ทุกอย่างเกิดขึ้นไวยิ่งนัก!
ประกายแสงสีแดงแกมทองและแสงสีม่วงเหลื่อมทองเข้าโรมรันประชันแววเจิดจ้าเสียจนผู้ชมตาพร่าไปตามกัน
ยังมิทันดูให้ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น การต่อสู้ครานี้ก็จบลงแล้ว!
ปึก!
เจียงเฮ่อเทียนสองขาอ่อนแรง คุกเข่าทรุดลงกับพื้น
สองตาของเขาเบิกโพลงจนลูกตาแทบถลน มุมปากค่อยๆ มีโลหิตไหลซึม
บนหน้าอกของเขามีเลือดไหลทะลักออกมาจากรูโหว่ขนาดใหญ่เท่าถ้วยกลางอก
เลือดที่ไหลนองสดๆ เป็นสายมีสีแดงเข้ม ทั้งยังคงความอุ่นไว้
ยังไม่ทันหยดลงบนพื้นน้ำแข็ง ก็จับตัวแข็งกันเป็นก้อนอย่างรวดเร็วแล้ว
ฉากนี้ทำเอาคนตกใจกลัวจนแทบสิ้นสติโดยแท้
บรรดาผู้คนต่างเงียบกริบในบัดดล ด้วยแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
เจียงเฮ่อเทียนเป็นถึง…ผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูงเทียวหนา!
กระบี่นี้ของซั่งกวนเยว่ กลับแทงทะลุหัวใจเขาอย่างจัง!
เห็นชัดเลยว่าหมายคร่าชีวิตเขาเข้าจริงๆ!
“ท่านพ่อ…“
เสียงร้องตะโกนโหยหวนอย่างสิ้นหวังทำลายความเงียบงันจนสิ้น
เจียงจื่อหยวนมองทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา สีหน้าของนางซีดเผือด ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้าน
ซั่งกวนเยว่…
ทุกอย่างล้วนโทษซั่งกวนเยว่ผู้เดียว!
หากมิใช่เพราะด้านข้างมีไป๋หลี่ฉุนคอยพยุงอยู่ เกรงว่านางได้ทรุดตัวลงพื้นทั้งอย่างนั้นแล้วจริงๆ
เดิมทีนางก็ได้รับบาดเจ็บ ใจเปี่ยมด้วยความโศกาแลแรงโกรธเกลียดอยู่แล้ว พอบัดนี้เพลิงโทสะเข้ากัดกินจิตใจ แลวิตกกังวลเป็นทุนเดิม จึงกระอักเลือดออกมาหลายคำจนแทบหมดสติไปเสียเดี๋ยวนั้น
“หยวนหยวน!”
ใจของไป๋หลี่ฉุนเปี่ยมด้วยความกังวลแลปวดร้าวนัก
เด็กคนนี้อยู่กับเขามาหลายปีเพียงนี้ มิเคยต้องลำบากยากแค้น ประสบพบเจอปัญหารุมเร้ามาก่อน
ทว่ามาช่วงเวลาครานี้ นางกลับได้เผชิญความทุกข์ทรมานแทบทุกรูปแบบแล้ว!
เขาพยุงเจียงจื่อหยวนไว้ ก่อนตวัดสายตามองฉู่หลิวเยว่อย่างเข้มงวดดุดัน
“ซั่งกวนเยว่! เจ้าบังอาจนัก!”
เพราะเปี่ยมด้วยแรงโทสะ เขาออกปากติเตียนครานี้ดั่งอัสนีบาตฟาดพสุธากะทันหัน เสียงก้องสั่นสะเทือนเสียจนหูของคนในเหตุการณ์อื้ออึงไปตามกัน
ทว่าฉู่หลิวเยว่กลับมิเสียเวลาปรายตามองเขาด้วยซ้ำ
นางค่อยๆ หยัดกายขึ้น ภายในแววตาดำมืดเย็นยะเยือก แฝงไว้ซึ่งจิตสังหารอันน่าหวาดหวั่น!
ฟึ่บ!
