ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 97

ตรงประตูเมือง รวมพลผู้คนนับไม่ถ้วนรอชมการกลับมาของราชรถ

แม้ว่าฮ่องเต้ตงเสวียนไม่ได้ทำอะไรเลยในช่วงสองปีที่ผ่านมา ในช่วงปีก่อนหน้าอย่างจักรพรรดิได้สงบชายแดน ปราบจลาจล แล้วทำให้ประชาชนอยู่อย่างสงบสุขได้จริงๆ เหตุนั้นก็มีบารมีอย่างสูงในหมู่ประชาชน คนมาต้อนรับเข้ากลับมาก็มีอยู่มาก

เด็กน้อยมากมายก็ตามมาเต็มถนน ถูกผู้ใหญ่ดุด่าเป็นระยะก็ไม่กลัว ยังคงหัวเราะอย่างมีความสุข ชูกังหันลมวิ่งไปมาจนเหงื่อเต็มหน้า เพลิดเพลินกับช่วงเวลาของฤดูใบไม้ผลิ

ทันใดนั้น ก็มีเสียงหึ่งๆดังขึ้น ประชาชนมากมายนิ่งงั้น เงยหน้ามองไปบนฟ้าอย่างโง่เขลา

เมื่อมองเห็นชัดกับสิ่งที่กำลังบินมา เสียงหัวเราะเดิมก็ขาดหายไปในทันที แทนที่ด้วยเสียงกรีดร้องและความตื่นตระหนก!

“ผึ้ง……”

“ไม่ ไม่ใช่ นั่นมันตัวต่อร่างแดง!”

"หนี รีบหนีเร็ว!"

ตัวต่อร่างแดงฝูงใหญ่ราวกับกลุ่มเมฆสีดำ เข้ามาใกล้ในพริบตา

“อ๊ากกก!”

“ฮืออ ท่านพ่อ ท่านแม่......”

ท่ามกลางความตื่นตระหนก ฝูงชนเบียดเสียดกันเป็นกลุ่ม เสียงร้องสะพรึงกลัวของเด็กทำคนได้ยินปวดใจ

ทหารรักษาพระองค์ได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มงวด แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้หลบหนีเหมือนคนทั่วไป แต่ตัวต่อร่างแดงก็มุดเข้าไปในช่องว่างในชุดเกราะของพวกเขา เมื่อเข็มพิษเจาะเข้าไป ก็เป็นความเจ็บปวดรวดร้าวไปถึงกระดูก ตามด้วยการแพร่กระจายของพิษ ทำให้พวกเขาหน้ามืดตามัวเป็นพักๆ

“คุ้มกันราชรถ!คุ้มกันราชรถ!”

“ช่วยด้วย!”

ม้าตื่นตกใจ ยกกีบขึ้นสูงกรีดร้องอย่างไม่หยุดหย่อน บางตัวถึงกับเริ่มวิ่งมัวไปทั่วสารทิศ เหยียบย่ำทหารรักษาพระองค์ที่บังเอิญล้มลงกับพื้นไว้ใต้กีบม้า

หน้ารถม้าของฮ่องเต้ ก็ถูกตัวต่อร่างแดงล้อมแน่นไว้หมดแล้ว

เกาหลินตะโกนคุ้มกันราชรถจนเสียงแหบแห้ง แต่ทหารรักษาพระองค์หมดปัญญาสู้กับตัวต่อร่างแดงที่มากันเป็นกลุ่มก้อน

“ฝ่าบาท!”

เกาหลินยังคงตบตีผึ้งพิษด้วยแขนเสื้อ แต่ก็ล้วนเปล่าประโยชน์

“ฝ่าบาท ข้าน้อยสามารถรับใช้ท่านมาหลายปี ตายไปก็ไม่เสียดายแล้ว เดี๋ยวข้าน้อยคว่ำบนผึ้งพิษ ท่านก็เหยียบบนร่างข้าน้อยออกไป!”

ฮ่องเต้สีหน้าเคร่งขรึม ทันใดนั้นมือที่สั่นเทากำเป็นหมัด

“เกาหลิน!”

“ฝ่าบาท ช้าไปแล้ว ท่านรีบ...”

วินาทีต่อมา เสียงอุทานก็ดังขึ้น

“ท่านเซียน!”

"ท่านเซียนมาแล้ว ดีจริงๆ!"

ฮ่องเต้ก็หรี่ตาลงทันใด ชักดาบยาวออกมา ฟันลงที่ม่านรถ มองไปยังกำแพงเมืองที่อยู่ข้างหน้า

บนกำแพงเมือง ฉู่หานปี้ในชุดขาวทั้งตัวยืนอยู่บนกำแพง สายลมพัดปลิว ชายเสื้อพลิ้วไหว ราวกับยืนอยู่บนสายลม

ตัวต่อร่างแดงบินว่อนเต็มฟ้า มีเพียงรอบข้างของเขาที่สะอาด

เมื่อองครักษ์เห็นเขา ก็คุกเข่าลงบนพื้นทันทีตะโกนขอความช่วยเหลือ

“เจ้าท่านต้าวหยาง ได้โปรดช่วยด้วย!”

