เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1605

……….

เลือดสายสุดท้ายบนใบหน้าของผู้อาวุโสถงชวนซีดจางไปแล้ว!

ทุกคนมีสีหน้าตกตะลึง ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกขมวดคิ้วแล้วสาวเท้าก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าว

“ฝ่าบาท ท่าน…”

“ข้าไม่เป็นไร”

หรงซิวยิ้มออกมาพร้อมพูดเสียงเรียบ

“กลอุบายเช่นนี้ ข้าไม่เห็นมันอยู่ในสายตาหรอก”

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเม้มริมฝีปาก ในแววตายังมีความรู้สึกผิดและละอายใจอยู่

“ผู้เฒ่าเช่นข้าไร้ความสามารถ ข้าไม่รู้เลยว่าฝ่าบาทกำลังตกอยู่ในอันตรายเช่นนั้น…”

แม้ว่าหรงซิวจะไม่สนใจมัน แต่สิ่งที่เขาบรรยายมาเมื่อครู่นี้ก็จินตนาการได้ไม่ยากว่าผนึกนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด!

ตอนนี้เขาอาจจะพูดมันได้ แต่หากลองคิดดูก็จะรู้ว่าหรงซิวได้เผชิญอันตรายมานานับประการแล้ว!

อีกทั้งเรื่องเหล่านี้เขายังไม่รู้มาก่อนเลยแม้แต่น้อย!

ตั้งแต่ปีนั้นที่หรงซิวกลับพระราชวังเมฆาสวรรค์มา ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกก็ดูแลเขาเป็นอย่างดีมาโดยตลอด อีกฝ่ายแทบจะกลายเป็นลูกในไส้ของเขาไปแล้ว

แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะบกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรงขนาดนี้!

เหมือนว่าหรงซิวสามารถคาดเดาความคิดของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกได้ เขาจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า

“จะว่าไปแล้ว เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นเมื่อตอนที่ข้าเพิ่งออกจากพระราชวังเมฆาสวรรค์ หากท่านไม่รู้ก็เป็นเรื่องปกติแล้ว”

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเข้าใจได้ในทันที

…อย่างนี้นี่เอง!

ในตอนนั้นหรงซิวเพิ่งรับตำแหน่งได้ไม่นาน หากมองอย่างผิวเผินพระราชวังเมฆาสวรรค์ก็ดูสงบราบเรียบ แต่ความเป็นจริงแล้วกลับมีคลื่นใต้น้ำที่กำลังพลุ่งพล่าน

ตอนนั้นเขาอยู่ที่แห่งนี้เพื่อช่วยหรงซิวดูแล และเขาไม่ได้ติดตามหรงซิวออกไป

แต่ในเวลาหลังจากนั้น เขาก็มีการติดต่อกับหรงซิวอยู่เสมอ เขาอยู่ที่พระราชวังเมฆาสวรรค์อย่างสบายใจและไม่ได้คิดอันใดมาก

แต่ใครจะรู้เล่าว่า… มันจะเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น

หรงซิวหันไปมองทางผู้อาวุโสถงชวนอีกครั้ง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น

สายตาราบเรียบที่เต็มไปด้วยความกดดันจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสถงชวน!

หนังตาของผู้อาวุโสถงชวนกระตุกขึ้นอย่างรุนแรง

“ฝ่าบาทกำลังสงสัยว่า คนที่ลงมือกับท่านในครั้งนั้น คือข้าอย่างนั้นหรือ?”

เขาหัวเราะเสียงเย็นออกมาอย่างกะทันหัน

“ฝ่าบาท ข้าอยู่ในตำแหน่งของผู้อาวุโสแห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์มาหลายร้อยปีแล้ว ซึ่งข้านั้นก็จงรักภักดีมาโดยตลอด! เรื่องนี้ผู้คนในพระราชวังเมฆาสวรรค์จำนวนไม่น้อยสามารถเป็นพยานให้กับข้าได้”

“ท่านสามารถพูดได้ว่าข้าเป็นคนที่ชอบยกตนข่มท่าน อารมณ์ร้อน แต่มีเพียงอย่างเดียว… ที่ท่านไม่สามารถพูดได้!”

“ท่านคือโอรสสวรรค์แห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์ อีกทั้งยังเป็นสายเลือดที่มีพรสวรรค์เหนือกว่าคนในใต้หล้า! ข้าจะลอบสังหารท่านไปเหตุใด! แล้วยังจะใช้… วิชาของถ้ำปีศาจทมิฬอีก!”

ผู้อาวุโสถงชวนมีสีหน้ากรุ่นโกรธ เหมือนกับไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างใหญ่หลวงจนทำให้เขารู้สึกโมโหอย่างยิ่ง

“ท่านใส่ร้ายผู้เฒ่าอย่างข้าเช่นนี้ หากท่านไม่เอาหลักฐานออกมา ข้าไม่มีทางยินยอมอย่างแน่นอน!”

น้ำเสียงที่เจือความโกรธและตื่นตระหนกดังก้องไปทั่วห้อง

สีหน้าของคนจำนวนไม่น้อยที่อยู่รอบข้างก็หวั่นไหวไปเช่นกัน

หากพูดตามตรงแล้ว ผู้อาวุโสถงชวนอาจจะดูไม่ค่อยเคารพโอรสสวรรค์ และต้องการจะแย่งชิงอำนาจของเขามา

แต่สำหรับพระราชวังเมฆาสวรรค์เขาไม่มีทางทำเช่นนั้น

แต่เขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนของถ้ำปีศาจทมิฬได้อย่างใด?

