ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 158

น้ำเสียงนั้นช่างบาดแก้วหูเหลือเกิน จนทำให้ฉู่หลิวเยว่ถึงต้องขมวดคิ้ว

“เจ้าคือผู้ใด”

เมื่อสตรีนางนั้นได้ยินประโยคนี้ก็รู้สึกราวกับถูกยั่วยุมากกว่าเดิม นางจึงปรี่เข้าไปตบหน้าฉู่หลิวเยว่!

“เจ้ายังมีหน้ามาถามว่าข้าเป็นใครอีกอย่างนั้นหรือ! ข้าจะฆ่าเจ้า!”

ฉู่หลิวเยว่เบี่ยงเท้าหนึ่งก้าวเพื่อหลบการจู่โจมของนาง

ทันใดนั้นสตรีนางนั้นก็เซถลาจนเกือบจะล้มหัวคะมำกับพื้น โชคดียังที่คนที่อยู่ข้างหลังของนางเข้ามาช่วยประคองร่างอย่างรวดเร็ว

“ฮูหยิน ท่านโปรดระวังด้วยขอรับ!”

ไฟแห่งความโกรธของสตรีนางนั้นปะทุมากกว่าเดิม จากนั้นนางจึงชี้หน้าฉู่หลิวเยว่แล้วกล่าวเสียงเฉียบขาด

“ไป! ไปจับนางให้ข้าเดี๋ยวนี้!”

“ขอรับ!”

เมื่อคนพวกนั้นได้ยินสิ่งที่นายหญิงของตนสั่งก็ก้าวไปข้างหน้าทันที ก่อนจะล้อมฉู่หลิวเยว่เอาไว้หมายจะจับตัวนาง!

ฉู่หลิวเยว่เปลี่ยนสีหน้า น้ำเสียงก็เย็นเฉียบลงไปถึงสามส่วน ฟังดูแล้วไร้ความโกรธแต่ทว่าเป็นการข่มขู่เสียมากกว่า

“ที่นี่คือสำนักเทียนลู่ ข้าจะดูสิว่าใครจะกล้ามาสร้างความวุ่นวายถึงที่นี่!”

ประโยคนี้ทำให้พวกเขาหยุดชะงักและเกิดความกระวนกระวายได้สำเร็จ

นั่นนะสิ!

ไม่ว่าอย่างไร ที่แห่งนี้ก็คือบริเวณหน้าประตูสำนักเทียนลู่ ถ้าหากว่าพวกเขาทำอะไรเกินเหตุตรงนี้ ทางสำนักเทียนลู่คงไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆ เด็ดขาด!

แต่ดูเหมือนสตรีนางนั้นจะไม่ฟังคำพูดของฉู่หลิวเยว่ นางจึงขึ้นเสียงสูงไปอีกแปดส่วน

“พวกเจ้ามัวยืนบื้ออะไรอยู่ รีบไปจับตัวนางมาให้ข้าประเดี๋ยวนี้! ตระกูลกู้ของข้าต้องการจับตัวนาง ผู้ใดจะกล้ามาขัดขวางรึ!”

ตระกูลกู้?

ความคิดของฉู่หลิวเยว่เปลี่ยนไปทันที คราวนี้นางจึงจำสถานะตัวตนของสตรีนางนี้ได้แล้ว

ฮูหยินเอกของกู้อวิ๋นเฟยประมุขตระกูลกู้ นายหญิงแห่งตระกูลกู้…เยว่เจินหลิง

เจ้าของร่างเดิมเคยพบเจอสตรีนางนี้แค่เพียงครั้งเดียว ทั้งยังผ่านมานานหลายปีอีกต่างหาก ดังนั้นตอนที่ฉู่หลิวเยว่เห็นนางเมื่อครู่นี้จึงคุ้นตาเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็นึกไม่ออกว่าเป็นผู้ใด

ทว่าคนที่หยิ่งยโสเช่นนี้ เมื่ออ้าปากโอ้อวดว่า “ตระกูลกู้ของข้า” จึงเดาได้ไม่ยากว่านางคือผู้ใด

จากนั้นฉู่หลิวเยว่จึงเข้าใจสถานการณ์ขึ้นมาทันทีว่าประโยคแรกที่นางเอ่ยนั้นหมายถึงเรื่องอะไร

เพราะว่าเยว่เจินหลิงคือมารดาผู้ให้กำเนิดกู้หมิงจูนั่นเอง!

“ที่แท้ก็คือฮูหยินตระกูลกู้นี่เอง ข้ากับตระกูลกู้ของพวกท่านไม่เคยไปมาหาสู่กันมาก่อน แล้วไม่เคยทำอะไรผิดต่อตระกูลของพวกท่านหรอกกระมัง ไม่รู้ว่าท่านไปโมโหอะไรมาถึงให้คนมาจับตัวข้า ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกันแน่”

เยว่เจินหลิงหัวเราะด้วยความโกรธ นางมองฉู่หลิวเยว่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดแค้น

“เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีกหรือ เจ้าทำอะไรลงไป เจ้าน่าจะรู้ดีแก่ใจมากที่สุด!”

ฉู่หลิวเยว่ยังคงมีสีหน้าเช่นเดิม “ข้าก็ยังไม่เข้าใจจริงๆ ท่านช่วยอธิบายให้ข้าก่อนจะได้หรือไม่”

เยว่เจินหลิงโกรธจนตัวสั่น

“เจ้า!”

“นี่มันอะไรกัน เอะอะโวยวายอะไรตั้งแต่เช้า!”

ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใครนั้น ก็มีคนผู้หนึ่งรีบเดินออกมาจากประตูสำนัก

ฉู่หลิวเยว่หันหลังกลับไปมอง

“อาจารย์ไป๋เชิน”

เมื่อไป๋เชินเห็นฉู่หลิวเยว่ หัวใจของเขาถึงกับกระตุกวูบ

ถึงแม้ว่าเมื่อวานนี้จะอุตส่าห์ได้ยินข่าวคราวมาบ้างแล้ว ทว่าเมื่อได้มาเห็นกับตาตนเอง เขาก็ยังอดตื่นเต้นดีใจไม่ได้

“เสี่ยวหลิวเยว่! เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย!”

เขารีบก้าวเข้าไปหาฉู่หลิวเยว่ แล้วมองสำรวจนางหัวจรดเท้าอย่างถี่ถ้วน

“เจ้า นี่เจ้าไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่หรือไม่!”

ฉู่หลิวเยว่ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยให้แก่เขา

“ก็ใช่น่ะสิท่านอาจารย์ ข้ายังดีๆ อยู่เลย ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเจ้าค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์