……….
เขาลงมืออย่างกะทันหันเกินไป อีกทั้งยังมีความเร็วมาก!
กว่าทุกคนมีปฏิกิริยาตอบสนอง ของสิ่งนั้นก็ลอยมาอยู่ตรงหน้าฉู่หลิวเยว่แล้ว!
ฉู่หลิวเยว่มองมันตาเขม็ง
คาดไม่ถึงว่ามันคือคางคกหยกสีขาว!
คางคกหยกสีขาวนั้นถูกแกะสลักอย่างละเอียดอ่อน ผิวด้านนอกเป็นสีขาว แต่ยังสามารถเห็นกระดูกและเส้นเลือดที่เป็นสีแดงด้านในได้อย่างเลือนราง
ทว่าดวงตาสีดำขลับคู่นั้น ยิ่งทำให้ดูเย็นยะเยือกมากขึ้น จนทำให้ผู้คนรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
เมื่อมองไปแล้วมันดูสมจริงเป็นอย่างมาก ราวกับมีชีวิตอยู่จริงๆ!
ดวงตาของฉู่หลิวเยว่เย็นชาขึ้นมา
ดูเหมือนว่าหนานอวี่สิงผู้นี้ต้องการจะเอาชีวิตนางจริงๆ แม้กระทั่งของลักษณะแบบนี้ก็ยังเอาออกมาได้!
คางคกหยกตัวนั้น เป็นหยกเย็นที่แกะสลักมาตั้งแต่พันปีก่อน ซึ่งหายากเป็นอย่างมาก ทั้งร่างกายของมันเป็นพิษเข้มข้นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต!
หากต้องการเพิ่มพลังสูงสุดให้กับคางคกหยกตัวนี้ จำเป็นจะต้องใส่มันลงไปในร่างกายของผู้บำเพ็ญเพียรใช้แก่นปราณและเลือดเลี้ยงดูมัน
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร คางคกหยกตัวนี้ก็จะมีพลังที่แข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
แต่ว่าในกระบวนการนี้ผู้บำเพ็ญเพียรจะได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
อีกทั้งยิ่งผ่านไปนานมากเท่าไร การทรมานก็จะยิ่งน่ากลัวมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อพิจารณาจากคางคกหยกตัวนี้แล้ว หนานอวี่สิงน่าจะลงแรงกับเรื่องนี้ไปไม่น้อย
เมื่อเขาลงมือก็หยิบของสิ่งนั้นออกมาทันที เห็นได้ชัดว่าเขาหมายจะเอาชีวิตของนาง!
หรงซิวกำลังจะลงมือ ทันใดนั้นคิ้วของเขาก็เลิกขึ้นเล็กน้อย และชะงักการกระทำไปชั่วครู่
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตาลง เปลวเพลิงสีทองคำชาดกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏที่กลางฝ่ามือของนาง!
สายตาจ้องมองไปที่คางคกหยกที่กำลังลอยเข้ามา
ในตอนนั้นเอง ประกายคมมีดสีดำก็ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน!
เพล้ง!
ทั้งสองฝ่ายปะทะกันจนทำให้เกิดเสียงกระทบดังกังวาน!
จากนั้นคางคกหยกตัวนั้นก็ลอยกระเด็นออกไป ก่อนจะตกลงที่พื้น!
บริเวณหลังของมันมีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!
รอยยิ้มใบหน้าของหนานอวี่สิงที่ยังไม่ได้เผยออกมาอย่างเต็มที่ก็ต้องแข็งทื่ออย่างกะทันหัน
คางคกหยกตัวนี้เขาหลอมมาได้อย่างยากลำบาก ต้องใช้เวลาหนึ่งปีเต็มกว่าจะสำเร็จ!
โดยปกติแล้วเขาจะหวงแหนมันอย่างมาก น้อยครั้งมากที่จะหยิบออกมาใช้
คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกทำลายเช่นนี้!
ต้องบอกก่อนว่าเมื่อมีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้นมันก็ไม่สามารถซ่อมแซมได้!
เท่ากับว่าเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมานี้สูญเปล่าแล้ว!
เขาหันไปมองทางฉู่หลิวเยว่และหรงซิวด้วยสายตาโมโหระคนตื่นตระหนกมากกว่าเดิม เลือดลมที่อยู่ภายในพลุ่งพล่าน
“พวกเจ้า…”
“คุณชายหนานต้องขอบอกให้อย่างชัดเจนก่อนนะเจ้าคะ เมื่อครู่นี้ไม่ใช่ฝีมือของพวกเราทั้งสองคน”
เขายังไม่ทันได้พูดอันใด ฉู่หลิวเยว่ก็ชิงพูดออกมาก่อนแล้ว
หนานอวี่สิงโกรธมากจนรู้สึกเวียนหัว
“ถ้าไม่ใช่พวกเจ้า? แล้วจะเป็นใคร? ผีหรือไง!”
