ตอน บทที่ 1112 หยุดยิ้ม จาก ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1112 หยุดยิ้ม คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ที่เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ครานี้ไข่มุกธาราไม่ได้มีการเคลื่อนไหวผิดแปลกไปแต่อย่างใด
ฉู่หลิวเยว่จึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
กลับเป็นผู้อาวุโสเหวินซีที่มองมายังนางด้วยความประหลาดใจ
“เจ้า…ดูเหมือนว่าสมรรถภาพในสายเลือดของเจ้าจะโดดเด่นอยู่ไม่น้อย…”
โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งสมรรถภาพในสายเลือดแข็งแกร่งมากเพียงใด ศักยภาพก็จะยิ่งล้นเหลือมากเท่านั้น
ฉะนั้นหลังจากที่ค่ายกลสัมผัสทั้งสองสิ่งนี้ได้ มันก็จะเปิดทางเข้าขนาดใหญ่เล็กแตกต่างไป
ท่ามกลางคนทั้งสามที่เข้าไปเมื่อครู่ ประตูของจัวเซิงเล็กที่สุด และประตูของหลัวซือซือใหญ่ที่สุด
ทว่าแต่เมื่อเทียบกับเด็กหนุ่มตรงหน้าเขาตอนนี้แล้ว กลับยังห่างชั้นอยู่มาก
เปลือกตาของฉู่หลิวเยว่กระตุก ไม่คิดว่าบนค่ายกลจะมีทางเข้าเช่นนี้
แต่นางก็ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกไป และทำเพียงยิ้มแล้วเอ่ยว่า
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสสำหรับคำเยินยอขอรับ”
“มันมิใช่คำเยินยอ”
ผู้อาวุโสเหวินซีส่ายหัว
“สมรรถภาพระดับนี้ แทบจะ…”
แต่จู่ๆ เขาก็นึกถึงอันใดบางอย่าง พลันชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าไปมากอปรกับยิ้มบาง ดวงตาเต็มไปด้วยทั้งความอิจฉาและความเสียใจ
“ช่างน่าเสียดาย! เจ้าเป็นผู้ฝึกตนแขนงเซียนหมอ! หากเป็นจอมยุทธ์…ตาแก่ผู้นี้คงทำทุกวิถีทางเพื่อเอาเจ้ามาเป็นศิษย์ให้จงได้!”
ดวงตาของฉู่หลิวเยว่สั่นไหวเล็กน้อย แต่นางก็ไม่ได้เอ่ยอันใด
“ไป! เราก็เข้าไปกันเถิด! พวกด้านในรอแย่แล้ว!”
ผู้อาวุโสเหวินซีหัวเราะร่าก่อนจะเดินตามฉู่หลิวเยว่เข้าไปในค่ายกล!
…
แสงสีขาวส่องประกายวูบวาบในเวลาอันสั้น ฉู่หลิวเยว่ยืนนิ่งและมองไปรอบๆ
แม้นางจะเตรียมใจไว้แต่เนิ่นๆ แล้ว แต่เมื่อเห็นทุกสิ่งทุกอย่างเบื้องหน้าชัดๆ ฉู่หลิวเยว่ก็ยังคงตกตะลึงเมื่อมาถึงสถานที่จริง
ผืนฟ้าสีครามโล่งโปร่งไร้เมฆ
เนินเขาสีเขียวทอดตัวยาวสลับซับซ้อนเป็นระลอกคลื่น ผืนป่าสีเขียวชุกชุม กิ่งก้านใบสีสันเขียวชอุ่มขยับพลิ้วไหวขึ้นลง
หอระฆังเหล็กสีดำสูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง ดูโดดเด่นสะดุดตาเป็นอย่างยิ่ง
ครั้นทอดสายตามองไป ภาพที่เห็นนั้นสวยงามราวกับทิวทัศน์ของท้องฟ้าและผืนดินเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกัน
ใต้หอระฆังเหล็กสีดำมีพื้นที่จัตุรัสสีขาวขนาดใหญ่
ดำขาวสองสีเติมเต็มซึ่งกันและกัน
ภายใต้แสงอาทิตย์อันส่องสว่าง ปรากฏรัศมีอันบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์สะท้อนออกมา
นอกจากมีหอระฆังและจัตุรัสเป็นศูนย์กลางแล้ว ก็ยังสามารถมองเห็นอาคารที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรงดงามหลายหลังบนยอดเขาที่ล้อมรอบอยู่ได้ลางๆ
ซึ่งอาคารส่วนใหญ่นั้นมิได้เชื่อมติดกัน
สถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา จนแทบมองไม่เห็นขอบเขตแดน!
พลังแห่งสวรรค์และโลกอันเข้มข้นและบริสุทธิ์ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและจิตใจปลอดโปร่ง
และในขณะที่ฉู่หลิวเยว่สูดหายใจเข้าเต็มปอด ก็อดไม่ได้ที่จะแอบตกใจ
แม้ว่าความเข้มของพลังปราณดั้งเดิมที่นี่จะด้อยกว่าที่พระราชวังเมฆาสวรรค์เล็กน้อย แต่เรื่องความบริสุทธิ์นั้นชนะขาดลอย!
หากได้ฝึกฝนที่นี่ ความเร็วของนางจะต้องเพิ่มขึ้นพรวดพราดเช่นกันแน่นอน
“นี่คือสำนักหลิงเซียว…”
หลัวซือซือพึมพำเสียงต่ำ ภายในดวงตาอันสุกใสงดงามเต็มไปด้วยความปรารถนาแรงกล้าและความตกใจ
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น!
สมกับเป็นสำนักหลิงเซียวที่เขาร่ำลือกันจริงๆ!
“โอ้! เหวินซี! เหตุใดครานี้ถึงพาเด็กๆ กลับมาเยอะนักเล่า!?”
จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังลอยมาจากที่ไกลๆ
คนทั้งกลุ่มเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกัน ก่อนจะเห็นชายชราคนหนึ่งในชุดคลุมสีเทาลอยตรงมาทางพวกเขาอย่างรวดเร็ว และยังไม่ทันจะได้เห็นว่าเขาเคลื่อนไหวอย่างใด อีกฝ่ายก็มาถึงตรงหน้าแล้ว!
เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้เขาอยู่ห่างออกไปตั้งหลายยอด ทว่าเพียงพริบตาเดียวก็มาถึงที่นี่แล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...