เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1555

บนผืนฟ้ากว้าง เกลียวคลื่นสีขาวกำลังสาดซัดแลม้วนตวัดไปมา!

เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวนี้แล้ว ผู้คนที่กำลังจับตาดูสถานการณ์ภายในสำนักหลิงเซียวต่างเบิกตากว้างอย่างหวาดหวั่น

นั่นมัน…

“เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์นี่!”

หนานซู่ไหวเป็นคนแรกที่มีปฏิกิริยาตอบกลับ ก่อนจะมองไปยังฝ่ามือของฉู่หลิวเยว่อีกรอบหนึ่ง

จากมุมนี้ยังคงสามารถเห็นได้แม้นไม่ชัดนักว่านั่นคือสิ่งของที่รูปร่างคล้ายกระสวยอันเล็กจ้อย บนตัวมันมีต้นกล้าอ่อนต้นกระจิ๋วต้นหนึ่งผุดขึ้นมา ดูแล้วน่ารักน่าเอ็นดูไม่หยอก

ทว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ดูแล้วน่ารักไร้พิษภัยกลับสามารถรวบรวมพลังแห่งสวรรค์และโลกแล้วแปรสภาพมันกลายเป็นเกลียวคลื่นโถมเข้ามามืดฟ้ามัวดินได้อย่างง่ายดาย!

ซูม!

จากนั้น เกลียวคลื่นขาวใสก็เข้าปกคลุมค่ายกลกระสวยสวรรค์อันมหึมาเสียจนมิด!

ฝีเท้าของฉู่หลิวเยว่ขยับไหวด้วยคิดจะถอยหนีก็พลันเห็นว่าพลังอันน่าหวาดหวั่นที่กำลังเข้าโจมตีนางแบ่งออกเป็นสองสาย

เกลียวคลื่นขาวสะอาดพลันเคลื่อนผ่านข้างกายนางไป

เห็นได้ชัดเลยว่ามันแข็งแกร่งแลโหดเหี้ยม ลมปราณของมันน่าเกรงขามยิ่ง ทว่ากลับเหมือนลมโชยมาบางเบายามพัดผ่านตัวนางไป มิมีเค้าลางของความดุดันแม้เพียงสักเสี้ยว

การเคลื่อนไหวของฉู่หลิวเยว่หยุดชะงัก ก่อนจะกะพริบตาปริบๆ

นางปรายมองเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ในมือโดยไม่รู้ตัว

ที่แท้กระแสพลังคลื่นสายนี้สร้างขึ้นมาจากมันจริงๆ!

ชั่วพริบตานั้นเอง ประกายแสงสว่างเจิดจ้าบนค่ายกลกระสวยสวรรค์พลันได้รับถ่ายทอดพลังเข้าไปอย่างต่อเนื่อง!

พลังแห่งสวรรค์และโลกที่ควบรวมกันเป็นเกลียวคลื่นสีขาวแผดเผาสลายไปบนค่ายกลกระสวยสวรรค์จนหมดสิ้น!

จังหวะนั้นเอง ค่ายกลกระสวยสวรรค์ก็ส่องแสงสว่างจ้า!

แกร๊ก!

ยามได้ยินสุ้มเสียงเล็กแผ่ว ค่ายกลกระสวยสวรรค์ก็ค่อยๆ โคจรอย่างเชื่องช้า!

ฉู่หลิวเยว่สูดลมหายใจหนาวเหน็บเข้าปอด

เปิด…เปิดใช้งานอย่างนี้เลยหรือ!

แม้นางจะไม่ได้ยลภาพฉากก่อนหน้านี้ด้วยตาตัวเอง แต่ก็พอจะรู้ว่าสำนักต้องใช้กำลังของผู้อาวุโสจำนวนไม่น้อยจึงจะสามารถเปิดใช้ค่ายกลกระสวยสวรรค์ได้

ทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจจึงจะสามารถอัญเชิญค่ายกลกระสวยสวรรค์ออกมาและเปิดใช้งานมันได้

ทว่าตอนนี้ แค่เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์โบกไหวใบของมันน้อยๆ ก็สามารถ…

มิเพียงแต่ฉู่หลิวเยว่เท่านั้น ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ล้วนตะลึงกับฉากที่เกิดขึ้นตรงหน้าจนพูดไม่ออกกันทั่วถ้วน

มิใช่ว่าพวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์มาก่อน

ในฐานะขุมทรัพย์ชั้นยอดในตำนาน เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นลึกลับยิ่ง ผู้ที่เคยเห็นมันเองก็น้อยเสียยิ่งกว่าอะไร

คนทั่วไปส่วนใหญ่เองก็เคยได้ยินข่าวลือที่เกี่ยวข้องกันมาอยู่บ้าง แต่กลับรู้เรื่องราวจริงของมันน้อยนัก

ให้ตายอย่างไรก็คาดไม่ถึงว่าตอนนี้พวกเขามิเพียงแต่ได้เห็น แต่ยัง…ได้ยลพลังอันมหาศาลของมันด้วยตาของตัวเองอีกด้วย!

ค่ายกลกระสวยสวรรค์หมุนโคจร ประกายแสงเจิดจ้าบนค่ายกลยิ่งทวีความเรืองรองมากขึ้นกว่าเก่า!

อูอู!

เสียงร้องโหยหวนเสียดแหลมดังแว่วขึ้นมาจากฝ่ามือสีดำ!

ฉู่หลิวเยว่เหลือบสายตามองไป นัยน์ตาหดลงเล็กน้อย

เส้นเลือดสีโลหิตก่ำบนมือข้างนั้นปูดโปนขึ้น ดูแล้วน่าหวาดผวาแลดุร้ายยิ่ง

ราวกับว่า…ต้องการจะหนีออกไปจากที่นี่ก็มิปาน!

