ในใจของเมิ้งเหล่ารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ความจริงแล้วการที่เขาทำเช่นนี้จะต้องมีคำถามขึ้นมาในใจอยู่แล้ว
หรงซิวเป็นใคร?
โอรสสวรรค์แห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์!
เขาอยู่เหนือผู้คนนับหมื่น กุมอำนาจไว้ในมือ สูงส่งอย่างยิ่ง!
แม้แต่ในอาณาจักรเสิ่นซวี่แห่งนี้ มีตระกูลอันดับหนึ่งและผู้แข็งแกร่งมากมายดุจเมฆา แต่เขาก็เป็นจุดเหนือสุดของกลุ่มนั้นเช่นกัน
คนเช่นนี้ แค่คำพูดเดียวของเขาก็สามารถชี้ชะตาเป็นตายของคนผู้หนึ่งได้เลย
เพียงแค่เขากระทืบเท้า ก็ทำให้อาณาจักรเสิ่นซวี่ทั้งหมดต้องสั่นสะเทือน
ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาอยู่ในสำนัก เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะเก็บตัวและเย็นชา คนธรรมดายากจะเข้าใกล้ มักจะรู้สึกว่ามีอันใดขวางกั้นอยู่เสมอ
หลังจากที่เขาออกจากสำนักเรียนไปแล้ว เขาก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ
ปกครองพระราชวังเมฆาสวรรค์ ควบรวมอำนาจเป็นหนึ่ง
ยึดอำนาจมาอยู่ในมืออย่างแท้จริง แข็งแกร่งและเผด็จการ!
หลายปีมานี้มีผู้คนจำนวนมากมายที่ต้องตายด้วยน้ำมือของเขา
ชื่อเสียงของเขาโด่งดังอย่างยิ่ง ส่วนใหญ่แล้วถูกสร้างจากเลือดเนื้อและโครงกระดูกของคนที่เคยเป็นศัตรู!
คนเช่นนี้ มีอำนาจในมือมหาศาล เขาฝ่าฟันขวากหนามมาได้ พร้อมอาบด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ ทำให้คนเลื่อมใสศรัทธา
แต่ไม่ใช่…
เมิ้งเหล่ามองภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ในตอนนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะใช้คำพูดอันใดมาบรรยายดี
จะว่าอย่างใดดีล่ะ?
หรงซิวที่อยู่ตรงหน้าฉู่เยว่เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
เขามีความอดทนและอ่อนโยนอย่างยิ่ง ต่างจากข่าวลือที่บอกว่าเขาเป็นคนโหดเหี้ยม เผด็จการและเด็ดขาด
เมิ้งเหล่านึกขึ้นมาได้ว่าหลังจากที่หรงซิวบุกเข้ามาแล้ว เขาก็ดึงฉู่เยว่เข้าไปในอ้อมกอดของตนเองทันที
ดูเป็นธรรมชาติและไหลลื่นอย่างยิ่ง
แม้กระทั่งยังคุกเข่าลงที่พื้นอย่างไม่เสียดาย
บนโลกนี้จะมีใครบ้างที่ทำให้หรงซิวเป็นห่วงเขาจนคุกเข่าลงกับพื้นอย่างไม่ลังเล
แต่การที่เขาทำเช่นนี้ ไม่เพียงจะทำให้เขาดูแลฉู่เยว่ได้ดีขึ้น ยังทำให้เขาไม่ต้องแตะต้องบาดแผลของอีกฝ่ายด้วย
เมิ้งเหล่ายิ่งคิดยิ่งตกใจ หัวใจของเขาเต้นแรงกระหน่ำ ภายในสมองมีสมมุติฐานจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน
เขารู้ว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน อีกทั้งก่อนหน้านี้จากคำพูดของหรงซิว ฉู่เยว่อาจจะเป็นน้องชายของเขา
แต่… เขาเองก็คิดไม่ถึงเลยว่า หรงซิวจะทำให้ฉู่เยว่ถึงขั้นนี้
แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมากขึ้นก็คือ ที่หรงซิวทำเช่นนี้มันดูแปลกประหลาดอย่างยิ่ง อาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อทั้งสองคนนี้อยู่ด้วยกันแล้วดูกลมกลืนเป็นอย่างยิ่ง
ระหว่างทั้งสองคนนี้ดูเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง
ในภาพบรรยากาศที่มองไม่เห็นมีกระแสลมจางๆ ห้อมล้อมพวกเขาทั้งสองคนเอาไว้ อีกทั้งยังตัดขาดคนอื่นออกจากโลกของตนเองด้วย