ยิ่งไปกว่านั้นความหมายของหรงซิวในตอนนี้ เขากำลังหมายถึงผู้อาวุโสถงชวนเป็นหนึ่งในแปดหัวหน้าพรรคถ้ำปีศาจทมิฬ?

เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็รู้สึกว่าคำพูดเหล่านี้ช่างไร้สาระ

หรงซิวเหลือบสายตามามองทางเขาเล็กน้อย พร้อมกับพยักหน้าแล้วยิ้มบางๆ

“ได้เลย”

ผู้อาวุโสถงชวนชะงักไปเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็ตระหนักได้ถึงคำพูดของหรงซิว นี่หมายความว่าเขามีหลักฐานจริงๆ ใช่หรือไม่

หลังจากนั้นเขาก็เชิดคางแล้วหันไปมองทางเสวี่ยเสวี่ย น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนเป็นอย่างยิ่ง

“ป้ายไม้ซาจี๋ของหัวหน้าถ้ำปีศาจทมิฬนั้นล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง หากใช้ฟันของสัตว์อสูรบดลงไป มันจะต้องได้ผลดีอย่างแน่นอน”

โฮก!

เสวี่ยเสวี่ยคำรามต่ำในลำคอ ก่อนจะสาวเท้าไปด้านหน้าหนึ่งก้าว จากนั้นก็คาบป้ายไม้แผ่นนั้นเอาไว้!

ฟันที่ขาวและแหลมคมของมันกัดเข้าที่ป้ายไม้แผ่นนั้นอย่างแรง ประกายความเย็นชาพวยพุ่งออกมา

หัวใจของผู้อาวุโสถงชวนเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรง จากนั้นเขาก็บังคับตัวเองให้สงบจิตใจลง

มันเป็นเพียงแค่อสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่ง หากต้องการทำลายป้ายไม้แผ่นนี้เกรงว่า…

“ฝ่าบาทระวัง!”

ทุกคนล้วนตกใจเป็นอย่างมาก!

ใครจะคิดเล่าว่าผู้อาวุโสถงชวนบอกว่าจะลงมือก็ลงมือในทันที อีกทั้งกระบวนท่าของเขานั้นยังร้ายกาจอย่างยิ่ง!

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกสะบัดชายเสื้อขึ้น พลังแห่งสวรรค์และโลกสายหนึ่งพุ่งตรงออกไปยังหน้าอกของผู้อาวุโสถงชวน!

อย่างใดก็ตามในตอนนั้นเองหมอกดำชั้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้นรอบกายของหรงซิวและผู้อาวุโสถงชวน ทันใดนั้นมันก็ควบรวมกลายเป็นม่านพลัง พร้อมผนึกพวกเขาทั้งสองคนเอาไว้!

พรึ่บ!

จากนั้นก็กระทบเข้ากับม่านพลังของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกจนเกิดเสียงดังสนั่น!

ม่านพลังสั่นสะเทือน ทำให้เกิดเป็นระลอกคลื่นแผ่กระจายออกมา แต่ก็ยังไม่พังทลาย!

สีหน้าของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกและคนอื่นๆ เปลี่ยนสีไปในทันที

ฝีมือของเขาแข็งแกร่งกว่าผู้อาวุโสถงชวนเล็กน้อย แต่เมื่อดูจากสถานการณ์ของม่านพลังนี้ เหมือนว่าผู้อาวุโสถงชวนจะสามารถสู้กับเขาได้อย่างสูสี!

และในตอนนั้นเอง!

เมื่อผู้อาวุโสถงชวนมาหยุดอยู่ตรงหน้า เขาก็ฟันลงอย่างรุนแรง!

ทุกคนกลั้นลมหายใจอย่างไม่รู้ตัว!

แต่หรงซิวกลับก้าวเท้าพลาดเพียงเล็กน้อยทำให้หลบการโจมตีที่แสนอันตรายนี้ได้!

คาดไม่ถึงว่าพื้นที่ว่างเปล่าด้านข้างของเขาจะถูกดาบสีดำฉีกออกอย่างรุนแรง!

เปลวเพลิงสีทองสายหนึ่งพวยพุ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของหรงซิว!

แม้การโจมตีจะผิดพลาด แต่ผู้อาวุโสถงชวนก็ไม่แยแสสนใจ เขาหันกลับมาแล้วฟันดาบไปทางเสวี่ยเสวี่ย!

เขารีบแย่งป้ายไม้นั้นกลับมาด้วยความรีบร้อน!

เสวี่ยเสวี่ยกระโดดขึ้นแล้วรีบหลบอย่างรวดเร็ว!

ผู้อาวุโสถงชวนตกใจเป็นอย่างยิ่งจนแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง

ความเร็วของอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้… สูงกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด!

เสวี่ยเสวี่ยกัดป้ายไม้แผ่นนั้น และรู้สึกโชคดีอย่างมากที่ก่อนหน้านี้นายท่านส่งมันไปที่ทะเลทรายจันทราสีชาด

มันหมุนตัวแล้วกระโจนออกจากหน้าต่างไปในทันที!

……….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์