เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1643

……….

เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งก้านธูป อาณาเขตเซียนเทพแห่งนั้นก็ถ่ายเทพลังลงไปในก้อนหินจนหมดสิ้นแล้ว

เมื่อแสงสีน้ำเงินสายสุดท้ายจางหายไป ทุกสิ่งรอบกายก็กลับคืนสู่ความเงียบสงบอย่างรวดเร็ว

เหมือนไม่มีอันใดเคยเกิดขึ้นมาก่อน

ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปเล็กน้อย

เมื่อครู่นี้… มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?

หรงซิวโน้มตัวไปหยิบก้อนหินก้อนนั้นมา แล้วมองพิจารณามันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นมา ใบหน้าเผยความสนใจ

“อย่างนี้นี่เอง…”

“มีอันใดหรือ?”

ฉู่หลิวเยว่ถามไปด้วย พร้อมโน้มตัวมาด้านหน้าด้วยความสงสัย

หรงซิวส่งหินก้อนนั้นให้กับนาง

ฉู่หลิวเยว่กวาดสายตามองอย่างระมัดระวัง

หินก้อนนี้มีขนาดเล็กเท่ากับกำปั้น รูปร่างผิดแปลกอย่างมาก ดูไปแล้วน่าจะเป็นหินที่แตกจากป้ายหลุมศพเหล่านั้น หินทั้งก้อนเป็นสีเทาขาว ดูไม่ค่อยแตกต่างจากหินธรรมดาเท่าไร

ทันใดนั้นเองฉู่หลิวเยว่ก็หรี่ตาลง เมื่อมองไปที่หินก้อนนั้น ก็เห็นตราประทับสีเงินขนาดเล็กเท่ากับเล็บมือปรากฏขึ้น

รอยประทับสีน้ำเงินนั้นเหมือนเพิ่งถูกแกะสลักได้ไม่นาน สีสันยังสดใสอย่างมาก

แค่คิดก็รู้ได้ทันทีแล้วว่าร่องรอยเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากอาณาเขตเซียนเทพถูกถ่ายเทลงไปด้านในแล้ว

เพียงแต่ตอนที่นางถือก้อนหินก้อนนั้นเอาไว้ในมือ นางไม่สามารถสัมผัสถึงการมีอยู่ของอาณาเขตเซียนเทพได้เลย และหินก้อนนี้ก็ไม่ได้มีอันใดแตกต่างก้อนหินธรรมดาเลย

ถ้านางไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง ฉู่หลิวเยว่ก็ยากจะทำใจเชื่อว่าอยู่ดีๆ อาณาเขตเซียนเทพแห่งหนึ่งจะไหลเข้าสู่ก้อนหินก้อนนั้นด้วยตนเอง

“เจ้าดูตราประทับสีน้ำเงินนั้นให้ละเอียดสิ” หรงซิวกล่าวเตือน

ฉู่หลิวเยว่ขยับตัวเข้าใกล้ขึ้นเล็กน้อย ทันใดนั้นเองนางก็ต้องรู้สึกตกใจ และหันมาสบสายตากับหรงซิว

“นี่มัน…คือ…สัญลักษณ์?”

คำสุดท้ายของฉู่หลิวเยว่นั้นเบาหวิวเป็นอย่างมาก

เพราะว่าตราประทับสีน้ำเงินนั้น มีขนาดเล็กเท่าเล็บเท่านั้น หากจะมองให้ชัดเจน นางจำเป็นที่จะต้องโน้มตัวเข้าไปดู

ใกล้ๆ และหลังจากนั้นนางถึงมองเห็นลายเส้นที่สลับซับซ้อนได้อย่างชัดเจน

หรงซิวพยักหน้า

“ดูเหมือนว่าอาณาเขตเซียนเทพแห่งนี้ จะเป็นเจ้าของของป้ายหลุมศพที่พังทลายนี้”

ไม่อย่างนั้นแล้วละก็อาณาเขตเซียนเทพจะไม่สามารถเข้าไปในก้อนหินก้อนนั้นได้อย่างเด็ดขาด

ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิด และคิดว่าคำพูดของหรงซิวนั้นก็มีความเป็นไปได้อย่างมาก

เพียงแต่ว่า…

“เจ้าของหลุมศพนี้น่าจะตายไปนานมากแล้ว แต่เหตุใดอาณาเขตเซียนเทพยังไม่จางหายไป? อีกทั้ง… กลับซ่อนอยู่ในที่แห่งนี้?”

ฉู่หลิวเยว่พูดและมองไปรอบข้างอีกครั้ง

เมื่อนึกถึงสถานการณ์ที่แปลกประหลาดเมื่อครู่นี้ ความคิดอันไร้สาระก็ปรากฏขึ้นในสมองของนางอย่างกะทันหัน

“ช้าก่อน! หรือว่า… อาณาเขตเซียนเทพเหล่านี้คือ…”

นางยังพูดไม่ทันจบ ฉู่หลิวเยว่ก็สัมผัสได้ว่ามีของบางอย่างกระทบกับปลายเท้าของนาง

นางรู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องหันไปมองว่า สิ่งนั้นจะต้องเป็นก้อนหินอีกก้อนอย่างแน่นอน!

นางก้มลงมองดูด้วยลำคอที่แข็งทื่อเล็กน้อย

และเป็นเช่นนั้นจริงๆ

แม้รูปร่างจะแตกต่างกัน แต่ก็เป็นก้อนหินก้อนหนึ่งจริงๆ

เสียงหนึ่งที่แผ่วเบาลอยเข้ามาในโสตประสาทของนาง เหมือนกับมีอันใดบางอย่างเข้ามาใกล้

เมื่อถึงด้านหน้าของทั้งสองคน สถานการณ์แบบเดียวกันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง!

พรึ่บ!

“หรือว่าคนพวกนั้นจะยังไม่ตาย?”

ฉู่หลิวเยว่พูดพึมพำเสียงต่ำออกมาอย่างอดไม่ได้

“ไม่ พวกเขาตายไปแล้ว”

หรงซิวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปเล็กน้อย แล้วหันมองหน้าเขาอย่างสงสัย

“เจ้า… เจ้ารู้ได้อย่างใด?”

หรงซิวผงะไป

“เพราะว่าอาณาเขตเซียนเทพเป็นสถานะไม่มีเจ้าของ”

“สถานะไม่มีเจ้าของ?”

“โดยปกติแล้ว เจ้าของสิ้นชีพวิญญาณสูญสลาย อาณาเขตเซียนเทพก็ไม่สามารถคงอยู่ต่อไปได้ แต่ที่แห่งนี้ไม่เหมือนกัน มีผู้แข็งแกร่งจำนวนมากมายที่ดับสูญในสงครามสุสานสังหารเทพเมื่อปีนั้น พลังของเขาได้ระเบิดและทำลายที่นี่โดยตรง หลังจากนั้นผ่านไปหมื่นปีพืชพันธุ์และต้นไม้ก็ยังไม่เติบโต”

“รัศมีแห่งความชั่วร้ายเข้าหลอมรวมกับวิญญาณผู้กล้าจำนวนมากที่แตกสลาย ทำให้พลังแห่งสวรรค์และโลกมีรอยด่างพร้อย และพลังทั้งหมดนั้นก็มารวมตัวกันจนก่อเกิดเป็นสถานะที่แปลกประหลาด”

“ผู้บำเพ็ญเพียรเหล่านั้นตายแล้ว แต่จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพวกเขาที่อยู่ในสงครามครั้งนั้นก็ยังเก็บรักษาเอาไว้ในป้ายหลุมศพและอาณาเขตเซียนเทพด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง”

“สรุปแล้วก็คือแม้ว่าผู้บำเพ็ญเพียรจะตายแล้ว แต่จิตวิญญาณในการต่อสู้ก็ยังคงอยู่”

ทันทีที่สิ้นเสียงของหรงซิว ฉู่หลิวเยว่ก็จมอยู่กับความตกตะลึงและเงียบงัน

ท้ายที่สุดแล้วมันคือสงครามแบบใดกันที่แม้เวลาผ่านไปหมื่นปีแต่จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ก็ยังคงอยู่?

มันต้องเป็นความหลงใหลแบบใด ถึงจะทำให้หลังจากร่างและวิญญาณถูกทำลายไปแล้ว แต่จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ก็ยังคงอยู่ในโลกไม่จางหายไปไหน?

“จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้…”

ฉู่หลิวเยว่กำก้อนหินที่อยู่ในมือแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม

“หรงซิว เจ้ารู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างใด?”

……….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์