ผู้อาวุโสอูเผิงกลับขมวดคิ้วขึ้นมา
เมื่อครู่นี้เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าทั้งสองคนนี้ยังไม่ได้ขยับเขยื้อน
แต่ประกายคมมีดสีดำก็ปรากฏขึ้นที่กลางอากาศจริงๆ
เขาหันไปมองตามทิศทางประกายคมมีดสีดำนั้น
หลังจากคางคกหยกตัวนั้นตกลงไปแล้ว มันก็ลอยอยู่กลางอากาศอย่างเงียบเชียบ แสงสีดำที่เข้มข้นก็เหมือนดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่าง
ผู้อาวุโสอูเผิงรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“คุณชายใหญ่…”
เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าว เหมือนนึกอันใดบางอย่างขึ้นมาได้
ทันใดนั้นน้ำเสียงทุ้มต่ำแหบพร่าก็ส่งเสียงออกมาจากประกายคมมีดสีดำนั้น
“คนที่ข้าต้องการจะสังหาร จะให้คนอื่นแย่งไปได้อย่างใด”
เมินเฉย ดูแคลน น่าหวาดกลัว!
น้ำเสียงแฝงไปด้วยจิตสังหารเต็มเปี่ยม! แทบจะทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวสะท้าน!
ทันทีที่สิ้นเสียง แรงกดดันที่น่าหวาดกลัวก็คืบคลานเข้ามาในทันที!
เดิมทีหนานอวี่สิงบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว เพลิงโกรธของเขาปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากแรงกดดันที่บีบบังคับนี้ ทำให้เขาไม่สามารถรับได้ จากนั้นก็กระอักเลือดออกมา!
“ซั่งกวนเยว่ เจ้าก็ยังเป็นคนที่ชอบสร้างปัญหาเช่นเดิม ข้ามาสายเพียงครู่เดียว เจ้าก็สร้างศัตรูได้อีกคนหนึ่งแล้ว ดูเหมือนว่า… คนที่อยากสังหารเจ้าจะมีไม่น้อยเลยสินะ”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มออกมา
“ขอบคุณสำหรับคำชมเจ้าค่ะ ความจริงแล้วคนอย่างข้าไม่ได้ชอบก่อเรื่อง แต่เรื่องมักจะมาหาข้าด้วยตนเอง พวกเขาก็เป็นเช่นนี้ เจ้าก็… เป็นเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่หลิวเยว่ ผู้อาวุโสอูเผิงและคนอื่นๆ ก็ลอบรู้สึกตกใจขึ้นมา
ดูเหมือนว่า…
ซั่งกวนเยว่ผู้นี้จะรู้จักกับชายสวมชุดคลุมที่ดูลึกลับผู้นี้?
อีกทั้ง… นางสามารถคาดเดาได้ตั้งนานแล้วว่าอีกฝ่ายจะปรากฏกายออกมา!
ชายสวมชุดคลุมสีดำผู้นั้นหัวเราะขึ้นเสียงเย็น
“เจ้าก็ยังคงใจกล้าเช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลย”
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะเบาๆ แล้วพยักหน้า
“ข้าใจกล้าที่ใดกัน ท่านอยากให้ข้ามาตาย ข้าก็มานี่แล้วไม่ใช่หรือ?”
ทั้งสองคนพูดจากันแค่ไม่กี่คำ คลื่นใต้น้ำก็ปะทุขึ้น!
หนานอวี่สิงและคนอื่นๆ เหม่อมองด้วยความตกใจ
เมื่อได้ยินดังนี้ก็หมายความว่า…
เหมือนว่าก่อนหน้านี้พวกเขาได้นัดหมายกันเอาไว้ก่อนแล้ว และที่นี่คือสถานที่ตัดสินความเป็นความตาย?
เช่นนั้น…
เหมือนอีกฝ่ายจะสามารถสังเกตได้ถึงสายตาของพวกเขา ฉู่หลิวเยว่หันกลับไปมอง มุมปากยกยิ้มขึ้น กลายเป็นรอยยิ้มคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
“ข้าบอกไปแล้ว เมื่อครู่นี้สามีของข้ารู้อยู่แก่ใจที่จะช่วยเหลือพวกเจ้า แต่น่าเสียดายที่พวกเจ้าไม่รับเอาไว้… ตอนนี้เจ้าก็อยู่กับพวกเราที่นี่ต่อไปเถอะ ไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนแล้ว”
เมื่อผู้อาวุโสอูเผิงได้ยินดังนั้นก็สามารถตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้แล้ว
แม้ว่าเขาจะไม่ทราบถึงฐานะของอีกฝ่าย แต่เขาก็รู้ว่าฝีมือของอีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก หากเขาอยากจะรั้งให้พวกเราอยู่ที่นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายดายนัก!
แต่ที่พวกเขามาที่นี่เพื่อมาตามหาสิ่งของ ไม่ใช่มารนหาที่ตาย!
“เรื่องที่เกิดขึ้นภายในวันนี้เป็นความเข้าใจผิดกัน พวกเราไม่ได้คิดจะแย่งศัตรูของท่าน พวกเราจะจากไปบัดนี้ เพื่อเหลือพื้นที่ให้ท่านจัดการ”
ขณะที่ผู้อาวุโสอูเผิงพูดขึ้น เขาก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าว และเตรียมตัวพาทุกคนจากไป
“ช้าก่อน”
……….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...