สรุปตอน บทที่ 1207 ข้าอาสา – จากเรื่อง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
ตอน บทที่ 1207 ข้าอาสา ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดยนักเขียน จ้าน นิชิโนะ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ฉากบทเรียนอันเจ็บปวดปรากฏขึ้นต่อหน้า ทำให้หัวใจของผู้อาวุโสฮวาเฟิงสั่นระรัวอย่างมาก
เขาเงยหน้าขึ้นมา แล้วหันมองทางฉู่หลิวเยว่ทันทีโดยไม่รู้ตัว
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ ไม่รู้เรื่องราว ก่อนจะยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า
“ผู้อาวุโสฮวาเฟิง เป็นอันใดไปหรือ?”
ตอนที่นางหัวเราะขึ้นมา แววตาที่เคยกระจ่างใส กลับดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา
ดวงตาพรั่งพราวดุจดารา ทั้งเจ้าเล่ห์ และมีไหวพริบ
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงรู้สึกปวดหัวขึ้นมา
“ไม่ ไม่มีอันใด!”
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“คือว่า…ในเมื่อเจ้าอยากจะมีความเชี่ยวชาญด้านเซียนหมอ เช่นนั้นก็ว่าตามเจ้านั่นแหละ!”
ร่องรอยของความสับสนปรากฏขึ้นในแววตาของฉู่หลิวเยว่
นี่มัน…
เมื่อครู่นี้ผู้อาวุโสฮวาเฟิงยังมีความมุ่งมั่นมานะอยู่เลย เหตุใดตอนนี้ถึงเปลี่ยนท่าทีอย่างกะทันหันเล่า?
เหมือนว่าผู้อาวุโสวั่นเจิงก็ยังไม่ได้พูดอันใดออกไปเลยไม่ใช่หรือ…
แต่นางคิดว่าไม่ควรถามเรื่องนี้ให้มากความ ก่อนจะโค้งคำนับเขาอีกครั้ง
“ขอบคุณผู้อาวุโสฮวาเฟิง”
“เฮ้อ…”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงมองหน้านาง ในใจยังรู้สึกไม่ยินยอมอยู่เล็กน้อย จึงพูดอีกประโยคหนึ่งขึ้นมาอย่างลังเล
“…หากเจ้าต้องการเรียนรู้ค่ายกล ก็มาหาข้าได้เลย!”
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา
นางสามารถมองออกได้ว่า ผู้อาวุโสฮวาเฟิงอยากได้นางเป็นศิษย์มากจริงๆ เพื่อไม่ทำให้พรสวรรค์ของนางสูญเปล่า
สามารถได้รับความรักและความเอ็นดูจากเขานั้น ถือว่าเป็นพรหาได้ยากจริงๆ
“อาวุโสฝากฝังเอาไว้ ศิษย์จะไม่ลืมเด็ดขาด”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงเหลือบสายตามองนางอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเขาคิดอันใดอยู่ จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้งหนึ่ง
ฉู่หลิวเยว่สามารถมองออกได้ว่า เหมือนว่าเขาไม่ได้กำลังมองนางอยู่ แต่กลับเหมือนมองใครสักคนในความทรงจำของเขา
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้อาวุโสค่ายกลคนอื่นๆ ก็รู้สึกสบายใจขึ้นเช่นกัน
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนนวดขมับเบาๆ
ตอนนี้เขานับว่าสามารถมองออกแล้ว เขาไม่สามารถเลิกเป็นห่วงฉู่เยว่ผู้นี้ได้เลย!
ไม่ว่าเขาจะไปที่ใด ต่างสามารถสร้างขึ้นลมคลื่นพายุได้เสมอ ไม่มีช่วงเวลาที่เงียบสงบเลย
“เอาล่ะ ถ้าเช่นนั้นก็ตามนี้ กลับมาเรื่องบทลงโทษดีกว่า”
เขากวาดสายตามองไปรอบๆ
“อาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อ ล้วนเป็นอุบัติเหตุ จะโทษเขาก็ไม่ได้ เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงมันแล้ว แต่เรื่องที่ฉู่เยว่ลอบออกจากค่ายกลของสำนัก ยังถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง ต่อให้เขาออกมาช่วยหรงซิว อีกทั้งปกป้องอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อชิ้นนั้น แต่ทว่าหากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปในสำนัก จะต้องส่งผลกระทบอย่างเลวร้ายแน่นอน! ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีการตักเตือน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ผู้อาวุโสท่านหนึ่งก็ลองถามขึ้นมา
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้…ก็ขังเขาไว้ที่เขาเฝิงหมิน แล้วหันหน้าเข้ากำแพงเพื่อสำนึกผิด เป็นอย่างใด?”
หัวใจของฉู่หลิวเยว่เต้นไม่เป็นจังหวะ
“แบบนี้มันคงไม่ดีละมั้ง? วันที่สองที่เขาเข้าสำนักมา เขาก็ได้ถูกคุมขังแล้ว นี่เพิ่งถูกปล่อยตัวออกมาได้สิบวัน หากขังอีกรอบ…มันก็คงจะไม่เหมาะสม”
ผู้อาวุโสบางคนคัดค้านขึ้นทันที
“ความผิดของฉู่เยว่ในครั้งนี้ จำเป็นจะต้องลงโทษอย่างหนัก แต่หากลงโทษหนักเกินไป เกรงว่าผู้อาวุโสวั่นเจิงจะไม่เต็มใจ ยิ่งไปกว่านั้นเด็กคนนี้ไม่ได้มีเจตนาชั่วร้าย เขาทำผิดกฎด้วยความหุนหันพลันแล่น เมื่อคิดไปแล้ว การลงโทษด้วยวิธีอื่นก็ไม่ค่อยดีนัก”
“ข้าเองก็เห็นด้วย การขังเขาไว้ที่เขาเฝิงหมิน เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในตอนนี้”
“ไม่ว่าเขาจะเคยไปมาแล้ว ถ้าหากให้ไปอีกครั้งก็คงไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยการถูกขังอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบไม่ดี…วันที่สองที่เขาเข้าสำนักเรียนมาก็ถูกขังแล้ว ตอนนี้ก็ยังก่อเรื่องอีก มันจะมีอันใดแย่กว่านี้?”
ในตอนนั้นทุกคนต่างมีความคิดเห็นเป็นของตนเอง
มีบางคนที่เห็นด้วย บางคนที่คัดค้าน ไม่ว่าอย่างใดทุกคนต่างมีเหตุผล
แต่คนที่คัดค้านอย่างรุนแรงที่สุดคือผู้อาวุโสวั่นเจิง
…ล้อเล่นน่า!
เขาเฝิงหมินเป็นสถานที่แบบใดกัน เหตุใดถึงสามารถเข้าไปได้ครั้งแล้วครั้งเล่า?
นอกจากนี้ลูกศิษย์ที่น่ารักของเขากำลังจะทะลวงเข้าสู่เซียนหมอระดับเก้า!
หากไม่ใช่เพราะถูกขัดจังหวะอย่างกะทันหันในวันนี้ ตอนนี้เขาคงจะได้อวดโอสถระดับเก้าไปทุกแห่งหนแล้ว! จะต้องมานั่งเถียงกับคนเหล่านี้อยู่เหตุใด?
หากถูกนำตัวไปขังสักช่วงเวลาหนึ่ง มันคงจะล่าช้าไปไม่น้อยเลยไม่ใช่หรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...