ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1556

สรุปบท บทที่ 1557 ลมพัดหวนขึ้น: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

บทที่ 1557 ลมพัดหวนขึ้น – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ตอนนี้ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1557 ลมพัดหวนขึ้น จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เป็นทั้งคำอนุญาต และเป็นทั้งคำสัญญา

หลังจากฉู่หลิวเยว่เอ่ยประโยคนี้จบ ก็สลบเหมือดคาอกหรงซิวไปทั้งอย่างนั้น

นางใช้พลังของตนจนหมดสิ้นไปนานแล้ว เพียงแต่พึ่งพาแรงใจเฮือกสุดท้ายเท่านั้นถึงยังคงฝืนอยู่ต่อได้อย่างยากลำบาก

หลังเห็นว่าค่ายกลกระสวยสวรรค์จัดการแก้ปัญหาใหญ่ได้แล้ว ใจของฉู่หลิวเยว่ก็ผ่อนคลายในพลัน สุดท้ายก็ฝืนต่อไม่ไหว จมลงสู่ห้วงภวังค์

การหลับใหลครานี้กินเวลายาวนานถึงหนึ่งเดือน

ณ เขาจิ่วเหิง

ภายในห้องโถงใหญ่ มีคนจำนวนไม่น้อยนั่งแบ่งกันสองฝั่ง

“นางหนูเยว่เอ๋อร์หมดสติไปนานขนาดนี้แล้ว เหตุใดถึงยังไม่ฟื้นกัน?”

หนานซู่ไหวถอนหายใจออกมาคำรบหนึ่งอย่างอดไม่อยู่ หว่างคิ้วเต็มไปด้วยความกังวลใจ

ซั่งกวนจิ้งชะงัก ก่อนเอ่ยว่า

“ระยะนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมายนัก แรงกายแรงใจของนางถูกใช้ไปจนหมดสิ้น บัดนี้ได้พักผ่อนเสียที หลับไปนานหน่อยถือเป็นเรื่องปกติ”

ในหมู่ของผู้อยู่ในเหตุการณ์ เกรงว่าเขาคือคนที่เข้าใจดีที่สุดว่าเด็กคนนั้นผ่านความยากลำบากมามากแค่ไหน

มองจากมุมของคนนอกแล้ว อาจรู้สึกว่าที่ฉู่หลิวเยว่สามารถบุกทะลวงจากระดับแปดขั้นกลางมาจนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูงได้ติดๆ กันในเวลาไม่กี่เดือนสั้นๆ ช่างเป็นชะตาชีวิตที่ยอดเยี่ยมนัก

ทว่าใครเล่าจะรู้บ้างว่าระหว่างทางนางต้องประสบพบเจอสิ่งใดมาบ้าง!

โดยเฉพาะตอนที่นางหวนเข้าสู่อาณาจักรเซียนเทพ ถูลู่ถูกังจนบุกทะลวงสู่ระดับเทพขั้นสูง…

คนธรรมดาใช้เวลาหลายสิบปียังทำไม่สำเร็จ นางทำสำเร็จทั้งหมดได้ในเวลาไม่กี่เดือนสั้นๆ จะไม่เหนื่อยล้าเลยได้อย่างไรกัน?

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ซ่อมแซมค่ายกลกระสวยสวรรค์ล่าสุดเพื่อพลิกวิกฤตให้กลับคืนมาดี

นั่นเรียกได้ว่าแทบผลาญทุกอย่างของนางเลยทีเดียว

หนานซู่ไหวได้ยินดังนั้น สีหน้าก็ผ่อนคลายลงไปบ้าง

“ที่ท่านพูดมาก็มีเหตุผล หลายปีมานี้…นางหนูนั่นต้องลำบากไม่น้อยทีเดียว อย่างไรเสียเรื่องพวกนั้นของสำนักก็มอบให้พวกเขาจัดการเถิด ปล่อยให้นางหนูเยว่เออร์ได้พักผ่อนเต็มอิ่มก็พอ”

เพราะไม่ฟื้นขึ้นมาเลยตั้งแต่ตอนนั้น จึงทำให้คนเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย

ในระยะเวลาหนึ่งเดือนนี้ ทุกวันพวกเขาจะพากันมานั่งที่นี่สักพักหนึ่ง น่าเสียดายที่ป้อนยาก็แล้ว ลองหาวิธีก็แล้ว คนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นแม้แต่นิดเดียว

จะหลับไปถึงเมื่อไรกันหนอ ในใจพวกเขาล้วนไร้เบาะแสโดยแท้ จึงพากันกระวนกระวายอยู่ไม่สุข

ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนนั่งอยู่ด้านข้าง เขามองซั่งกวนจิ้ง ก่อนจะหันไปมองหนานซู่ไหวพลางลอบถอนใจออกมาเงียบๆ

ความจริงแล้วเขามีเรื่องมากมายอยากถามนัก หากแต่ระยะนี้นางหนูเยว่เออร์ยังคงสลบไสลไม่ได้สติ ใจของคนใหญ่โตทั้งหลายล้วนอยู่ที่นางทั้งสิ้น

เขาจึงไม่ได้ถามซักไซ้มากมายอีก

อีกทั้งในหมู่คนใหญ่คนโตเหล่านี้ เห็นชัดเลยว่าพวกเขาล้วนเข้าใจกันและกันโดยไม่ต้องพูดออกมา ทั้งยังไม่เคยพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องของนังหนูเยว่เออร์เลยแม้แต่คราเดียว

เช่นว่าปีนั้นเหตุใดถึงหลงเหลืออาณาเขตเซียนเทพเอาไว้ที่เขาเฝิงหมิน แล้วเหตุใดถึงได้จากไปกะทันหันตั้งหลายปี ไม่มีข่าวคราวส่งมาแม้แต่น้อย

ยามปรากฏตัวอีกครา ก็เปลี่ยนตัวตนใหม่ทั้งหมดไปโดยสิ้นเชิง

กระทั่งเรื่องที่ว่าความทรงจำของนางขาดหายไปในระหว่างนั้นอีก

หลังจากความวุ่นวายที่เขาหมื่นเมรัย นางยืนกรานอย่างหนักแน่นว่าจะลงไปให้ได้ เป็นเพราะว่าต้องการชดใช้ความผิดที่หงส์ทองคำกลืนกินพลังทัณฑ์สวรรค์แค่นั้นจริงๆ หรือ?

อีกอย่าง ยังมีเรื่องที่พำนักของเจ้าสำนักในหลายปีมานี้อีก…สรุปแล้วเขาไปไหนกันแน่? เหตุใดถึงได้กลับมาในช่วงวิกฤตสุดท้ายกัน?

หลังเรื่องราวจบสิ้นลากยาวมาถึงตอนนี้ ก็มีคนหลงเหลืออยู่ในสำนักไม่มากนัก

ปริศนาครั้งแล้วครั้งเล่าทำเอาเขาวุ่นวายอย่างมาก ใจเต็มไปด้วยความเคลือบแคลง

ทว่าตอนนี้ ความใคร่รู้และความไม่เข้าใจเหล่านั้นล้วนทำได้แค่ระงับมันไว้ชั่วคราวเท่านั้น

นอกบานประตูพลันแว่วเสียงฝีเท้าอันคุ้นเคย

คนทั้งหลายพากันทยอยแหงนศีรษะขึ้น ที่เดินเข้ามาหาใช่คนอื่นไกล เป็นหรงซิวที่ช่วงนี้คอยดูแลฉู่หลิวเยว่อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดนั่นเอง

หนานซู่ไหวผุดลุกขึ้นคนแรก

“หรงซิว นางหนูเยว่เอ๋อร์เป็นอย่างใดบ้าง?”

หรงซิวมีสีหน้าเรียบนิ่ง

“ยังไม่ฟื้นขอรับ”

ทุกคนที่ได้ยินดังนั้นต่างเผยสีหน้าผิดหวัง

แม้นจะเดาได้ แต่พอได้ยินคำพูดนี้ ก็มิอาจเลี่ยงความรู้สึกโหวงในใจได้อยู่ดี

“แต่ว่าบาดแผลบนตัวนางรักษาจนใกล้หายดีแล้ว”

แม้บาดแผลของนางจะสาหัส แต่บัดนี้นางก้าวสู่ระดับเทพขั้นสูงอีกครั้งแล้ว พลังการฟื้นฟูร่างกายย่อมดีขึ้นมากกว่าแต่ก่อน

เหตุผลที่ครานี้หมดสติไปนานเพียงนี้ก็เหมือนที่ซั่งกวนจิ้งพูดไม่มีผิด ก่อนหน้านี้นางล้าเกินไป จึงต้องการการพักผ่อนอย่างมาก

“เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี…”

คนทั้งหลายสบสายตากันแวบหนึ่ง ก่อนจะพากันพรูลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์