เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1518

เสียงลมพัดคำราม ไอเย็นปรากฏ

ฉู่หลิวเยว่ยกมือขึ้น ก่อนจะค่อยๆ เช็ดคราบเลือดสีแดงสดที่มุมปาก

ความจริงแล้วทั่วทั้งร่างกายของนางในตอนนี้เต็มไปด้วยคราบเลือด

ไม่ว่าจะเช็ดอย่างใดก็ไม่มีทางสะอาด

แต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจ

นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความเจ็บปวดบนร่างกายของนางแปรเปลี่ยนเป็นความด้านชา จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมอง

เมฆดำปกคลุมทั้งเมือง

ท้องฟ้าขมุกขมัว เหมือนกับมีคนสาดหมึกลงบนท้องฟ้า

แรงกดดันทำให้คนแทบจะหายใจไม่ออก

และท่ามกลางมวลเมฆเหล่านั้นเหลือเพียงลำแสงสีทองส่องประกาย ซึ่งสะดุดตาเป็นอย่างมาก

มันคือทัณฑ์สวรรค์สายหนึ่ง และก็เป็นทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ด้วย

ขนาดและลักษณะของมันนั้นเหมือนกับทัณฑ์สวรรค์ที่ฉู่หลิวเยว่เห็นมาก่อนหน้านี้ทุกประการ ไม่ได้มีความแตกต่างกันเลย

เพียงแต่สีนั้นเป็นสีทอง อีกทั้ง… แรงกดดันและลมปราณก็แข็งแกร่งกว่าที่สุดเท่าที่นางเคยเห็นมา!

แข็งแกร่งจนไม่มีอันใดมาเทียบเคียงได้!

ฉู่หลิวเยว่จ้องไปที่ทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์สีทองสายนั้น แล้วหรี่ตาลงเล็กน้อย

ความจริงแล้วนางก็เหมือนกับคนอื่นที่ไม่รู้ว่าทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์สีทองสายนี้ปรากฏขึ้นได้อย่างใด

นางรู้เพียงแค่ว่านางตกลงไปในกลางตาน้ำ จากนั้นฟ้าดินก็เกิดการเปลี่ยนแปลง ทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้น

อีกทั้งในตอนนั้นร่างกายของนางเต็มไปด้วยบาดแผล ภายในสมองของนางมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น… นางจะต้องมีชีวิตต่อไปให้ได้!

นางจะเอาเวลาที่ไหนมาเตรียมตัวทะลวงด่าน?

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการอัญเชิญทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์เลย!

มีเพียงตอนที่ผู้บำเพ็ญเพียรทดลองจะทะลวงด่านระดับเทพเท่านั้นถึงจะสามารถอัญเชิญทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์มาได้ เรื่องนี้นางรู้เป็นอย่างดี

และใช่ว่านางจะไม่รู้จักความแข็งแกร่งของตนเอง นางจะนำปัญหามาให้ตนเองแบบนี้ได้อย่างใด?

แต่ทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้นแล้ว

และนั่นมีความเป็นไปได้เดียวเท่านั้น

ฉู่หลิวเยว่เอียงศีรษะ

คนที่กำลังมองการกระทำของนางอยู่ก็มีสีหน้ามึนงงสับสนไป

“นังหนูคนนั้นกำลังมองอันใดอยู่น่ะ?”

ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนถามขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก

ผู้อาวุโสฮวาเฟิงจึงหันมองตามสายตาของนาง และพูดขึ้นมาด้วยความไม่แน่ใจ

“เหมือนว่า… เหมือนว่า… จะเป็นหอระฆังบูรพกษัตริย์?”

ตอนนี้นางกำลังเผชิญหน้าอยู่กับความเป็นความตายแล้วจะมองหอระฆังบูรพกษัตริย์เหตุใด!

เรื่องนี้ไม่มีใครรู้

แต่หลังจากนั้นไม่นานนางก็ถอนสายตากลับมา

วินาทีต่อมานางก็หลับตาลงอย่างกะทันหัน

เมื่อเห็นว่าฉู่หลิวเยว่ทำเช่นนี้ คนจำนวนไม่น้อยก็ต่างมองหน้ากันเอง

เมื่อครู่นี้ยังจะพุ่งเข้าไปอยู่เลยไม่ใช่หรือ?

อีกทั้งนางยังเคยรอดพ้นจากทัณฑ์สวรรค์ครั้งก่อน ๆ ไปแล้วไม่ใช่หรือ?

แต่ในตอนนี้สิ่งที่อยู่บนท้องฟ้าเหลือเพียงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์สีทองสายสุดท้ายเท่านั้น

แล้วเหตุใดจู่ๆ นางถึงไม่ขยับเล่า?

นางคงจะไม่ได้… ยอมแพ้หรอกมั้ง?

“หลายหมื่นปีที่ผ่านมา ภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่มีผู้บำเพ็ญเพียรไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถอัญเชิญทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์สีทองออกมาได้! พรสวรรค์ของนังหนูคนนี้ เกรงว่าจะมีมากกว่าที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้! แต่นางไม่ได้อยู่ในระดับครึ่งเทพเลยด้วยซ้ำ แล้วจะก้าวผ่านอุปสรรคครั้งนี้ได้อย่างใด?”

จนกระทั่งตอนนี้ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนก็ยังคิดไม่ออกว่าทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์นี้ปรากฏตัวขึ้นได้อย่างใด!

