหญ่ของเจ้าหรือยัง?”
“อืม อืม ให้เจ้าอาขี้เหร่ช่วยเก็บไว้ให้แล้ว อีกสักพักจะเอาไปไว้ที่ท่านแม่”
“ได้”
ฝั่งตรงข้าม เซียวจวินยี่กินกระดูกซี่โครงไก่ไปหนึ่งชิ้น หน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที กลายเป็นร้อนผ่าวไปทั้งตัว เหมือนกับว่ามีไฟกำลังเผาไหม้อยู่ในร่างกาย สิ่งที่มาพร้อมกัน ก็คือกำลังภายในที่เพิ่มขึ้น
“จิ่น......จิ่นจือ......”
ซูจิ่นจือกลืนเนื้อไก่ที่สดอร่อยในปากลงไป จากนั้นดื่มน้ำซุปไก่ตามลงไปอีกอึกใหญ่ กำลังภายในที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้เส้นลมปราณของเขาเจ็บปวด แต่ในใจของเขากลับรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก
ยิ่งเข้าใจมาก ถึงยิ่งรู้ความโง่เขลาของตนเอง
น้องสาวเชียนหลีและเซินเป่ามีความลับมากไป มากเกินไป บางทีความพยายามตลอดชีวิตของเขาอาจจะให้ความช่วยเหลือพวกเขาไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่บางทีความช่วยเหลือแค่เพียงน้อยนิดนั่น ก็คุ้มค่าที่เขาจะต่อสู้ไปตลอดชีวิต
เขาจะต้องพยายามก้าวเดินให้ทันน้องสาวเชียนหลีและเซินเป่า พยายามไม่ให้ถูกทิ้งไว้ให้ห่างมากเกินไป
“รีบกิน!”
เซียวจวินยี่มองไปที่เขา แววตาสั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นหยิบซี่โครงไก่ขึ้นมาหนึ่งชิ้น เลียนแบบท่าทางของเขาพยายามยัดลงไปในท้อง
หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม ซูจิ่นจือและเซียวจวินยี่นอนหลับลึกอยู่บนพื้น สีแดงฉานไปทั่วทั้งตัว ร้อนจนควันขึ้น เสื้อผ้าเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ฉู่เชียนหลีและเซินเป่าร่วมมือกันกินอินทรีมู่หยูหมดไปเกินครึ่งตัวแล้ว ตอนนี้ท้องก็เป็นกลมๆ นั่งลงบนพรมที่อยู่บนผืนหญ้าและลูบท้องอย่างพึงพอใจ
“ฮู่ว อิ่มมากเลย!”
ฉู่เชียนหลีหลับตาลงอย่างสบายใจ เมื่ออ้าปาก ก็เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของไก่ตุ๋น
ในตอนนี้ พลังทิพย์ภายในร่างกายของนางไม่เพียงแต่ฟื้นคืนมาทั้งหมด ยังก้าวกระโดดไปอีกขั้นอย่างทันทีทันใด เลื่อนขั้นไปถึงนักพรตทิพย์ระดับสี่
เซินเป่ากอดท้องกลมๆ แก้มแดงก่ำ ดวงตาโค้งจนเหมือนกับจันทร์เสี้ยว
“ท่านแม่ เซินเป่าชอบกินไก่ขนสีม่วง!”
“ท่านแม่ก็ชอบ!”
ฉู่เชียนหลีกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงไป จู่ๆภายในใจก็เกิดความสนใจในเรื่องที่เฟิ่งเสวียนตู้พูดเกี่ยวกับจงอวี้
สัตว์ที่สามารถฝึกพลังเสวียนได้รสชาติอร่อยเช่นนี้เอง สิ่งที่สำคัญคือยังสามารถเกิดพลังเสวียนได้ ยังไงนางก็จะต้องตามไปลิ้มลองให้ได้!
ท้ายที่สุด ชีวิตปลดเกษียณที่ไม่มีอาหารรสเลิศ รู้สึกว่าขาดความสนุกสนานลงไปเยอะเลย
เซินเป่าเข้าไปใกล้ด้านหน้าฉู่เชียนหลี ดวงตาโตส่องประกายแวววาว: “ท่านแม่ ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปกัน?”
“อืม รอท่านแม่แก้ไขปัญหาพวกเศษขยะพวกนั้นแล้ว พวกเราก็ออกเดินทาง!”
“ดีมากเลย!” เซินเป่าส่งเสียงร้องด้วยความดีใจ “จับไก่ขนสีม่วง!”
ฉู่เชียนหลียกมุมปากขึ้นตาม พูดหยอกเขาอยู่อีกด้านหนึ่ง: “จับกี่ตัว?”
เซินเป่านึกถึงการละเล่นที่เคยเล่นขึ้นมาได้ ท้องเล็กๆสั่นกระเพื่อมทันทีที่หัวเราะ
“จับห้าตัว!”
ฉู่เชียนหลีกลั้นขำ: “จับได้แล้ว!”
เซินเป่าบีบปากไว้: “กา!”
ฉู่เชียนหลี: “กา!”
หลังร้องจบ ฉู่เชียนหลีและเซินเป่าหันไปมองซูจิ่นจือและเซียวจวินยี่พร้อมกัน อืม หลับไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็รับต่อไม่ได้
จากนั้น สายตาของทั้งสองคนก็ตกไปที่บนร่างของเฟิ่งเสวียนตู้ เทียนชูและเทียนเซวียน
เทียนชูถูกมองจนนรู้สึกหวาดกลัวอย่างสุดขีด ครู่ใหญ่ๆ อ้าปากด้วยความลังเล: “......กา!”
เทียนเซวียน: “กา!”
เฟิ่งเสวียนตู้: “……”
เขาเป็นตี้จวินหงส์ผู้มีรูปร่างหน้าตาสง่างามเกรงขาม คงไม่เล่นการละเล่นเหมือนเด็กแบบนี้หรอก!
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง
“......กา......”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี
เรื่องนี้สนุกมากขอทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้อัพเดทเรื่องนี้ต่อไปนะคะ😭...
เรื่องนี้สนุกมากไม่ลงตอนใหม่แล้วหรอค่ะ...
ขอร้องลงตอนใหม่ด้วยนะคะ😭...
เรื่องนี้ไม่ลงต่อแล้วหรอค่ะ...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทแล้วหรอค่ะ...