เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1155

ทว่ายังไม่ทันที่เสียงนั่นจะเงียบลง ก็พลันมีร่างเงาของใครบางคนโพล่พรวดออกมาตรงหน้าจากความว่างเปล่า!

ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้น ก่อนจะเห็นผู้มาใหม่ในชุดคลุมตัวยาว ที่อยู่ห่างจากนางไม่ไกลนัก!

และยังไม่ทันที่นางจะเห็นการเคลื่อนไหวของเขา คนผู้นั้นกลับย้ายมาปรากฏตรงหน้านางในพริบตา!

หัวใจของนางกระตุกวูบ

เกรงว่าคนผู้นี้จะแข็งแกร่งกว่าพวกผู้อาวุโสเหวินซีเสียอีก!

“ผ่าลงมาอีก!”

บุรุษผู้นั้นยืนกางแขนอยู่บนอากาศ!

ท้องนภาเต็มไปด้วยกลุ่มเมฆาดำทะมึน!

พลันมีทัณฑ์สวรรค์ปรากฏขึ้นพร้อมกันสามสาย!

เมื่อรวมกับก่อนหน้านี้ก็เป็นเก้าสาย!

ฉู่หลิวเยว่จ้องมองภาพนั้นตาเขม็ง

ช่างหลอมอาวุธ!

นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นช่างหลอมยามอันเชิญทัณฑ์สวรรค์!

ครั้งก่อนที่นางหลอมกระบี่เองนั้น เป็นเพราะความช่วยเหลือจากองค์ไท่จู่ นางถึงทำได้สำเร็จ

ในใจของฉู่หลิวเยว่ปั่นป่วนด้วยคลื่นอารมณ์บางอย่าง

หลอมอาวุธหรือ ก่อนหน้านี้มันเป็นเพียงข่าวลือไร้มูลสารสำหรับนาง

ดูห่างไกล ลึกลับ ราวกับนิยามของผู้เป็นอมตะที่มิอาจจับต้องได้!

แม้ว่าครั้งหนึ่งองค์ไท่จู่จะเคยช่วยนางหลอมกระบี่เทพเมฆาสำริดได้สำเร็จ แต่พูดตามตรงแล้ว นั่นยังไม่ถือว่าเป็นการหลอมอาวุธอย่างแท้จริง!

อย่างใดเสีย แม้ตอนนั้นกระบี่เทพเมฆาสำริดจะมีเค้าโครงและจิตวิญาณสถิตอยู่ภายในแล้ว แต่นางก็ต้องยืมพลังขององค์ไท่จู่เพื่อเรียกทัณฑ์สวรรค์ออกมา แล้วขัดเกลาให้มันกลายเป็นกระบี่ที่ทรงอนุภาคมากยิ่งขึ้น

และตอนนี้นางก็ได้รู้แล้วว่าการหลอมอาวุธนั้นเป็นเช่นไร!

นางจ้องมองคนผู้นั้นที่ลอยตัวอยู่บนอากาศและกำลังสะบัดมือ

ทัณฑ์สวรรค์ฝ่าลงมายังเบื้องล่างในทันที ราวกับตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา!

เปรี้ยง!

ทัณฑ์สวรรค์หลายสายฟาดผ่าลงมาต่อหน้าต่อตานับครั้งไม่ถ้วน!

อนุภาคของแรงกดดันและลมปราณอันน่าอัศจรรย์นี้ ส่งผลให้ฉู่หลิวเยว่อึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก

นางควรถอยห่างเพื่อไม่ให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บไปด้วย

แต่เหมือนว่าสองเท้าของนางจะถูกยึดตรึงไว้กับพื้นและขยับไปไหนไม่ได้

พลันมีแสงสีเงินส่องประกายออกมาจากตาน้ำพุ!

ถึงมันจะอยู่ห่างออกไปช่วงหนึ่ง แต่ฉู่หลิวเยว่ก็ยังสามารถมองเห็นภาพนั้นได้อย่างชัดเจน

คลื่นพลังปราณจำนวนนับไม่ถ้วนหมุนวนเกี่ยวพันกันให้ขวัก!

ทันใดนั้น ชายที่ลอยตัวอยู่บนท้องฟ้าก็ยกมือขึ้น!

พรึบ!

ลำแสงสีฟ้าสายหนึ่งพุ่งออกมาจากตาน้ำพุ!

ก่อนจะตกไปอยู่ในมือของชายผู้นั้น!

ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมองทันที ก่อนจะเห็นว่ามันคือกริชเล่มหนึ่ง!

กริชเล่มนั้นเป็นสีฟ้ากระจ่าง สุกใสราวกับมรกต พร้อมแสงเรืองรองที่ส่องประกายออกมาจางๆ

ใบมีดบางเฉียบ ทว่าคมกริบ! อนุภาคของมันรุนแรงอย่างน่าอัศจรรย์!

ฟืบ…

พลันมีรอยแยกสีดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น!

พร้อมเสียงคำรามดังกึกก้องราวเสียงของราชสีห์!