ผู้อาวุโสฮวาเฟิงปวดหัวเป็นอย่างมากสุดท้ายก็ถอนหายใจออกมา

“ทั้งหมดนี้นางเป็นคนสร้างเอง จะเป็นพรหรือว่าหายนะก็ขึ้นอยู่กับนางแล้ว!”

ผู้อาวุโสวั่นเจิงไม่พูดไม่จา

เขาจ้องไปที่ฉู่หลิวเยว่อยู่สักพัก แววตาเต็มไปด้วยความสับสน

ไม่รู้เป็นเพราะว่าบนใบหน้าของนางมีคราบเลือดมากเกินไปหรือไม่ ตอนที่เขามองฉู่หลิวเยว่ เขากลับรู้สึกว่านางคล้ายกับคนในความทรงจำเป็นอย่างมาก

บาดแผลและคราบเลือด ทำให้รอยช้ำที่อยู่บนใบหน้าหายไป ในทางตรงกันข้ามกลับเพิ่มความเฉียบคมบรรยายได้เข้ามาแทนที่

ยิ่งกว่านั้นคือดวงตาทั้งสองข้าง…

ผู้อาวุโสวั่นเจิงอดหันกลับไปมองอีกครั้งไม่ได้ หมัดที่ผ่อนคลายกลับมากำแน่น คลื่นอารมณ์ภายในใจพวยพุ่ง

จากมุมมองของฉู่หลิวเยว่ เมื่อมองตรงไปทางนั้น

สิ่งแรกที่เห็นคือ หอระฆังบูรพกษัตริย์

สิ่งที่สอง… เขาเฝิงหมินที่อยู่ห่างออกไป

ที่นางมองไปเมื่อครู่นี้ นางกำลังมองอันใดอยู่กันแน่?

ฉู่หลิวเยว่หลับตาลง ทุกอย่างตรงหน้ากลายเป็นสีดำสนิท

เทวจิตของนางแผ่กระจายออกไป และนางยังสามารถ “มองเห็น” ทุกอย่างรอบกายได้อย่างชัดเจน

“ถอยหลัง!”

แรงกดดันระดับนี้ ต่อให้เป็นพวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานได้!

แม้กระทั่งโหมวเหยา ก็รู้สึกตกใจอย่างยิ่งและรีบถอยร่นลงมา!

ลำแสงสีทองจางๆ กระจายออกไปทั่วน่านฟ้า

ไม่ว่ามันจะผ่านไปทางใด ทุกอย่างก็พังทลายจนหมดสิ้น!

ผู้อาวุโสหลายคนและซั่งกวนจิ้งที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้!

แม้ว่าเขาจะรีบถอยกลับอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังถูกระลอกคลื่นเหล่านี้ พัดจนลอยกระเด็นออกไปอย่างแรง!

ผู้อาวุโสหลายคนที่เฝ้าอยู่ด้านล่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก แล้วรีบตะโกนขึ้นมาว่า

“เปิดใช้ค่ายกลจัตุรัส!”

พวกเขายังไม่ทันได้ลงมือ พลังเหล่านั้นก็แผ่กระจายออกมาอย่างล้นหลามปกคลุมฟ้าครอบคลุมดิน!

ทุกคนที่อยู่ในจัตุรัสชิงหมิงหน้าเปลี่ยนสีไป!

บางคนที่มีฝีมืออ่อนแอก็กระอักเลือดออกมาโดยตรง!

ผู้อาวุโสหลายคนพยายามเปิดใช้ค่ายกลของจัตุรัสชิงหมิง ม่านพลังสีเงินปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว และคุ้มครองทุกคนไว้ด้านใน!

ศิษย์คนที่มีวรยุทธ์แข็งแกร่งก็รีบตามเข้าไปช่วย ถึงยืนหยัดขึ้นมาได้

คนจำนวนนับไม่ถ้วนเงยหน้ามองท้องฟ้าด้วยความตกใจ

พวกเขาอยู่ห่างขนาดนี้ ยังเป็นเช่นนี้เลย แล้ว… ซั่งกวนเยว่ล่ะ?

ทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์สีทองสายนั้นกำลังพุ่งตรงไปหานางแล้ว!

ในตอนที่ระลอกคลื่นสีทองเหล่านั้นกำลังจะสัมผัสร่างกายของฉู่หลิวเยว่ ทันใดนั้นนางก็ลืมตาขึ้น!

ดวงตาทั้งสองข้างของนางดำขลับและราบเรียบ

เหมือนกับธารน้ำแข็งที่ไม่เคยละลายมานับพันปี และเหมือนกับราตรีอันเป็นนิจนิรันดร์

ไม่ว่าลมพายุจะรุนแรงมากแค่ไหน แต่นางไม่ได้ขยับตัวเลยแม้แต่น้อย!

ดวงตาของนางสะท้อนเป็นสีทองสดใส

วินาทีต่อมาฉู่หลิวเยว่ยกมือขึ้นไปบนอากาศ

“อาณาเขตเซียนเทพ… กลับมา!”

เสียงนั้นแผ่วเบา แต่ดังก้องไปทั่วฟ้าดิน เหมือนคำพิพากษาจากสวรรค์!

เหมือนได้รับเสียงเรียก ลมและพายุพัดกรรโชกที่บนเขาเฝิงหมิน!

ในตอนนั้นเอง ประตูบานนั้นที่อยู่ชั้นบนสุดก็เปิดออกมาในทันที!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์