สรุปเนื้อหา บทที่ 1221 คอยดูเถอะ – ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
บท บทที่ 1221 คอยดูเถอะ ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองเขาเงียบๆ จะยิ้มก็ไม่ยิ้ม
“หรงซิว เจ้าคิดแบบนี้จริงๆ หรือ?”
นัยน์ตาของหรงซิววูบไหว พลันจ้องมองเข้าไปในดวงตากลมใสของนาง
ทั้งสองคนสบตากัน ราวกับกาลเวลาที่หมุนเวียนอยู่รอบตัวพวกเขาหยุดนิ่งไปพักหนึ่ง
“เจ้าอยากถามอันใดกันแน่?”
หรงซิวเอ่ยถามเสียงเบา
ฉู่หลิวเยว่จับจ้องไปยังดวงตาคู่คมของชายหนุ่ม เสมือนต้องการมองเข้าไปในดวงตาอันแสนลึกล้ำคู่นั้น และมองให้เห็นถึงความคิดภายในส่วนลึกของจิตใจเขา
นางเอ่ยปากถามเบาๆ ว่า
“เมื่อก่อนข้าเคยไปที่สวนสมุนไพรแห่งนั้น เหตุใดเจ้าถึงไม่เคยบอกข้า”
…
บนยอดเขาแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่แขนงจอมยุทธ์ หลัวซือซือกำลังต่อสู้กับจัวเซิง
ช่วงนี้ผู้อาวุโสเหวินซีได้สอนวิทยายุทธใหม่ๆ ให้ พวกเขาทั้งสองจึงไตร่ตรองและพากันศึกษามันด้วยการประมือกันเช่นนี้
การแลกเปลี่ยนความรู้จากการลองสู้กันตัวต่อตัวเช่นนี้ มักจะช่วยเพิ่มความเข้าใจและเป็นประโยชน์ต่อการฝึกฝนในภายหลังอย่างมาก
คนทั้งสองหมุนตัวกลับไปกลับมา ปล่อยวิถีหมัดใส่กันอย่างดุเดือด!
และมีหลายครั้งที่จัวเซิงพลาดจนเกือบพ่ายแพ้ให้กับหลัวซือซือ
แต่เขายังคงยืนหยัด และใช้จังหวะที่ที่หลัวซือซือกำลังจะหมดแรงในตอนท้าย เปลี่ยนเป็นฝ่ายบุกแล้วเริ่มโต้ตอบกลับพัลวัน ก่อนจะเอาชนะได้อย่างหวุดหวิด!
“ข้าแพ้แล้ว”
หลัวซือซือเหงื่อไหลไคลย้อย ปรางแก้มใสขึ้นสีแดงก่ำ บ่งบอกว่านางทุ่มเทกับการต่อสู้ในครานี้มากเพียงใด
ทว่าสีหน้าของผู้ชนะอย่างจัวเซิงกลับดูไม่ดีใจเท่าไร เขาส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจ
“ถ้าไม่ใช่เพราะข้าแก่กว่าเจ้าหลายปี และทะลวงจอมยุทธ์ระดับเก้าได้ก่อนเจ้า ก็เกรงว่าการซ้อมรบในวันนี้ ข้าคงสู้เจ้าไม่ได้แน่ๆ! ซือซือ เจ้าพัฒนาขึ้นจากเมื่อก่อนมาก และถ้ามั่นเพียรฝึกฝนเช่นนี้ต่อไป อีกไม่นานเจ้าได้ตามข้าทันแน่ และอาจจะนำข้าไปแล้วด้วย”
หลัวซือซือเม้มกลั้นยิ้ม
“พี่เซิงมีพื้นฐานดีกว่าข้า และแข็งแกร่งเหลือคณา ข้าจะไล่ตามท่านทันได้ง่ายๆ เช่นนั้นได้อย่างใด? ข้ายังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะ”
จัวเซิงหัวเราะเสียงดัง
“ไม่ต้องถ่อมตัวหรอก! เห็นเจ้าพัฒนาได้เร็วเช่นนี้ ตัวข้าก็ภูมิใจ! พวกเราเติบโตมาด้วยกัน ข้ารู้จักพรสวรรค์และศักยภาพของเจ้าเป็นอย่างดี! มิเช่นนั้น บิดาของเจ้าและคนอื่นๆ จะยอมให้เจ้าเรียนแขนงจอมยุทธ์หรือ?”
คนตระกูลหลัวเชี่ยวชาญด้านปรมาจารย์
และลูกหลานส่วนใหญ่ในตระกูล ก็ล้วนมีทักษะโดดเด่นในด้านนี้ ตัวอย่างเช่น หลัวเยี่ยนหลินและหลัวเยี่ยนหมิงที่พากันไปเรียนปรมาจารย์
ผิดกับหลัวซือซือคนนี้
พรสวรรค์ด้านจอมยุทธ์ของนางสูงกว่าด้านปรมาจารย์อย่างมาก
ดังนั้น หลังจากเข้าเรียนที่สำนักหลิงเซียวแล้ว ตระกูลหลัวจึงยอมให้นางฝึกฝนด้านแขนงจอมยุทธ์
“หากตอนเรียนในสำนักเจ้าทำได้ดี ในอนาคตเจ้าจักประสบความสำเร็จได้เป็นใหญ่เป็นโตแน่นอน!”
จัวเซิงกล่าว
“และเมื่อถึงเวลานั้น บางทีเจ้าอาจจะเป็นคนแรกในหมู่พวกเรา ที่ได้มีชื่ออยู่บนตารางจัดอันดับชิงอวิ๋นก็ได้!”
สำหรับพวกเขาในตอนนี้ การมีชื่ออยู่บนนั้นถือเป็นการเครื่องยืนยันความสามารถและเป็นเกียรติสูงสุดแล้ว
หลัวซือซือครุ่นคิด พลันแย้มยิ้มออกมา
“ไม่ใช่หรอก ข้าได้ยินว่าครั้งก่อนฉู่เยว่เกือบจะกลั่นยาเม็ดระดับเก้าได้แล้ว และพรสวรรค์ด้านอื่นๆ ของเขาเองก็โดดเด่นไม่แพ้กัน…ข้าว่า เขาน่าจะได้เป็นคนแรกที่มีชื่ออยู่บนนั้นมากกว่า”
จัวเซิงแตะคางอย่างใช้ความคิด ก่อนจะนึกถึงภาพที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ และอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าตอบ
“ถูกของเจ้า! เหอะ เจ้าเด็กนั่นช่างลึกลับซับซ้อนเสียจริง! ไว้รอเขาออกมาเมื่อไร ข้าจักเค้นความเสียให้หมด ว่าสรุปแล้วเขาแข็งแกร่งเพียงใดกันแน่!”
แต่จู่ๆ หลัวซือซือก็ผงะไป
“เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่ว่าเขาถูกปล่อยตัววันนี้หรือ?”
จัวเซิงตบศีรษะตัวเองเบาๆ
“จริงด้วย! สองวันมานี้ข้ามัวแต่คิดเรื่องวิทยายุทธเหล่านั้น จนลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท!”
หลัวซือซือคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า
“เช่นนั้นพวกเราไปหาเขาดีหรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...