เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1043

ฉู่หลิวเยว่ตกใจแล้วก้มมองดูทันที!

ที่ก้นหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์นั้น เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองเมล็ดกำลังรวมตัวกัน และหมุนวนไปรอบๆ!

ซึ่งเสียงหึ่งนั่นก็มาจากการที่เมล็ดทั้งสองปล่อยพลังออกมาใส่กัน!

คลื่นพลังที่มองไม่เห็นพลันแผ่กระจายออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว!

ฉู่หลิวเยว่ตกใจแล้วฟาดมือข้างหนึ่งลงบนหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์อย่างดุเดือด!

เพลิงแห่งกรรมอันโปร่งใสลุกโชนขึ้นมา!

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

เปลวไฟอันร้อนแรงลุกพรึบ! แล่นริ้วประหนึ่งวิญญาณหนีตาย! และสกัดกั้นคลื่นพลังนั่นอย่างว่องไว!

หึ่ง…

คลื่นพลังที่เหลือกระทบกับผนังด้านในของหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ พลันส่งเสียงคำรามดังลั่น!

ฉู่หลิวเยว่ปวดชาแทบทั้งแขน!

แต่นางไม่กล้าปล่อยมือ ฝ่ามือบางยึดจับหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ไว้แน่น แถมยังอัดฉีดพลังปราณลงไปเรื่อยๆ! เพื่อควบคุมเพลิงแห่งกรรมอันโปร่งใสให้เป็นไปตามประสงค์ของนาง!

หลังจากนั้นไม่นาน คลื่นพลังดังกล่าวก็สงบลงอย่างสมบูรณ์

เมื่อเห็นว่าเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองกลับคืนสู่ความสงบ และกลับไปอยู่ในเปลวไฟที่ก้นหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์อย่างเงียบๆ ฉู่หลิวเยว่ก็ถอนหายใจยาว

“เกือบไปแล้ว…”

หากนางตอบสนองช้ากว้านี้ หรือไม่มีพละกำลังมากพอ เมื่อครู่เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองคงจะหลุดออกไปจากหม้อน้ำได้สำเร็จแน่ๆ!

ตอนนี้ฉู่หลิวเยว่นึกขอบคุณตัวเองจริงๆ ที่นางทะลวงขึ้นสู่จอมยุทธระดับเจ็ดแล้ว และได้กลืนกินพลังอันไร้ขีดจำกัดที่องค์ไท่จู่แห่งเป่ยหมิงทิ้งไว้ก่อนหน้านี้

มิฉะนั้น…

นางคงรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ไม่ไหวแน่นอน!

“เจ้าสิ่งนี้ช่างเจ้าเล่ห์นัก!”

ฉู่หลิวเยว่ดึงกลับมาอีกครั้ง แล้วจ้องมองไปยังเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองที่ดูแน่นิ่งราวไร้เดียงสา พลันขมวดคิ้วมุ่น

เมื่อครู่นางสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเจ้าสิ่งนี้คิดจะฉวยโอกาสหลบหนี!

“เจ้ากำลังปรุงโอสถ พลังปราณและสมาธิส่วนใหญ่ของเจ้าจึงจดจ่ออยู่ที่สิ่งอื่น สมาธิในการควบคุมเพลิงแห่งกรรมของเจ้าจึงลดลงตามธรรมชาติ และเป็นธรรมดาที่ตอนนั้นเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์จะฉวยโอกาสหลบหนี”

เมื่อเทียบกับฉู่หลิวเยว่ที่ทั้งกังวลและหวาดกลัวแล้ว ตู๋กูโม่เป่าที่นั่งอยู่ข้างๆ นางนั้นสงบนิ่งกว่ามาก

“รอให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้หน่อย เจ้าจะคุมมันได้อย่างสมบูรณ์ และจะไม่เจอปัญหาเช่นนี้อีก”

ฉู่หลิวเยว่คิ้วกระตุก

“แล้วมัน…ต้องแข็งแกร่งระดับไหนกัน?”

ตู๋กูโม่เป่าชำเลืองมองนางนิดๆ

“ปกติจะอยู่ในระดับที่สามารถหลอมร่างศักดิ์สิทธิ์ได้”

ฉู่หลิวเยว่ “… คิดเสียว่าข้าไม่ได้ถามก็แล้วกัน”

ตู๋กูโม่เป่ากลับหรี่ตาลงทันควัน

นังหนูนี่ คิดว่าเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์เป็นวัตถุธรรมดาหรือไร?

“ถึงหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์จะช่วยกดพลังของมันไว้ให้เจ้าได้ แต่ถ้าเจ้าอยากปราบมันอย่างสมบูรณ์ สุดท้ายเจ้าก็ต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของตัวเอง”

ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจพรืด

“เห้อ ข้ารู้หน่า ก็แค่รู้สึกว่ามันดูยุ่งยากจัง”

ตู๋กูโม่เป่าตากระตุกอีกครา

บนโลกนี้มียอดฝีมือมากมายที่ต้องการครอบครองเจ้าสิ่งนี้แต่สวรรค์มิเป็นใจ ทว่านางผู้เดียวกลับครอบครองไว้ตั้งสองเมล็ด แล้วยังจะอิดออดกับอุปสรรคเล็กๆ เช่นนี้อีก…

เจ้านี่มัน…มีของดีอยู่ข้างกายแต่กลับไม่เห็นค่า!

“ถ้าอย่างนั้น หลังจากนี้ทุกครั้งที่ข้าใช้หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ปรุงโอสถ เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ก็จะแผลงฤทธิ์อีกสินะ?”

พอคิดถึงตรงนี้แล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็ถึงกับหันไปมองกลุ่มก้อนสมุนไพรที่เพิ่งกลั่นเสร็จด้วยความปวดหัว

การกลั่นโอสถนั้นจำต้องใช้สมาธิอย่างมาก โชคดีที่ครั้งนี้มันออกอาการตั้งแต่เนิ่นๆ ดังนั้นนางจึงสามารถแบ่งพลังปราณแล้วสำรองพลังไว้จัดการกับเหตุการณ์ครั้งต่อไปได้

แต่ถ้ามันแผลงฤทธิ์ในช่วงที่กำลังกลายเป็นเม็ดยา หรือช่วงสุดท้ายล่ะก็ เช่นนั้นนางคง…

ไม่สามารถรับประกันผลที่จะตามมาได้เลย

“มันทำเช่นนี้ไม่ได้ทุกครั้งหรอก”

ตู๋กูโม่เป่าเอ่ยแทรก

“ยิ่งไปกว่านั้น ตราบใดที่มีหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์อยู่ สุดท้ายมันก็ทำอันใดไม่ได้อยู่ดี”โนเวลพีดีเอฟ

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉู๋หลิวเยว่ก็หันไปมองเขาอย่างแปลกใจ

นี่ตู๋กูโม่เป่าประเมินพลังของหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ไว้สูงขนาดนั้นเชียวหรือ?

นางยังจำได้ดีว่าตอนนั้นองค์ไท่จู่เคยกล่าวไว้ว่า มีเพียงมหาเซียนเทพผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่จะถือครองเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ และพลังของมันนั้นไม่ธรรมดาเลย

ถ้าหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์มีพลังมากมันจริงๆ เช่นนั้น…

“กลั่นโอสถต่อเถอะ”

ตู๋กูโม่เป่ามองออกไปข้างนอก

มันทั้งมืดและเงียบสงัด

“เสียงอึกทึกเมื่อครู่มิได้เล็ดลอดออกไป ไม่ต้องห่วงหรอก”

“เจ้าน่ะ พูดให้มันน้อยๆ หน่อย”

หลู่อวี้เออร์เอ็ดเตือน

“ไม่ก็ลองคิดดูว่า ถ้าพบคุณท่านแล้ว เจ้าจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้าอย่างใด!!”

หลู่อี้ถึงกับสำลัก และยอมเงียบปากแต่โดยดี

ทว่าในขณะเดียวกัน ก็มีคลื่นความผันผวนลอยออกมาจากกลางเรือน!

หึ่ง!

มีเสียงกระทบอันคมชัดและไพเราะดังขึ้น!

และไม่นานก็มีกลิ่นหอมของสมุนไพรแพร่กระจายออกมา!

หลู่อวี้เออร์สูดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมความรู้สึกสดชื่นและสบายตัว

ดวงตาของนางพลันเบิกกว้างด้วยความตกใจ

“นะ นี่มันกลิ่นของเม็ดยาระดับเจ็ดจริงหรือ!?”

คลื่นความผันผวนเช่นนี้ รสกลิ่นหอมเช่นนี้…

มันไม่ใช่สิ่งที่เม็ดยาระดับเจ็ดจะมีอย่างแน่นอน!

หลินเทียนเฟิงที่อยู่ในลานบ้านเองก็งุนงงเหมือนกัน

แอด…

ประตูบานใหญ่เปิดออก

พร้อมกับร่างสูงเพรียวที่เดินออกมาจากตรงนั้น!

หลินเทียนเฟิงรีบก้าวไปข้างหน้าทันที

ใบหน้าของฉู่หลิวเยว่ซีดเซียว ใต้ตาของนางมีรอยคล้ำจางๆ ทว่ามุมปากของนางกลับยกยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

“ท่านประมุขหลิน ภารกิจสำเร็จลุล่วง…”

นางพูดพลางยื่นกระปุกที่ทำจากหยกให้เขา

ข้างในนั้นมีเม็ดยาสีแดงวางอยู่นิ่งๆ!

พร้อมกับอักขระแปดเส้นที่ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน!

หลินเทียนเฟิงอ้าปากค้าง

“โอสถระดับแปด!?”

—————————-

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์