บทที่ 1262 เข้าเรียน – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ตอนนี้ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1262 เข้าเรียน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ภายในสำนัก ทุกอย่างดูเงียบสงบ
เรื่องบนเขาหมื่นเมรัยในคืนนั้น ถูกผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนปิดข่าวเอาไว้ นอกจากพวกเขาไม่กี่คน ก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้
ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามปกติ
แม้กระทั่งเรื่องที่ฉู่หลิวเยว่โดนขังที่สวนอสูร ก็ยังไม่แพร่กระจายออกไป
ด้านหนึ่งผู้อาวุโสหลายคนที่เป็นคนลาดตระเวนล้วนรู้เรื่องนี้ดี ใครก็ตามที่ถูกส่งมาที่นี่ เขาจะต้องทำอันใดสักอย่างมาอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงพูดให้น้อยจะได้ไม่มีความผิด
อีกด้านหนึ่งพวกเขาก็ไม่ใช่คนที่ชอบซุบซิบนินทา พวกเขารู้ว่าปั๋วเหยี่ยนและวั่นเจิงไม่อยากให้เรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ดังนั้นเขาจะเงียบปากไปโดยปริยาย
แม้ว่าฉู่เยว่จะไม่ปรากฏตัวออกมาให้ทุกคนเห็นตลอดหนึ่งเดือน แต่ก็ไม่มีใครสงสัยอันใด
ในสายตาของทุกคน ตอนนี้นั่งกำลังยุ่งอยู่กับการบำเพ็ญเพียรกับหรงซิว ต่อให้พวกเขาอยู่ในเขาจิ่วเหิงตลอดก็ไม่ได้ผิดปกติอันใด
ช่วงเวลาเช่นนี้ ก็เกิดขึ้นติดต่อกันหลายวัน
…
“พี่ห้า ได้ยินมาว่าตอนบ่ายนี้จะมีผู้อาวุโสด้านค่ายกลหลายคนมาเข้าสอนด้วย?”
บนยอดเขาแห่งหนึ่ง หลังจากที่หลัวซือซือและจัวเซิง บำเพ็ญเพียรกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อพวกเขาคิดขึ้นมาว่าไม่ได้เจอหลัวเยี่ยนหลินมานานมากแล้ว จึงอยากจะไปเยี่ยมเสียหน่อย
น่าเสียดายที่หลัวเยี่ยนหลินไม่อยู่ พวกเขาจึงไปหาหลัวเยี่ยนหมิงแทน
หลัวซือซือรินน้ำชาให้กับทั้งสองคน แล้วถามขึ้นมา
ใบหน้าของหลัวเยี่ยนหมิงมีประกายรอยยิ้มอยู่หลายส่วน จากนั้นเขาก็พยักหน้า
“ถูกต้อง อาจารย์พูดน่ะ ปกติแล้วพวกเราจะแลกเปลี่ยนความรู้กันอยู่เสมอ แต่เมื่อเวลานานไปทำให้รู้ถึงลักษณะนิสัยของฝ่ายตรงข้าม มันจึงหมดสนุกแล้ว ดังนั้นท่านจึงได้ปรึกษากับผู้อาวุโสหลายท่าน ให้มามีการเรียนการสอนพร้อมกัน”
ความจริงแล้วเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับสำนักหลิงเซียว
ไม่เพียงแต่ปรมาจารย์ด้านค่ายกล บางครั้งจอมยุทธ์และเซียนหมอก็มีกิจกรรมเช่นนี้เช่นกัน
ถ้าพูดให้น่าฟังเสียงหน่อยก็คือการเชื่อมสัมพันธ์ ถ้าพูดอย่างตรงไปตรงมานี่ก็คือการท้าประลอง
ศิษย์ที่อยู่ภายในสำนัก ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ และมีความเย่อหยิ่งอยู่ในกระดูกอยู่หลายส่วนเลยทีเดียว ดังนั้นภายในใจจึงมีความอยากจะเอาชนะสูง
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อาวุโส แน่นอนว่าเขามีความอยากจะเอาชนะนี้ก็เพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน
การที่ผู้อาวุโสหลายท่านใช้เวลาสอนพร้อมกันนั้น ส่วนใหญ่เขาก็มักจะต่อสู้ด้วยตนเอง เพื่อเป็นการแสดงให้ศิษย์ทั้งหลายดู
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็สามารถทำให้ศิษย์ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากขึ้น และพวกเขาก็ยังสามารถพัฒนาฝีมือจากการต่อสู้กันได้
ท้ายที่สุดแล้วการบำเพ็ญเพียรก็เพื่อความแข็งแกร่ง และเพื่อจะได้ต่อสู้ในสนามได้นานขึ้น!
เรื่องนี้มีข้อดีมากมาย ดังนั้นเหล่าผู้อาวุโสและศิษย์จึงรู้สึกมีความสุขเช่นนี้
“ผู้อาวุโสที่มามีใครบ้าง?” หลัวซือซือถามขึ้นอย่างสงสัย
หลัวเยี่ยนหมิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า
“นอกจากอาจารย์ของข้า ยังมีผู้อาวุโสอีกสามท่าน อ่า แม่นางเจ็ดก็อยู่ด้วย”
“นั่นหมายความว่าพอถึงตอนนั้นพี่สี่ก็จะมาด้วยสินะ?”
“ใช่แล้ว ความจริงแล้วมีคนไม่น้อยเลยที่ต้องการจะให้พี่สี่ชี้แนะสักครา”
หลัวเยี่ยนหมิงพูดด้วยความอิจฉาและชื่นชม
หลัวเยี่ยนหลินอยู่ในสิบอันดับแรกของปรมาจารย์ค่ายกลมาโดยตลอด แน่นอนว่าเขาเป็นศิษย์ที่ยอดเยี่ยมในบรรดาศิษย์แล้ว
คนที่ต้องการจะท้าเขาสู้นั้นมีจำนวนไม่น้อยเลย
ท้ายที่สุดแล้วการได้สู้กับผู้ที่แข็งแกร่ง อาจจะเป็นหนทางลัดที่สามารถเรียนรู้ได้เร็วกว่าปิดด่านฝึก
“ไม่รู้ว่าเมื่อไรข้าจะตามพี่สี่ได้ทัน”
หลัวเยี่ยนหลินทอดถอนหายใจแล้วพูดขึ้น
หลัวซือซือพูดปลอบใจว่า
“พี่ห้ามีพรสวรรค์โดดเด่น ในอนาคตพี่จะต้องโดดเด่นได้เท่ากับพี่สี่อย่างแน่นอน!”
หลัวเยี่ยนหลินส่ายหน้า
“เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่พี่สี่เพิ่งเข้าสำนัก เขามีอายุเท่ากับข้าในตอนนี้ ตอนที่เขามาถึงสำนักได้หนึ่งเดือน พี่สี่ก็สามารถประลองชิงอวิ๋นได้แล้ว แต่ข้านั้น…ยังห่างอีกไกล”
โดยปกติแล้วเขาไม่ได้พูดเรื่องนี้มากนัก แต่ความจริงแล้วในใจของเขาก็ใส่ใจเรื่องนี้มาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...