เจียงจื่อหยวนก้าวผ่านประตูเข้าไปด้านใน
บรรยากาศโดบรอบมืดสนิท มีเพียงไข่มุกประธีปสองสามเม็ดบนกำแพงหินที่ส่องแสงเรืองรองจางๆ ทำให้นางมองเห็นภาพด้านหน้าได้อย่างคลุมเครือ
มันว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใด…
เจียงจื่อหยวนสะดุ้งพลันชะงักฝีเท้า
ลมปราณเย็นยะเยือกแผ่กระจายไปทั่วพื้นที่ หากอยู่ในนานเข้า นางคงขนลุกขนฟองไปทั่วตัวแน่ๆ
ในใจแอบรู้สึกหวาดกลัว ทั้งๆ ที่มันไม่มีอะไรเลย ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ อีกครั้ง
แต่ก็มีเพียงความว่างเปล่า
หรือว่าก่อนหน้านี้ ฉู่หลิวเยว่จะใช้พื้นที่บริเวณนี้ทะลวงจากจอมยุทธ์ระดับแปด ขึ้นสู่ระดับเก้า!
เจียงจื่อหยวนเริ่มขมวดคิ้วทีละนิด ราวรู้สึกเคลือบแคลงใจ
สถานที่แห่งนี้ ดูมิได้พิเศษพิโสแต่อย่างใด…
แต่จู่ๆ รูม่านตาของนางก็หดตัวลง
ไม่ไกลจากด้านหน้านาง มีลำแสงบางอย่างพุ่งเข้ามา!
เนื่องจากบริเวณโดยรอบมืดมาก เมื่อลำแสงนั้นปรากฏขึ้นมา มันจึงดึงสายตาของเจียงจื่อหยวนได้ทันที!
มือเรียวใต้แขนเสื้อกำแน่น ก่อนจะยกเท้าก้าวไปข้างหน้า ด้วยกายาที่แข็งเกร็งไปทั่วทั้งตัว
ยิ่งเข้าไปใกล้ นางก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงลมปราณที่ไหลวนปกคลุมอยู่รอบด้านทีละนิด
เริ่มไม่ชอบมาพากลแล้ว!
ความคิดมากมายแล่นเข้ามาในหัวของนาง
อากาศโดยรอบค่อยๆ ก่อตัวหนาขึ้น ทำให้นางหายใจลำบากมากขึ้นด้วย
และไม่นาน นางก็จำต้องตกใจ เมื่อพบว่าพลังปราณในกายหมดลงอย่างรวดเร็ว!
หลังจากเผชิญกับอันตรายก่อนหน้านี้มาหลายครา ส่งผลให้นางเหลือพลังปราณเพียงน้อยนิด และตอนนี้ก็แทบจะหมดแรงอยู่รอมร่อ
นางแอบลังเลอยากจะออกไปจากที่นี่ แต่ก็กลัวพลาดของดีบางอย่างไป
สุดท้ายก็ต้องจำต้องกัดฟันสู้ แล้วเดินต่อไป
โชคดีที่นางเริ่มเข้าใกล้ลำแสงอันริบหรี่มากกว่าเดิมแล้ว
หลังจากระยะห่างลดลง ในที่สุดนางก็มองเห็นสิ่งนี้ได้ชัดเจน
พลันตกใจพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
นั่นเพราะสิ่งที่ส่องแสงจางๆ นั่น แท้จริงแล้วเป็นเพียงก้อนหินที่แตกสลาย
หินก้อนนี้มีสีดำสนิท ขนาดไม่เกินเล็บมือ และลอยเคว้งอยู่ในกลางอากาศเงียบๆ
ครั้นหมุนตัว ก็เกิดแสงสะท้อนจางๆ ทว่างดงามเปล่งประกายออกมา
ที่นางเห็นเมื่อครู่ คือเจ้าสิ่งนี้หรือ
นอกจากแสงสวยๆ แล้ว เศษหินก้อนนี้ก็ไม่มีอันใดพิเศษเลย
ไม่มีแม้แต่ร่องรอยความผันผวนของพลังปราณ
เจียงจื่อหยวนย่นคิ้วเข้าหากันทีละน้อย
ฉู่หลิวแย้มยิ้ม
“ไม่ต้อง ข้ามาช้ากว่าเจ้า”
นางกล่าวพลางหลุบตามองเศษหินที่เจียงจื่อหยวนโยนทิ้งไป และหรี่ตาลงอย่างอันตราย
“กระไรกัน กำลังหาอันใดอยู่หรือ?”
เจียงจื่อหยวนก้าวถอยหลังด้วยความหวาดหวั่น
“เปล่า…ไม่มีอันใด…ข้าแค่สงสัยเลยเข้ามาดู…”
ฉู่หลิวเยว่สูดหายใจเข้าลึกๆ
ความรู้สึกอันคุ้นเคยตีตื้นขึ้นมาอีกครั้ง
นางถอนหายใจเบาๆ อย่างอดไม่ได้
ทำไมก่อนหน้านี้…ถึงไม่ได้สังเกตเลยนะ!
“องค์ไท่จู่”
นางกระซิบเรียกในใจ
ทว่าองค์ไท่จู่ยังคงหลับใหล และไม่ได้ตอบรับเสียงนางแต่อย่างใด
ฉู่หลิวเยว่นวดหว่างคิ้วราวปวดหัว
คงมีนางคนเดียวบนโลก ที่คิดขุดหลุมศพบรรพบุรุษตัวเองเช่นนี้!
“การรบกวนความสงบของท่าน ถือเป็นบาปมหันต์ ท่านโปรดวางใจ ข้าจะจัดการเรื่องวุ่นวายทั้งหมดนี้ให้ท่านเอง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...