สรุปตอน บทที่ 1179 สารภาพรัก – จากเรื่อง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
ตอน บทที่ 1179 สารภาพรัก ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดยนักเขียน จ้าน นิชิโนะ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เหลี่ยงเซียวเซียวพูดออกมาตรงๆ อย่างไม่สนใจใยดี ชัดเจนว่านางไม่ต้องการช่วยหลิ่วอินถง
และนี่เป็นเพียงเพราะว่า นางคืออันดับที่สามสิบเก้าบนตารางชิงอวิ๋นแขนงจอมยุทธ์! ซึ่งอยู่สูงกว่าหลิ่วอินถงมาก!
ต้องรู้ว่าการแข่งขันในงานประลองชิงอวิ๋นนั้นดุเดือดมาก และทุกครั้งที่ได้เลื่อนอันดับสูงขึ้น นั่นหมายความว่าความแข็งแกร่งของคนผู้นั้น ย่อมแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมาก
ทำให้ปกติแล้วหลิ่วอินถงจะไม่กล้ายั่วยุเหลี่ยงเซียวเซียว
และอีกหนึ่งเหตุผลก็คือ เหลี่ยงเซียวเซียวมาจากตระกูลชนชั้นหนึ่ง ซึ่งมียศถาบรรดาศักดิ์มากกว่าตระกูลชนชั้นสองของหลิ่วอินถงมาก
แม้ศิษย์ทุกคนในสำนักจะไม่ค่อยพูดถึงเรื่องชนชั้นวรรณะ แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะเพิกเฉยต่อมัน
อย่างใดเสีย พวกเขาก็มิได้ใช้ชีวิตอยู่ในสำนักวิชาตลอดไปเสียหน่อย
ในอนาคต หากพวกเขาออกจากสำนักไปแล้ว และต้องการเอาชีวิตรอดในอาณาจักรเสิ่นซวี่ สิ่งเหล่านี้จักเป็นปัญหาที่พวกเขาต้องเผชิญ
และถ้าเผลอไปทำให้ผู้มีอำนาจบาตรใหญ่บางคนขุ่นเคืองใจเข้า อาจหมดสิ้นอนคตไปเลยก็ได้
ดังนั้น พอหลิ่วอินถงที่แสนจะเย่อหยิ่งมาตลอด ถูกตอกกลับอย่างเย็นชาเช่นนั้น จึงมิได้ระเบิดอารมณ์ออกมาแต่อย่างใด
กระทั่งสีหน้าของนางก็ยังคงแลดูสงบนิ่งและสุภาพ
“แล้ว…ไม่ทราบว่าคนผู้นั้นเป็นใครหรือ? ข้าสามารถแลกแต้มกับเขาได้…”
ราวกับได้ยินเรื่องตลกขำขัน เหลี่ยงเซียวเซียวพลันเบะปากแล้วแสยะยิ้ม
“แลกแต้มหรือ? เจ้าคิดว่าพวกข้าดูเหมือนคนขาดแคลนสิ่งเหล่านั้นหรือ?”
นางกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเสมือนล้อเล่น แต่สำหรับหลิ่วอินถงแล้ว ถือว่าเป็นคำพูดที่รุนแรงยิ่งนัก
พวกของเหลี่ยงเซียวเซียวดูไม่ใช่คนที่ขาดแคลนคะแนนสะสมจริงๆ ในสำนักหลิงเซียวแห่งนี้ คะแนนสั่งสมถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ต้องพูดก็เข้าใจได้
และไม่มีใครยอมทิ้งคะแนนของตนแน่นอน
พูดง่ายๆ ก็คือ พวกเขาไม่จำเป็นต้องแลกแต้มเหล่านั้นกับเรื่องพรรค์นี้
น่าขายหน้าชะมัด
คำพูดเหล่านี้แทงใจดำหลิ่วอินถงเต็มๆ
หลิ่วอินถงเริ่มอึกอักราวกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ใครจะคิดว่านางจักมาเจอคนพวกนี้ตั้งแต่วันแรก?