“ช่วยพวกเราด้วยเถอะ พวกเรายินดีจะทำตามคำสั่งทุกอย่างของเจ้าท่าน!”

ฉู่หานปี้ลืมตาขึ้น ฟังเสียงคร่ำครวญของมนุษย์ด้วยความเพลิดเพลิน ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น บุตรเอกจวนเฉิงเสี้ยงอะไร เป็นข้าราชการชั้นสูงอะไร จะมีความสบายเท่าการควบคุมความตายของมนุษย์ได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร?

มด ล้วนเป็นมดที่เพียงยื่นมือก็สามารถบดขยี้ให้ตายได้

แต่เขาในขณะนี้ ก็คือเทพเจ้าที่ควบคุมมด!

ฉู่หานปี้พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ปีศาจร้ายถือกำเนิด ภัยพิบัติก็มาเยือน ฮ่องเต้ตงเสวียน เจ้ารู้ผิดหรือไม่"

ฮ่องเต้เชยตาขึ้น ไม่สนใจผึ้งพิษที่อยู่รายรอบ ค่อยๆ ลงจากรถม้ายืนบนพื้นดิน กล่าวอย่างเคร่งขรึม:

“ข้ามีความผิดเช่นไร?”

ผึ้งพิษต่อยที่แขนและแก้มของเขา แต่เขากลับยืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับว่าไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลย

“เจ้าสมยอมมารสาว ลงโทษญาติของเจ้าท่านผู้นี้ เหตุนั้นจึงทำให้เหล่าทวยเทพขุ่นเคือง เลยถูกลงโทษ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ในเมืองหลวงต้องทนทุกข์ไปด้วย!”

“มารสาว?เจ้าหมายถึงใคร?”

ฉู่หานปี้ค่อยๆ ยกมือขึ้น ชี้นิ้วไปที่รถม้าที่ฉู่เชียนหลีอยู่

“ฉู่เชียนหลี!”

ภายในรถม้า ฉู่เชียนหลีลืมตาขึ้น แสงในดวงตาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง

“ตอนแรกคิดว่า ฉู่หานปี้จะพุ่งมาที่พวกเรา คิดไม่ถึง ว่าเขาจะไม่ละเว้นแม้แต่คนธรรมดาทั่วไป!ไอ่กากเดนนี้!”

เซินเป่าซ่อนอยู่ที่มุมของรถม้า มีตัวต่อที่มีพิษเอวสีแดงกำลังมุดเข้าไปในรถม้า เมื่อก่อนเขาสามารถสื่อสารได้ แต่คราวนี้ ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ตัวต่อร่างแดงเหล่านั้นก็ไม่ตอบสนอง

ฉู่เชียนหลีได้ยินคำพูดของ ฉู่หานปี้ความโกรธก็วาบขึ้นในสายตา นางหันมองไปยังเฟิ่งเสวียนตู้

“เจ้าขี้เหร่ ช่วยดูแลเซินเป่าให้ข้าด้วย ข้าไปไปก็กลับ”

“เทียนชู เทียนเสวียน ดูแลองค์ชายเล็กให้ดี” เฟิ่งเสวียนตู้ยืนขึ้น กุมมือของฉู่เชียนหลีไว้ แสงในดวงตาเย็นชามั่นคง "ข้าไปกับเจ้า!"

คิ้วของฉู่เชียนหลีขมวดเล็กน้อย: "อาการของเจ้า ......” เจ้าขี้เหร่ไม่สามารถใช้พลังเสวียนไม่ใช่หรือ?

“หลังเกิดเรื่อง เจ้าจะช่วยข้า ไม่ใช่หรือ?” เฟิ่งเสวียนตู้หันกลับมา

ฉู่เชียนหลีหลี่นิ่งงัน สบตาที่แน่วแน่ของเฟิ่งเสวียนตู้ หยิบยาเม็ดหนึ่งขึ้นมา ยัดไปในมือของเฟิ่งเสวียนตู้

“ทนไม่ไหวแล้วก็กินหนึ่งเม็ด”

แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะจบปัญหากากเดนนี้ แต่ความตั้งใจแบบนี้หาได้ยากจริงๆ

“ได้”

ฉู่เชียนหลีและเฟิ่งเสวียนตู้มือถือดาบยาว เคียงบ่าเคียงไหล่

วินาทีถัดมา แสงดาบสองเล่มพุ่งออกไป สง่างามราวกับสายรุ้ง ฟันทางออกมาได้หนึ่งเส้นทามกลางฝูงตัวต่อร่างแดงที่บินอยู่บนท้องฟ้า!