ทันใดนั้น!

พลังกดดันอันมหาศาลครานี้น่าเกรงกลัวยิ่งกว่าก่อนหน้านี้มากนัก!

“นางหนู! หลบ!”

พี่เป่าแผดเสียงตะโกนออกไปทันควัน!

ฉู่หลิวเยว่เตรียมตัวไว้อยู่ก่อนแล้ว นางสะกิดปลายเท้าหลบไปด้านหลังอย่างว่องไว!

เล็บอันแหลมคมบนนิ้วมือสีดำตวัดผ่านหน้านางไปอย่างฉิวเฉียด!

ความเจ็บแปลบแล่นปราดเข้ามา บนดวงหน้าของฉู่หลิวเยว่พลันปรากฏรอยแผลสายหนึ่งขึ้น!

ทว่านางยังมิมีเวลามาสนใจแผล นางรีบถอยหลังไปเรื่อยๆ ด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ในชีวิต!

เปรี๊ยะเปรี๊ยะ!

ยินเพียงเสียงแตกลั่นอันใสกังวาน ความว่างเปล่าเหนือค่ายกลกระสวยสวรรค์พลันทยอยถล่มลงมา!

กระทั่งค่ายกลพลังมหาศาลไร้รูปร่างที่คอยปกป้องฉู่หลิวเยว่เองก็พังทลายเช่นกัน!

จากนั้น ฝ่ามือสีดำก็ร่วงลงบนค่ายกลกระสวยสวรรค์อย่างแรง!

กระแสพลังจากสองฝ่ายเข้าปะทะกันอย่างบ้าคลั่งจนสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วผืนดิน!

หลังจากความเงียบงันผ่านไปพักหนึ่ง พลังอันรุนแรงก็แผ่กระจายไปทั่วสี่ทิศ!

ฉู่หลิวเยว่เป็นคนแรกที่ได้รับแรงโจมตีของมัน!

หน้าอกของนางร้อนลวก ร่างของนางรู้สึกราวกับถูกอะไรบางอย่างกระแทกเข้าอย่างแรง ก่อนจะปลิวออกไปอย่างคุมทิศทางไม่ได้!

ทุกเสี้ยววิต่อจากนี้ล้วนแปรเปลี่ยนเป็นความทรมานอย่างหาที่สุดมิได้

มิรู้ว่าผ่านไปไหนเท่าใดแล้ว

ทว่าเสียงที่ได้ยินดัง “พลั่ก” ลั่นแว่วเข้ามาเพียงเท่านั้น!

ฝ่ามือสีดำถูกบดขยี้จนละเอียดในท้ายที่สุด!

แสงสว่างเรืองรองสีม่วงแลสีเงินบนค่ายกลกระสวยสวรรค์เข้าปกคลุมมัน

จากนั้น บรรดาฝูงชนก็พบว่าฝ่ามือสีดำอันมหึมานั้นถูกหั่นเป็นชิ้นๆ ในพริบตาเดียว!

ที่แปลกก็คือ มิมีเลือดสีแดงสดสาดกระจายออกมาแม้แต่น้อย

เศษชิ้นส่วนเนื้อสีดำเหล่านั้นเผาไหม้สลายไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะแปรเปลี่ยนกลายเป็นหมอกควันดำ แล้วถูกปัดเป่าหายไปในพริบตา!

หลงเหลือไว้เพียงกลิ่นคาวหวานอันเข้มข้นที่ฟุ้งกระจายไปในอากาศ ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะจางหายไป

ฉู่หลิวเยว่เอนกายหันครึ่งไปมองหรงซิว

ในตอนนี้ ทั่วทั้งร่างของนางสภาพดูไม่จืดเอาเสียเลย ดวงหน้าเองก็ถูกปาดจนมีรอยแผล ดูแล้วซีดเซียวนัก

ทว่านัยน์ตาของนางยังคงดำเข้มดั่งหยก สว่างจ้าดั่งดาราไสว

“หรงซิว”

ริมฝีปากซีดขาวของนางเผยอขึ้นน้อยๆ หยักยกเป็นเส้นโค้งบางๆ

ในใจหรงซิวพลันสั่นระรัว ก่อนจะมองไปที่นางด้วยสายตาลึกล้ำ

“ครานี้ข้ามิได้หลอกเจ้า ข้ากลับมาอย่างปลอดภัยเลยล่ะ”

มือของหรงซิวพลันกำเข้าหากันแน่น ทว่ายังคงยั้งแรงเอาไว้ด้วยเกรงว่าจะไปแตะถูกบาดแผลของนางเข้า

นางยื่นมือออกไปกอดรอบเอวบางของเขา ก่อนจะเอนพิงกับอกของเขา

ข้างหูของนางยังคงได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นอย่างชัดเจน

ระหว่างคนทั้งสองห่างกันเพียงเสื้อคลุมบางๆ กั้นไม่กี่ชั้นเท่านั้น

ไม่ช้าอุณหภูมิร้อนผ่าวบนร่างของเขาเผื่อแผ่มาให้ร่างของนางด้วย

ร่างกายเย็นเฉียบดูจะอบอุ่นขึ้นมาบ้างแล้ว

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง สุ้มเสียงทุ้มต่ำพลันดังแว่วจากเหนือศีรษะ

“เยว่เออร์ เด็กดี ต่อไปนี้…อยู่ข้างกายข้าตลอดไปเถิดนะ”

นางหลับตาลงเบาๆ มุมปากหยักโค้งขึ้นน้อยๆ

“ได้สิ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์