เห็นได้ชัดว่ากริชเล่มนี้มีพลังแกร่งกล้ามากเพียงใด!

ฉู่หลิวเยว่ตกตะลึง

นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นช่างหลอมอาวุธตัวจริง หล่อหลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์กับตา

แม้นางจะไม่อาจมองเห็นกระบวนการทั้งหมดได้ แต่แค่สิ่งที่นางเห็นเมื่อครู่ ก็มากพอที่จะทำให้นางอึ้งจนทำอันใดไม่ถูกแล้ว!

เขาช่วงชิงพลังแห่งทัณฑ์สวรรค์มา แล้วสร้างอาวุธศักดิ์สิทธิ์!

ราวกับโลกทั้งใบกำลังตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาในพริบตา!

ถึงสีหน้าของนางจะดูไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงจากเดิม แต่ในใจของฉู่หลิวเยว่กลับเต็มไปด้วยคลื่นอารมณ์ที่กำลังพุ่งพล่านจนไม่อาจควบคุมได้!

ดวงตากลมเงาวับดุจหยกดำของนางเปล่งประกายเจิดจ้า!

ใช้ทัณฑ์สวรรค์เก้าสาย…เช่นนั้น คนผู้นั้นต้องกำลังหลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงอันไร้ผู้ใดเทียบเคียงเป็นแน่!

และอย่างน้อย เขาก็ต้องเป็นช่างหลอมอาวุธระดับสูง!

“เยี่ยม! เยี่ยมมาก! ไม่เสียแรงที่ข้าลำบากลำบนมาตลอดหนึ่งเดือน…”

“แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเจ้า!”

ก่อนที่ฉู่หลิวเยว่จะได้อธิบาย ผู้อาวุโสเหวินซีก็ยิ้มเยาะพลันแย้งเสียงแข็งตัดหน้านาง

“ก่อนหลอมอาวุธ เจ้าไม่ตรวจดูเลยหรือว่ามีศิษย์หลงเหลืออยู่ที่นี่หรือไม่?”

หากว่าตามที่พวกของหลัวซือซือบอกมา ตอนนั้นพวกเขากำลังจะออกไปจากที่นี่แล้ว

แต่มิทันไรก็ถูกทัณฑ์สวรรค์เล่นงานเสียก่อน

เป็นผลให้ฉู่เยว่ติดอยู่ที่นี่

และสุดท้ายก็เป็นเช่นนี้

“ข้า…”

ผู้อาวุโสโอวหยางทำทีกะพริบตาปริบๆ อย่างไร้เดียงสา

“ข้าจะไปรู้ได้อย่างใด ว่ายังมีคนอยู่ในนี้!”

วันนี้เขารีบอัญเชิญพวกมันเร็วกว่าปกตินิดหน่อย แต่ก็ยังไม่ถือว่าเร็วเกินกำหนดการณ์ปกติ

สถานที่แห่งนี้เงียบสงบมาโดยตลอด ใครจะไปรู้ว่า…

แต่ในขณะเดียวกัน ฉู่หลิวเยว่ก็เริ่มเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด

แท้จริงแล้ว ผู้อาวุโสโอวหยางได้ทำการหลอมกระบี่อยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว

ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้าย และเป็นวันที่เหมาะที่สุดในการอัญเชิญทัณฑ์สวรรค์ เพื่อหลอมอาวุธครั้งสุดท้าย!

ก่อนหน้านี้เขาเรียกทัณฑ์สวรรค์ออกมาได้แค่แปดสายเท่านั้น แต่ในที่สุดวันนี้เขาก็เรียกทัณฑ์สวรรค์ออกได้เก้าสาย เขาตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก จนมิได้ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยมากนัก ดังนั้นเขาจึงเคลื่อนไหวเร็วกว่าปกติขั้นหนึ่ง

ในตาน้ำมีชิ้นส่วนของตัวกริชที่เขาใส่ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการสุดท้ายในวันนี้แล้ว มันจะถูกหลอมให้เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์อย่างสมบูรณ์

แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะบังเอิญพบกับฉู่เยว่ และผองเพื่อนที่ลงเขาไปช้ากว่าคนอื่น

และนั่นทำให้พวกเขาต้องมาถกเถียงกันเช่นนี้

“ไม่สิ!”

ขณะผู้อาวุโสโอวหยางกำลังพูด จู่ๆ เขาก็นึกอันใดขึ้นได้ เขาขมวดคิ้วฉับแล้วหันไปมองฉู่เยว่ด้วยสายตาสงสัยใคร่รู้แบบสุดๆ

“ถึงจะตามมาทัน แต่พลังของทัณฑ์สวรรค์จะขับไล่พวกเจ้าให้ออกไปแน่นอน เหตุใดเจ้าถึง…”

เมื่อคิดแล้วก็ถึงกับผงะ

ถ้าเขาจำไม่ผิด ทัณฑ์สวรรค์สายแรกที่ถูกเรียกออกมา หยุดชะงักหลังจากพบเด็กคนนี้มิใช่หรือ!?

“ไอ้หนู มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์