กระบี่ชื่อเซียวลอยกลับไปอยู่ในมือนาง
บนใบกระบี่คมสะท้อนแววเงินมิมีคราบเลือดหลงเหลือแม้แต่ครึ่งหยด
นางมองมันอย่างพึงพอใจ จากนั้นเหลือบตามองเจียงเฮ่อเทียน
เปรี๊ยะ!
อาณาเขตเซียนเทพของเจียงเฮ่อเทียนแตกสลายพร้อมเสียงดังลั่น!
นี่ทำให้สีหน้าของเขาซีดเผือดยิ่งกว่าเดิม
“เจ้า…”
นัยน์ตาที่แต่เดิมเต็มไปด้วยแววจองหองและยโสโอหังอย่างที่ได้เห็นอยู่บ่อยครั้ง บัดนี้กลับเปี่ยมด้วยความหวาดผวาและเคียดแค้น
ในไม่ช้า ศีรษะของเขาก็ฟุบลงกับพื้น
ฉู่หลิวเยว่ก้าวไปด้านหน้าด้วยท่วงท่าหลังเหยียดตรง ประหนึ่งต้นสนที่ปกคลุมด้วยหิมะมิปาน!
ทั้งอดทนอดกลั้น! ยโสจองหอง! เปี่ยมคุณธรรม!
นางเชิดคางขึ้นน้อยๆ จากนั้นก็ถอดหน้ากากบนหน้าออก
ดวงหน้าหยดย้อยงดงามล่มเมืองปรากฏต่อหน้าฝูงชน!
บริเวณโดยรอบพลันเงียบกริบในบัดดล
ส่องสว่างดุจสุริยา งามสง่าดั่งบุหลัน
คิ้วเข้มดั่งทิวผา จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากแดงระเรื่อเผยอเชิดเป็นเรียวโค้งไร้ที่ติ
โดยเฉพาะนัยน์ตาหยกดำประดับน้ำคู่นั้น ดั่งเมฆหมอกเลื่อนลอย หลั่งไหลไม่รู้ทิศทาง
ชั่วพริบตานี้เอง ลมปราณที่ปกคลุมบนร่างของนางพลันเกิดความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่!
เด็กหนุ่มรูปงามนิสัยอ่อนโยนผู้นั้นหายไปแล้ว แทนที่ด้วยเด็กสาวรูปลักษณ์งามหยดย้อย แฝงกลิ่นอายสูงศักดิ์หาที่เปรียบไม่ได้!
เห็นได้ชัดว่านางยังไม่ทำสิ่งใดด้วยซ้ำ แต่กลับมีกลิ่นอายสูงศักดิ์เต็มเปี่ยมอยู่ในกระดูก ทำให้คนต้องเงยมองด้วยความเคารพโดยไม่รู้ตัว
นางหัวเราะ ก่อนจะเอ่ยเตือนสติอย่างช้าๆ ว่า
“ข้า…ซั่งกวนเยว่ เป็นชายาแห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์! ข้าเป็นนาย เจ้าเป็นบ่าว! อย่าพูดแต่สั่งสอนเจ้าเลย ต่อให้วันนี้ข้ากุดหัวเจ้ากับมือทิ้งเสียที่นี่ เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์บ่นแม้แต่ครึ่งคำ!”
ข้าสั่งให้เจ้าตาย เจ้าก็ต้องตาย!
ในที่แห่งนี้มิเกี่ยวว่าอะไรถูกอะไรผิด มีแค่ฐานะสูงศักดิ์กับต่ำต้อยเท่านั้น!
“ลบหลู่เบื้องสูง พยายามกระทั่งเอาชีวิตข้า…เจียงเฮ่อเทียน! ต่อให้เจ้ามีสิบชีวิต ก็ไม่พอจะชดใช้บาปของเจ้าในวันนี้ได้!”
ทุกทุกคำมีพลังและอำนาจ พูดตอกใส่เจียงเฮ่อเทียนเสียจนเขาเถียงไม่ออก!
อีกทั้งในตอนนั้นเอง บรรดาพวกผู้อาวุโสฮวาเฟิงเองก็มองเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของฉู่หลิวเยว่เช่นกัน
สีหน้าของคนพวกนั้นต่างก็พร้อมใจกันเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่
“นางหนูเยว่เออร์!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...