ปกติพวกเขาไม่ค่อยแวะเวียนมาที่นี่ และไม่รู้ว่าวันนี้เกิดอันใดขึ้น พวกเขาถึงได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่เช่นนี้!
แถมยังยึดครองพื้นที่โดยรอบไว้หมด จนไม่มีช่องวางให้นางได้แทรกตัวเข้าไปด้วยซ้ำ!
นางไม่อยากกวนใจคนพวกนี้ แต่คนก้าวร้าวอย่างฉู่เยว่ที่อยู่ข้างหลังนางนี่สิ…
ในขณะที่หลิ่วอินถงกำลังวางแผนเจรจาอีกครา ดวงตาของเหลี่ยงเซียวเซียวพลันสว่างวาบ ก่อนจะโบกมือไปทางด้านหลังของหลิ่วอินถง
“จื่อหยวน! มาเร็ว! ข้ารอเจ้านานแล้วเนี่ย!”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ กลุ่มคนทั้งหมดก็หันไปมองเป็นตาเดียว
หลิ่วอินถงใจเต้นระรัว พลางหันศีรษะไปมองอย่างรวดเร็ว
และพอเห็นว่าเป็นใคร จู่ๆ นางก็ทำหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันที
เจียงจื่อหยวน!?
นางคือคนที่เหลี่ยงเซียวเซียวบอกว่ายังมาไม่ถึงใช่หรือไม่?
เจียงจื่อหยวนที่ตัวเบาหวิวราวปุยนุ่น ร่อนลงบนพื้นอย่างสง่างาม
ร่างเพรียวบางภายใต้แสงจันทร์นั้นส่องประกายราวนางฟ้านางสววรค์
ทั่วทั้งยอดเขาตกอยู่ในความเงียบ สายตานับไม่ถ้วนของผู้คนฉายแววประหลาดใจ
แต่เหมือนว่าเจียงจื่อหยวนจะไม่สนใจสายตาเหล่านั้น พลางเดินตรงไปทางเจ้าของเสียงเรียกเมื่อครู่ แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางเบา
“ขอโทษที่มาช้านะ ข้าควรจะมาถึงตั้งแต่ครู่ก่อนแล้ว แต่จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องต้องไปจัดการ เลยกลายเป็นมาสายเสียอย่างนั้น”
เหลี่ยงเซียวเซียวยิ้มร้ายอย่างรู้ทัน
“จะทะลวงอีกแล้วหรือ?”
เจียงจื่อหยวนหน้าแดงเรื่อ พลันส่ายหัวพัลวัน
“ไม่เร็วขนาดนั้นหรอก”
“แค่นั้นก็ถือว่าเร็วแล้ว!”
เหลี่ยงเซียวเซียวและคนอื่นๆ หันมองหน้ากัน
“ไหนเจ้าบอกว่า ก่อนหน้านี้เจ้าเพิ่งจะทะลวงผ่านได้ไม่นานเองมิใช่หรือ? ประเดี๋ยวเจ้าจักทะลวงอีกแล้ว! ถ้าเป็นเช่นนี้พวกเราได้ถูกเจ้าแซงหน้าไปไกลแน่ๆ! หลังจากนี้พวกเราจะไม่ไปเที่ยวเล่นกับเจ้าแล้ว!”
“ใช่แล้ว! จื่อหยวน ยามฝึกปราณเจ้าต้องคิดถึงความรู้สึกของคนอื่นด้วย! หัวใจของข้า โดนเจ้าย่ำยีจนแตกสลายเป็นสิบๆ ครั้งแล้ว!”
“ฮ่าฮ่า! จื่อหยวนกำลังไล่ตามศิษย์พี่หรงซิวอยู่ อย่างพวกเจ้าจักสู้เขาได้อย่างใด!”
ประโยคสุดท้ายจากปากของชายหนุ่มที่โพล่งขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ส่งผลให้บรรยากาศครื้นเครงแลดูมีชีวิตชีวา พลันหยุดนิ่งลงในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...