หากนางจะจับตระกูลชีจับชีอวิ๋นถิงแล้วผิดตรงไหน?
คิดเพื่อตนเองมันผิดตรงไหน?!
ทุกคนถือสิทธิ์อะไรมาชี้หน้าประณามนาง?!
นางหันศีรษะขวับ กัดฟันกรอดมองเซี่ยงเจี้ย “พี่ชายใหญ่เซี่ยง พวกข้าเองก็เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เยาว์วัย ท่านเองก็รู้ชัดว่าข้ากับท่านพี่เติบโตมาด้วยกัน พวกข้าสามารถกระทำสิ่งไม่เหมาะสมอันใดได้หรือ?”
เซี่ยงหรงอยากจะเดินขึ้นไปด้านหน้า แต่กลับถูกเซี่ยงเจี้ยดึงรั้งไว้
เซี่ยงเจี้ยส่ายศีรษะให้นางเบา ๆ
ชีอวิ๋นถิงพลันปวดหัวใจจนทนไม่ไหว “อาจิ่น เจ้าอย่าเถียงกับพวกเขาเลย ข้าเข้าใจทุกอย่าง! ข้าไม่มีวันยอมปล่อยให้เจ้าต้องรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเด็ดขาด! จะคู่หมั้นหรืออะไรก็ตาม ในเมื่อยังไม่ได้สมรสกัน ก็ไม่มีความหมายอะไรทั้งสิ้น!”
เซี่ยงหรงแค่นเสียงหัวเราะด้วยความโกรธ
สรุปแล้วสองคนนี้กำลังแสดงให้พวกเขาดูว่าความสัมพันธ์อันลึกซึ้งมันเป็นเช่นไรอยู่สินะ?
นางถามติดตลก “คู่หมั้นที่ยังไม่ผ่านพิธีสมรส มันไม่มีความหมายอะไรอย่างนั้นหรือ?”
สองตระกูลต่างกำหนดวันพิธีสมรสไว้นานมากแล้ว แต่ในสายตาของชีอวิ๋นถิง กลับไม่มีความหมายอะไรเลย
น่าขันสิ้นดี
ชีอวิ๋นถิงบัดนี้ไม่สนใครหน้าไหนทั้งสิ้นแล้ว เขาหรือจะยังสนว่าเซี่ยงหรงพูดอะไร?
ในใจของเขาถึงขั้นผุดความคิดบางอย่างขึ้นมา
ไม่ใช่น้องสาวแท้ ๆ ก็ดี
ไม่ใช่น้องสาว เช่นนั้น เช่นนั้นอาจิ่นก็แต่งกับเขาได้แล้วสิ!
ในเมื่อพวกเขาต่างไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกัน ใครจะว่าอะไรได้?
เซี่ยงเจี้ยหัวเราะดูแคลนออกมา
สองคนนี้ คนหนึ่งก็เลวอีกคนก็โง่ อยู่รวมกันแล้วก็ทั้งโง่ทั้งเลว
เขามองชีจิ่นพลางถามอย่างไม่ไยดี “เจ้าพูดเองว่าพวกเราโตมาด้วยกันตั้งแต่เยาว์วัย เช่นนั้นข้าขอถามเจ้า เจ้าไม่รู้หรือว่าเขากับหรงหรงหมั้นหมายกันมาก่อนตั้งนานแล้ว?”
เรื่องในเรือน คนในเรือนยังปกปิดไว้
แต่ใครไม่รู้บ้างเล่า ว่าชีจิ่นสั่งให้แม่นมคนสนิทของตนเองเล่นงานคุณหนูใหญ่จนเกือบตาย เพื่อให้คุณหนูใหญ่มิอาจหวนคืนสู่ครอบครัวได้อีก
หลังจากกลับคืนสู่ครอบครัวแล้ว ยังยุยงให้คุณชายใหญ่ไปทำร้ายคุณหนูใหญ่อีก
ยามนี้ในเรือนเพียงแต่ให้นางมาพำนักอย่างสงบที่ชนบทเท่านั้น มิได้บอกว่าไม่ให้นางกลับไป แต่นางกลับทำให้ปัญหายิ่งลุกลามใหญ่โตขึ้นมา!
ยิ่งนางอาละวาดแบบนี้ มีแต่จะยิ่งทำลายชีอวิ๋นถิง!
ชีอวิ๋นถิงดีกับนางมากเพียงนั้น นางยังใจดำทำร้ายเขาได้ลงคอ!
ชีจิ่นหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา “ดี! ดี! ดี! ข้าไม่สมควรมีชีวิตอยู่มาตั้งแต่ต้นแล้ว เป็นข้าที่ขวางอนาคตของทุกคน ทั้งหมดมันเป็นความผิดของข้าผู้เดียว ข้ามันผิดไปหมด…”
สิ้นเสียงนางแล้ว ฉับพลันทันใดนั้นก็โขกศีรษะเข้ากับเสาต้นหนึ่งที่อยู่ด้านข้างอย่างรุนแรง
เคราะห์ดีที่ชีอวิ๋นถิงสังเกตอยู่ตลอด พุ่งเข้าไปขวางหน้านางไว้โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแล้ว สองคนพลันกลิ้งตกบันไดลงไปพร้อมกัน
ต่อให้ล้มกระแทกพื้น ชีอวิ๋นถิงก็ยังกอดชีจิ่นแน่น กลัวว่านางจะได้รับบาดเจ็บกระทบกระแทกโดนตรงไหนเข้า

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงในเงามาร