ไป๋เชินตะลึงค้าง
“เจ้าว่าเช่นใดนะ!”
“ข้าบอกว่าฉู่หลิวเยว่ยังไม่ตาย! นางยังมีชีวิตอยู่! และเช้านี้นางกลับมาเมืองหลวงอย่างปลอดภัยแล้ว! ตอนนี้นางกำลังอยู่ที่บ้านกับใต้เท้าฉู่หนิง!”
ซินสือพูดซ้ำด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
“เพราะเรื่องนี้ทำให้ผู้อาวุโสซุนเอาแต่รู้สึกผิดและโทษตัวเองมาสองวันแล้ว ข้าก็จะรีบไปแจ้งข้าวให้ท่านทราบเดี๋ยวนี้แหละ!”
เมื่อกล่าวจบ เขาก็หัวเราะลั่นออกมา และกำลังจะเดินจากไป
ทว่าไป๋เชินหลับดึงแขนเขาเอาไว้ ก่อนจะถามอีกครั้งด้วยความไม่อยากเชื่อ
“ที่เจ้าพูดมาเป็นความจริงหรือ ผู้อาวุโสซุนกล่าวเอาไว้อย่างชัดเจนว่าเสี่ยวหลิวเยว่ถูกวังน้ำวนสีดำของนาคาปีกทมิฬกลืนเวหากลืนกินลงไปและเป็นเหตุให้ต้องตาย แล้วจะรอดได้อย่างไร”
“เฮ้อ ความจริงนั้นข้าก็แปลกใจเรื่องนี้อยู่เช่นกัน แต่เมื่อครู่นี้ตอนที่นางมายืนอยู่ตรงหน้าข้า ข้าก็ไม่อยากจะเชื่อเลย! ไป่เชิน ถ้าเจ้ายังไม่เชื่อล่ะก็ เจ้าก็ไปดูให้เห็นกับตาตัวเองสิ! แต่ทว่าวันนี้กว่าสองพ่อลูกคู่นั้นจะได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาช่างไม่ง่ายเลย ข้าคิดว่ารอให้นางได้ดูแลใต้เท้าฉู่หนิงแล้วกลับมาถึงสำนักก่อนค่อยว่ากันก็ยังไม่สาย! เอาล่ะ ข้าไม่คุยกับเจ้าแล้ว ข้าต้องไปหาผู้อาวุโสซุนก่อน!”
หลังจากซินสือพูดจบ เขาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว ไป๋เชินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังไม่อยากรบกวนในเวลานี้
เขาเองก็เคยเห็นสภาพของใต้เท้าฉู่หนิงในวันนั้นเช่นกัน เกรงว่าพวกเขาสองพ่อลูกคงมีเรื่องต้องพูดคุยกันมาก ดังนั้นเขาตัดสินใจรออยู่ที่นี่อย่างใจเย็นจะดีกว่า
“นี่ ซินสือ รอข้าด้วย ข้าไปด้วย!”
ไป๋เชินตะโกนและเดินตามซินสืออย่างรวดเร็ว เขาอยากไปฟังเรื่องราวอย่างละเอียดอีกครั้งว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
หลังจากที่ทั้งสองออกไปได้สักพัก ฉู่เซียนหมิ่นที่ยืนตรงหน้าประตูยังคงไม่สามารถเรียกสติกลับคืนมาได้
ฉู่หลิวเยว่ยังมีวิตอยู่อย่างนั้นหรือ
นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร!
ผู้อาวุโสซุนกล่าวไว้อย่างชัดเจนว่านางตายภายใต้เงื้อมมือของนาคาปีกทมิฬกลืนเวหา แล้วตอนนี้นางกลับมาได้อย่างไร!
เหลวไหลที่สุด!
เรื่องนี้ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องเพ้อฝัน ทว่าอาจารย์ซินสือไม่มีทางพูดโป้ปดอย่างแน่นอน ดูจากท่าทางของเขาแล้ว เรื่องนี้ต้องได้ยืนยันชัดเจนอย่างแน่นอน
หากฉู่หลิวเยว่มีชีวิตรอดกลับมาแล้วจริงๆ ถ้าอย่างนั้น…เรื่องของนางเองล่ะ จะทำเช่นไรดี!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ได้ ฉู่เซียนหมิ่นพลันมีสีหน้าซีดเผือดทันที
เมื่อค่ำคืนวานนี้ กว่านางจะหาโอกาสพบรัชทายาทได้นั้นไม่ง่ายเลย
นางทูลองค์ชายรัชทายาทว่า นางสามารถขึ้นไปแทนที่ตำแหน่งของฉู่หลิวเยว่ได้ และก็จะได้เข้าพบราชทูตจากราชวงศ์เทียนลิ่ง
ตราบใดที่สามารถคว้าโอกาสนี้เอาไว้ได้ ทุกอย่างก็ยังคงมีความหวัง และยังมีความเป็นไปได้ที่จะแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันขององค์ชายอีกด้วย
แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางก็พอเดาได้คร่าวๆ ว่าองค์ชายรัชทายาทถูกฝ่าบาทลงโทษเป็นแน่
หากต้องการช่วยองค์ชายรัชทายาทล่ะก็ จำเป็นต้องมีผู้ที่มีอำนาจหนักแน่นพอที่จะช่วยพูดแทนให้ได้
เห็นได้ชัดว่ารัชทายาทก็คิดตรงจุดนี้เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงมีท่าทีกับนางที่ดีขึ้น ไม่เพียงแต่ให้นางย้ายมาอยู่ที่สวนอู๋ถงที่ใกล้กับตำหนักพระองค์มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังประทานของกำนัลให้นางมากมายอีกด้วย
พวกบ่าวรับใช้ในจวนรัชทายาทพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ยามเช้าตรู่ตอนนางออกจากจวน จากที่เคยไม่เคารพนางเหมือนเมื่อก่อน แต่ตอนนี้กลับเคารพนางมากยิ่งขึ้น
เมื่อครู่นี้นางยังใช้คนให้ไปตามหมอมาดูอาการท่านพ่ออยู่เลย และนางก็คิดว่าปัญหาทั้งหมดจะได้รับการแก้ไขแล้ว
ทว่าตอนนี้…
นางบังคับตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้า แต่พอก้าวไปได้เพียงหนึ่งก้าว นางตระหนักว่าขาของตนอ่อนจริงๆ จากนั้นนางก็ทรุดลงไปกองกับพื้นทันที
…
ในไม่ช้าข่าวคราวที่ฉู่หลิวเยว่มีชีวิตรอดกลับมาจากบรรพตวั่นหลิงก็แพร่ออกจากสำนักไปทั่วทั้งเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว
หินเพียงก้อนเดียวแต่สามารถสร้างคลื่นได้นับพันระลอก!
บ้างก็ตกใจ บ้างก็ดีใจ และมีบ้างที่รู้สึกขุ่นข้องหมองใจ
ในเวลาเดียวกันมีบางตระกูลที่ดีใจ และบางตระกูลที่ทุกข์ใจ
มีใครหลายคนต้องการสืบสาวราวเรื่อง แต่ฉู่หลิวเยว่ดูแลปรนนิบัติฉู่หนิงผู้เป็นบิดาทั้งวัน ไม่แม้แต่ออกจากบ้านไปที่ใด
ฉู่หนิงตรอมใจเพราะนางจึงทำให้กลายเป็นเยี่ยงนั้น นางจึงรู้สึกสงสารเขาเหลือเกิน ดังนั้นนางจึงทิ้งเรื่องอื่นเอาไว้ข้างหลัง แล้วดูแลเขาให้ดีขึ้นเสียก่อน และถือโอกาสนี้พักฟื้นไปในตัว
…
เมื่อฉู่หลิวเยว่กลับมาแล้ว ฉู่หนิงและคนอื่นก็รู้สึกเบาใจลงแล้ว แต่ทว่ากลับมีคนบางคนที่ยังตกตะลึงอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์