ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1119

สรุปบท บทที่ 1119 ผู้ใดเป็นตัวต้นคิด: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

บทที่ 1119 ผู้ใดเป็นตัวต้นคิด – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ตอนนี้ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1119 ผู้ใดเป็นตัวต้นคิด จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ยามพวกฉู่หลิวเยว่มาถึงที่นี่ ก็มิได้สร้างความแตกตื่นใหญ่โตอันใดให้แก่สำนักหลิงเซียว

ที่นี่มักจะมีศิษย์เพิ่งเข้ามาใหม่เพิ่มเป็นประจำ ทุกคนในสำนักต่างก็เคยชินกันทั้งนั้น

บัดนี้เหลือเวลาอีกสามวันการทดสอบช่วงต้นเดือนก็จะมาถึง เรื่องของตัวเองยังจัดการแทบไม่รอด ไหนเลยจะไปสนใจเรื่องของผู้อื่นได้?

บรรดาอัจฉริยะผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์จำนวนนับไม่ถ้วนที่มาจากทั่วทุกแห่งในใต้หล้า เมื่อมาอยู่ที่นี่แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการมีพละกำลังที่แข็งแกร่ง!

ณ เมืองฝางโจว

หลังจากผู้อาวุโสเหวินซีพาหมู่คนเหล่านั้นจากไป ก็เหลือเพียงผู้อาวุโสฮวาเฟิงที่รับหน้าที่เฝ้ายามอยู่เพียงผู้เดียว

ไม่นานเวลาก็ผ่านไปช่วงดึกแล้ว ผู้อาวุโสฮวาเฟิงก็ยังคงเก็บข้าวของของตนอยู่สักพัก ก่อนจะกลับเข้าไปในจวน

เขานั่งลงบนม้านั่งหินที่ตั้งอยู่ในลานจวน รอบข้างสี่ทิศเงียบสงบยิ่ง

ทว่าในใจของผู้อาวุโสฮวาเฟิงนั้นกลับไม่สงบลงเลยแม้แต่น้อย

“จนป่านนี้แล้ว…เหตุใดจึงยังมิยอมออกมากันเล่า…”

ผู้อาวุโสฮวาเฟิงพึมพำเสียงต่ำยามจ้องมองไปยังดวงดาราที่ส่องสว่างบนผืนฟ้า

ไม่ถูกต้อง

จะอย่างใดก็ไม่ถูกต้อง

เขาสัมผัสได้ถึงคนผู้นั้นอย่างชัดเจน พลังปราณอันชวนให้คุ้นเคยสายนั้น ให้ตายอย่างใดเขาย่อมจำมิผิดอย่างแน่นอน!

คราแรกที่คนผู้นั้นยังมิได้เผยตัวออกมา ผู้อาวุโสฮวาเฟิงยังคิดอยู่เลยว่าอีกฝ่ายจงใจหยอกล้อเขาเล่น

ทว่ารอแล้วรอเล่า คอยเฝ้าจับตาดูมาแล้วทั้งวัน กระทั่งครึ่งเงาร่างก็ยังไม่พบเจอ

ผู้อาวุโสฮวาเฟิงลูบเคราของตนไปมา รู้สึกปวดศีรษะอย่างยิ่ง

นี่เหมือนกับความรู้สึกที่ว่า เจ้ารู้ทั้งรู้ว่าข้างกายเจ้าฝังกับดักระเบิดไว้อันหนึ่ง ทว่ากลับไม่รู้ว่ามันฝังไว้ตรงไหนแน่ กระทั่งระเบิดเมื่อไรก็ไม่ทราบได้!

การที่ยังค้างคาใจอยู่เช่นนี้เป็นอันใดที่ชวนให้รู้สึกไม่ดีโดยแท้

ผู้อาวุโสฮวาเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะคว้าเอาไหสุราพกข้างเอวขึ้นมาดื่มอึกใหญ่

รสอันบาดลิ้นแทบแผดเผาลำคอ!

เขาเช็ดริมฝีปากของตนด้วยแรงไม่เบานักพลางครางเสียงต่ำในลำคอ

“ไม่มาก็ไม่ต้องมา! ใครมันอยากรอเจ้ากัน!”

เอ่ยจบก็หยัดกายลุกขึ้นกลับเข้าไปในห้อง เขาเลิกผ้าห่มขึ้นแล้วเอนกายลงบนเตียง ตั้งใจจะพักผ่อนเสียที

แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องผ่านทางหน้าต่าง

แกร๊ก…

ผู้อาวุโสฮวาเฟิงเด้งตัวขึ้นมาอย่างฉุนเฉียว

“อ๊า! โมโหจะตายอยู่แล้ว! รอข้าหาตัวเจ้าเจอเมื่อไร ดูสิว่าจะจัดการเด็กเหลือขออย่างเจ้าอย่างใด!”