ภายในโลกที่พิเศษ มีเพียงแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น คนอื่นไม่สามารถก้าวข้ามไปได้เลย ไม้แขวนข้างเข้าใกล้ ก็เป็นเรื่องที่ยากยิ่ง
ความรู้สึกแบบนี้ยากจะบรรยาย แต่มันแข็งแกร่งอย่างมาก
มองไปเพียงครู่เดียว ก็อดที่จะบ่นในใจไม่ได้ ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเจอพี่น้องแท้ๆ ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเช่นนี้ แต่เหมือนว่าจะมีไม่เยอะ…
ในตอนนั้นเอง หรงซิวได้เก็บผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดลงแล้ว เราเปลี่ยนเป็นผืนใหม่ พร้อมเช็ดคราบเลือดบนมือของฉู่เยว่อีกครั้ง
พลังที่ปะทะกันในร่างกายของนางเมื่อครู่นี้รุนแรงอย่างมาก จนทำให้บนร่างกายของนางมีบาดแผลจำนวนไม่น้อย
ยังดีที่ส่วนใหญ่เป็นบาดแผลขนาดเล็ก ไม่ได้สาหัสเท่าไร
ใช้เวลาเพียงครู่หนึ่งก็สามารถฟื้นฟูร่างกายได้แล้ว
หางตาของเมิ้งเหล่ากระตุกขึ้น แล้วรีบเบนสายตาออก
“หรงซิว ตอนนี้ฉู่เยว่เป็นอย่างใดบ้าง?”
เมื่อครู่นี้เขากลัวว่าหากบีบบังคับไป จะทำให้ฉู่เยว่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม แม้กระทั่งชีพจรเขายังไม่สามารถจับได้
หรงซิวจัดการคราบเลือดบนมือของฉู่เยว่ไปพลาง พร้อมพูดขึ้นว่า
“ท่านไม่ต้องกังวลไป แม้ว่านางจะได้รับบาดเจ็บ แต่ยังดีที่ไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิต ตราบใดที่สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ นางก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างเหมือนเดิม”
เมิ้งเหล่าถอนหายใจออกมา
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว…”
จิตสังหารในแววตาของหรงซิวเข้มขึ้น!
เรื่องนี้จะต้องมีคนอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน!
“…ท่านพ่อ…”
ในตอนนั้นเอง เสียงครวญครางต่ำที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและดิ้นรนขัดขืนหลุดออกจากปากของฉู่หลิวเยว่
นางขมวดคิ้วแน่น ดวงตาปิดสนิท สีหน้าดูวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง
แสงสว่างฉายชัดขึ้นในใจของหรงซิว!
…เป็นเพราะฉู่หนิง
…
ระยะทางห่างออกไปพันลี้ ดินแดนอันรกร้างสีดำไร้ที่สิ้นสุดแห่งหนึ่ง
ท้องฟ้าเป็นสีเทาแลดูมืดมน
ต้นหญ้าแห้งตายกระจายอยู่ทั่วทุกบริเวณ แม่น้ำสายหนึ่งทอดผ่านแผ่นดินอันเย็นยะเยือก
บางครั้งบนท้องฟ้าก็มีอีกาดำสองสามตัวที่บินผ่าน พร้อมส่งเสียงกรีดร้องอันเปล่าเปลี่ยวออกมา
เงาคนร่างหนึ่ง กำลังยืนอยู่บนพื้นดินรกร้างแห่งนี้
เสื้อผ้าของเขาขาดวิ่น ท่าทางดูจนตรอก ขณะที่เดินก็สามารถมองว่าร่างกายของเขามีบาดแผลจำนวนไม่น้อย
เขาก้มศีรษะลงเล็กน้อย และเดินต่อไปด้านหน้าทีละก้าว
บนมือและเท้าทั้งสี่มีโซ่สีดำขลับพันอยู่ อิสรภาพของเขาถูกพันธนาการอย่างแน่นหนา
ทันใดนั้นเองเขาก็เหยียบไปยังของแหลมคมสิ่งหนึ่งจนทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรง จากนั้นก็สะดุดล้มลงที่พื้น!
โครม!
เสียงนั้นดังสนั่น
ความเจ็บปวดปกคลุมทั่วสรรพางค์
เขาหอบหายใจอย่างแรง ริมฝีปากแห้งแตกสั่นเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกมาหนึ่งคำอย่างยากลำบาก
“…เยว่…เยว่เออร์…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...