ตัวต่อร่างแดงหยุดเคลื่อนไหว ราวกับว่าพวกมันถูกสยบไว้ แค่บินว่อนแต่ไม่กล้าทำร้ายใครอีก

ฉู่เชียนหลีหลี่สวมชุดสีแดง ผมสีดำปลิวไสว ชายกระโปรง แขนเสื้อถูกพัดปลิวไปตามลม

นางชำเลืองมองไปในเมืองและนอกเมือง ทหารรักษาพระองค์จนมุม ขบวนไม่เป็นรูปเป็นร่าง แต่ภายในประตูเมืองที่เปิดกว้าง ผู้คนนับไม่ถ้วนคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความหวาดหวั่น ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล สะอื้นไห้ดังไปทั่วฟ้า

ผู้ใหญ่ยังดีกว่า เด็กบางคนถูกความเบียดเสียดเหยียบย่ำ นอนอยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยเลือด ไม่รู้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่

สายตาของ ฉู่เชียนหลีเต็มไปด้วยความโกรธและความเจ็บปวด นางเงยหน้าขึ้นมองเหนือกำแพงเมือง ดวงตาหนึ่งคู่มืดมิดราวกับกลางคืน เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่เย็นชาน่าตกใจ

“ฉู่หานปี้ เจ้าสมควรตาย!”

ฉู่หานปี้สบตากับดวงตาคู่นั้น ร่างกายสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ จากนั้นก็รีบทำให้จิตใจให้สงบอย่างรวดเร็ว

“มารสาว ก็เป็นเพราะเจ้า ถึงมีภัยพิบัติของผึ้งมีพิษในวันนี้ รีบยอมแพ้ซะโดยดี ให้ข้าพาเจ้ากลับไป ชำระพลังมารบนร่างเจ้า นำสันติสุขมาสู่โลก!”

“ข้ามาจากตระกูลฉู่ มีรากเหง้าเดียวกันกับเจ้า ถ้าข้าเป็นมารสาว แล้วเจ้าเป็นอะไร?”

“หึ มารดาผู้ให้กำเนิดของเจ้าซูชิงหย่าเป็นเพียงมนุษย์ ยศถาต่ำต้อย ตระกูลซูฆาตกรรมทำบาป นำไปสู่มารร้ายเกินขึ้นในใจ ตอนนี้ก็เป็นร่างของเจ้าปีศาจ เจ้ามาจากตระกูลซู ไม่คู่ควรที่จะเป็นคนของตระกูลฉู่ของข้า!”

“ตลก! ตระกูลซูมีความดีความชอบในการรบมากมาย ใครไม่รู้?เจ้ากล้าดียังไงมาบอกว่าตระกูลซูมีปีศาจ?”

ฉู่หานปี้บินลงมาจากกำแพงเมือง ตัวต่อร่างแดงก็ถอยกลับอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าเข้าใกล้เขาเลย เขามองไปที่รถม้าที่ซูจิ่นจืออยู่ ตะโกนว่า:

“ไม่เชื่อหรือ ถ้าอย่างนั้นข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็น พิสูจน์ให้โลกเห็น! เจ้าปีศาจซูจิ่นจือ รีบออกมารับความตาย!”

หึ ฉู่เชียนหลีใส่ใจคนของตระกูลซูไม่ใช่หรือ? เพราะสิ่งนี้ไม่ลังเลเลยที่จะตัดขาดกับตระกูลฉู่ล่วงเกินท่านแม่และน้องสาวของเขา

วันนี้เขาจะทำลายชื่อเสียงในใจของคนทั่วใต้หล้าของตระกูลซูให้สิ้นซาก เหยียบย่ำความเย่อหยิ่งและเสาหลักของตระกูลซูและทำลายชื่อเสียงของฉู่เชียนหลีให้ป่นปี้!

เสียงลดลง ในรถม้า ซูจิ่นจือก็กลิ้งตกออกจากรถม้าจริงๆ

ใบหน้าของเขาซีดขาว ดูเหมือนว่าจะเจ็บปวดอย่างมาก หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น เส้นเลือดที่คอก็พลุ่งพล่าน แต่ละเส้นชัดเจน ในไม่ช้าใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดงจาง ๆ รูปลักษณ์เปลี่ยนเป็นน่ากลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ กลิ่นอายรอบๆตัวบ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆ แล้วจู่ๆ ก็เงยหน้าขึ้น ส่งเสียงคำรามต่ำน่ากลัวออกมา

ฉู่หานปี้ใช้ยาเพื่อกระตุ้นพิษกู่ดูดจิตดวงตาของเขาฉายแววได้ใจ

เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา พิษกู่ตัวเล็กๆก็สามารถควบคุมไว้ได้แล้ว

หึ ร่วมรบตั้งแต่รุ่นเยาว์ ได้รับชัยชนะมากมายแล้วยังไง ก็ไม่ใช้ถูกเขาเล่นอยู่ในกำมือหรือ?

มนุษย์ก็คือชีวิตต่ำต้อย!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี