เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1042

ตู๋กูโม่เป่าเริ่มสัมผัสได้ถึงลมปราณอันน่าสะพรึงกลัวที่แผ่ออกมาจางๆ

และเขาฉลาดพอที่จะไม่พูดถึงประเด็นนี้อีก

เวลานังหนูนี่คลั่งแล้วน่ากลัวมาก

หรือไม่ก็ให้หรงซิวมารับผิดไปคนเดียวเถอะ!

ในเมื่อเขาทำผิด ก็ต้องแก้ไขเอง!

ในเมื่อเขาโกหก ก็ต้องรับผิดชอบ!

ฉู๋หลิวเยว่ตรวจนับสมุนไพรและจัดเรียงสิ่งต่างๆ ให้เป็นระเบียบ พลางเหลือบมองตู๋กูโม่เป่าแวบหนึ่ง แล้วถามด้วยรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม

“เจ้าว่าเช่นนั้นหรือไม่ พี่เป่า?”

ตู๋กูโม่เป่าพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ

“อือ”

พรึบ!

พลันมีเปลวไฟสีแดงฉานจำนวนมากลุกซู่ขึ้นในหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์!

ตู๋กูโม่เป่าตากระตุกยิบ

“แต่จะดีร้ายอย่างใด ก็ยังใช้ชื่อเดิมอยู่ดี”

ฉู่หลิวเยว่ใช้มือข้างหนึ่งควบคุมเปลวไฟในหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ และใช้มืออีกข้างโยนผลว่านเซียงเซียนสีแดงชาดขนาดเท่ากำปั้นลงไปหม้อ

เปลวไฟสีแดงลุกโชนขึ้นมาทันทีและกลืนกินมันจนหมดสิ้น!

ในไม่ช้า ผลว่านเซียงเซียนก็ถูกสกัดเป็นผงสีแดงอ่อนจำนวนมาก

กลิ่นหอมหวานและขมจางๆ อบอวลอยู่ในอากาศ

“มิเช่นนั้น ท่ามกลางโลกอันกว้างใหญ่เช่นนี้ ต่อให้อยากหาอย่างใดก็หาไม่เจอแน่ๆ”

ฉู่หลิวเยว่ยกยิ้มมุมปากเล็กๆ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเนือยๆ เสมือนหยอกล้อ

เปลวไฟในหม้อโบกสะบัดพลิ้วไหวประหนึ่งร่ายร่ำ และสะท้อนเข้านัยน์ตาของนาง ทำให้คนที่มองอยู่เดาความคิดของนางไม่ได้

จู่ๆ ตู๋กูโม่เป่าก็เริ่มเสียใจที่ตามนางเข้ามา

ความจริงรออยู่ข้างนอกก็ดีนะ?

“พี่เป่า เจ้าบอกว่าข้าสูญเสียความทรงจำ แต่แล้วเหตุใดคนทั้งโลกถึงรู้ แต่ข้าไม่รู้ล่ะ?”

ฉู่หลิวเยว่เอ่ยถามอย่างเกียจคร้าน พลางโยนสมุนไพรชิ้นที่สองเข้าไป

มันคือรากซังเอ่อร์ที่หนาเกือบเท่าแขน

เปลวไฟสีแดงในหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์แยกออกเป็นสองส่วนทันที แล้วห่อหุ้มมันไว้แน่น! ก่อนจะบีบอัดด้วยความเร็วและเผาไหม้อย่างบ้าคลั่ง!

เกิดเสียงแตกหักดังขึ้น พลันผิวรากซังเอ่อร์ที่เดิมทีเป็นสีเขียวและอ่อนนุ่มก็แห้งลงอย่างรวดเร็ว

ก่อนจะมีน้ำสีแดงสดไหลออกมาจากตัวรากแห้งเหี่ยวทีละหยด!

ตู๋กูโม่เป่ามองบานประตูที่ปิดอยู่ และค่ายกลโปร่งแสงนี้อย่างเงียบเชียบ

ถ้าเขาไม่ใช้พลังปราณดั้งเดิม ก็จะเปิดค่ายกลนี่ออกไปไม่ได้

“พี่เป่า ไฉนถึงไม่พูดอันใดสักคำ?”

ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วหันไปมองเขา

ตู๋กูโม่เป่าเปลี่ยนท่านั่งแล้วหันหน้าออกไปอีกทาง

“เจ้าจะได้รู้ในสิ่งที่ควรรู้แน่นอน”

พูดเช่นนี้ก็เหมือนไม่พูดเสียดีกว่า

ฉู่หลิวเยว่โค้งริมฝีปากขึ้นนิดๆ แต่หาได้สนใจไม่

นางไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ความอันใดจากตู๋กูโม่เป่าอยู่แล้ว

ถ้าเขาอยากพูดก็คงพูดมันออกมาตั้งนานแล้ว ไยจักต้องรอถึงตอนนี้?

หากแต่สิ่งนี้ทำให้นางมั่นใจมากขึ้นว่า เขารู้จักตัวตนของหรงซิวในฐานะ “โอรสสวรรค์” มาตั้งแต่แรกแล้ว

“นั่นเป็นเรื่องของอนาคตที่เราไม่สามารถให้คำตอบได้ ท่านพ่อโปรดอย่าพูดถึงมันมากนักเลย ยามนี้ข้าเหนื่อยแล้ว ฉะนั้นข้าขอตัวลาไปก่อน”

หลังจากพูดจบ หลินจือเฟยก็จากไปทันทีโดยไม่รอคำตอบของหลินเทียนเฟิงแต่อย่างใด

จนกระทั่งไร้ซึ่งเงาของบุตรชาย ในที่สุด หลินเทียนเฟิงก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ราวอดกลั้นไม่อยู่

มีหลายคนต้องการแย่งชิงตำแหน่งประมุขแห่งตระกูลหลิน แต่เขาไม่สนใจมันเลยสักนิด

เขารู้ว่าสาเหตุส่วนใหญ่นั้นเป็นเพราะ หลินจือเฟยกังวลเกี่ยวกับร่างกายของเขา

ทว่าครั้งนี้…

หลินเทียนเฟิงมองย้อนกลับไป

ตอนนี้ความหวังทั้งหมดขึ้นอยู่กับแม่นางผู้นั้นแล้ว…

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

กว่าฉู่หลิวเยว่จะกลั่นกรองสมุนไพรทั้งหมดจนเสร็จสมบูรณ์ ก็เป็นยามที่ดวงจันทร์ลอยสูงอยู่กลางท้องนภายามราตรีกาลแล้ว

ภายในหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ สมุนไพรทุกชนิดถูกกลั่นและแบ่งออกเป็นสีสันต่างๆ

กลิ่นหอมที่หลากหลายผสมผสานเข้าด้วยกัน จนได้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของโอสถประเภทหนึ่ง

แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่นางใช้หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ แต่ฉู่หลิวเยว่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกปั่นป่วนกระวนกระวายใจอยู่ร่ำไป

เพราะหม้อต้มโอสถที่สามารถกลั่นสมุนไพรให้ออกมาบริสุทธิ์เช่นนี้ได้นั้น ต่อให้พลิกแผ่นดินหาก็ไม่มีหม้อใดวิเศษเท่าหม้อนี้อีกแล้ว…

และสิ่งนี้ทำให้นางมั่นใจในผลลัพธ์ยิ่งขึ้นไปอีก

เมื่อกลั่นสมุนไพรทั้งหมดเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือกลั่นโอสถ!

ฉู่หลิวเยว่มั่นใจในตัวเองมาก ก่อนจะควบคุมเปลวไฟเพื่อหลอมรวมสมุนไพรเหล่านี้เข้าด้วยกัน!

แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงหึ่งๆ ดังออกมาจากก้นหม้อ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์