ในยามกลางดึกอันเงียบสงบ

เมืองฝางโจวยามค่ำคืนยามที่ไร้ซึ่งเสียงเอะอะมะเทิ่งอย่างช่วงกลางวัน ก็ตกอยู่ภายใต้ความเงียบสงัด

เงาร่างร่างหนึ่งที่ยอมตัวลงเล็กน้อยกว่าเดิมอยู่บ้าง กำลังเดินกลับไปกลับมาอยู่ระหว่างถนนกว้างกับตรอกแคบ

ฝีเท้าของเขาแม้จะดูเชื่องช้าและไร้เสียง ทว่าแท้จริงแล้วกลับรวดเร็วนัก

แม้ว่าจะมีผู้ที่เดินทางยามค่ำคืนเดินผ่านมาบ้างประปรายก็มิอาจจับสังเกตได้

“แปลกจัง…ตรงนี้ไม่มี…ตรงนี้ก็ไม่มี…”

ใช้เวลาหาอยู่นานทีเดียว ในที่สุดผู้อาวุโสฮวาเฟิงก็หยุดลงตรงมุมถนนมุมหนึ่งที่ห่างไกลออกมา ศีรษะพลันปวดไม่ว่างเว้น

หรือว่าเขาจะคิดไปเองจริงๆ?

ประตูเมืองนั้นไร้ซึ่งคนเฝ้ายามช่วงกลางคืนเหมือนอย่างเคย

มีเพียงช่วงกลางคืนเท่านั้นที่ สถานที่แห่งนี้ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าออกไปมาเด็ดขาด

ดังนั้นในตอนนี้ บริเวณประตูเมืองจึงเงียบสงัดอย่างยิ่ง อีกทั้งยังว่างเปล่าไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตอื่นใด

ผู้อาวุโสฮวาเฟิงเดินมาถึงบริเวณประตูทางเข้า สะกดกลั้นลมหายใจและระแวดระวังถึงขีดสุด

สีหน้าของเขาค่อยๆ หนักแน่นขึ้นมาทีละน้อย

เช่นนั้นเขาย่อมไม่ได้คิดไปเองเป็นแน่…

ทันใดนั้น สายตาของเขาก็เบนออกมองไปยังบนช่องว่างข้างประตูเมืองที่ถูกผ่าออก

“ไม่เจอกันไม่กี่ปี ความอดทนเจ้าสูงขึ้นไม่น้อย!”

ผู้อาวุโสฮวาเฟิงแค่นเสียงต่ำในลำคอ

“ดูสิว่าครั้งนี้เจ้าจะทนได้สักกี่น้ำ!”

ผู้อาวุโสฮวาเฟิงไม่ได้นอนเลยทั้งคืน

รุ่งเช้าของวันที่สอง เขาก็รับรู้ได้ว่ามีคนมาหา

นั่นก็คือผู้อาวุโสที่รับผิดชอบหน้าที่ผู้เฝ้ายามคนถัดไป นั่นก็คือ ก่วนซง

ยามมองเห็นสีหน้าอ่อนระโหยไร้เรี่ยวแรงจนสังเกตเห็นได้ของผู้อาวุโสฮวาเฟิง ผู้อาวุโสก่วนซงก็ผงะด้วยความตกใจ

“นี่มันเกิดอันใดขึ้น? แค่เฝ้ายามอยู่ที่นี่ครึ่งวัน เหตุใดถึงอยู่ในสภาพนี้ได้เล่า?”

ผู้อาวุโสฮวาเฟิงแทบสำลัก

พูดออกไปไม่ได้เด็ดขาดว่าเป็นเพราะรอเจ้าเด็กเหลือขอนั่น…

“ไม่มีอันใดมากหรอก เจ้ามาแล้วก็ดี”

ผู้อาวุโสก่วนซงกวาดสายตามองไหสุราพกอันว่างเปล่าที่เหน็บไว้ข้างเอวของเขา แล้วเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

“มิเช่นนั้นแล้วเจ้ากลับไปเร็วกว่านี้สักหน่อยเถิด? ข้าเห็นเจ้าเป็น…”

“ไม่จำเป็น!”

ผู้อาวุโสฮวาเฟิงตอบปฏิเสธอย่างไม่อ้อมค้อม

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์