เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1660

……….

หลังจากนั้นไม่นานรอบกายของฉู่หลิวเยว่ก็มีก้อนหินกระจายอยู่ทั่วพื้นดิน

วุ่นวายสับสน ดูแล้วไม่เป็นระเบียบ

ชายสวมชุดสีดำกลับมีท่าทีสับสนมากยิ่งขึ้น

เหตุใดอยู่ดีๆ ถึงมีก้อนหินปรากฏขึ้นมากมายขนาดนี้?

หรือว่าการสร้างค่ายกลของซั่งกวนเยว่ต้องยืมพลังจากก้อนหินเหล่านี้?

ก้อนหินที่ดูอัปลักษณ์และไม่น่ามีอันใดพิเศษเหล่านี้ จะมีดีที่ตรงไหนกัน?

แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดมันกลับดูคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก…

พรึ่บ…

คลื่นเสียงอันแผ่วเบาดังขึ้นอย่างกะทันหัน

กระแสเสียงนั้นต่ำมาก ถ้าหากไม่ได้ฟังดีๆ ก็ไม่สามารถได้ยินอย่างชัดเจน

เพียงแต่สภาพแวดล้อมในตอนนี้เงียบเป็นอย่างยิ่ง และด้วยชายชุดดำที่มุ่งความสนใจไปยังฉู่หลิวเยว่อยู่ตลอด ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดเขาจึงสามารถจับสังเกตกระแสเสียงนี้ได้

ตอนที่เขากำลังรู้สึกสงสัยลำแสงสีน้ำเงินสายหนึ่งก็พุ่งออกมาจากก้อนหินอย่างกะทันหัน แรงกดดันอันมหาศาลแทบจะทำให้หายใจไม่ออก แต่ทันใดนั้นลำแสงสีน้ำเงินฉีกแรงกดดันอันมหาศาลเป็นรูเล็กๆ

ในที่สุดชายที่สวมชุดดำก็ตระหนักอันใดได้บางอย่าง

“นั่นมัน… อาณาเขตเทพเซียน?”

ภายในกระแสเสียงของเขายังมีความไม่อยากจะเชื่อแฝงอยู่

ไม่ใช่เพียงแค่เพราะว่าภายในก้อนหินนั้นมีอาณาเขตเทพเซียนไหลออกมา แต่เพราะว่า… ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าเหตุใดถึงรู้สึกคุ้นตาก้อนหินเหล่านี้!

… นั่นไม่ใช่ก้อนหินที่แตกมาจากป้ายหลุมศพของผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูงหรือ?

แล้วเหตุใดของสิ่งนี้ถึงมาอยู่รอบกายของฉู่หลิวเยว่ได้?

ชายสวมชุดดำรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดี เหมือนว่าตนเองได้มองข้ามเรื่องสำคัญอันใดไป

ขณะที่เขากำลังลังเลและตกใจ อาณาเขตเทพเซียนที่ไหลออกมาจากก้อนหินเหล่านั้นก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

แม้ว่าอาณาเขตเทพเซียนจะกระจัดกระจาย ทว่าทุกอันนั้นมีขนาดเล็กมาก พลังก็อ่อนแอ

แต่เพียงเล็กน้อยก็สะสมจนมีขนาดใหญ่

รอบกายของฉู่หลิวเยว่อย่างน้อยมีก้อนหินกระจัดกระจายอยู่ร้อยกว่าก้อน

เมื่อรวมกันแล้วอย่างน้อยก็มีอาณาเขตเทพเซียนร้อยกว่าแห่ง!

แต่ประเด็นสำคัญที่สุดเลยก็คือ ดูเหมือนว่าอาณาเขตเทพเซียนเหล่านี้จะทำความเข้าใจกันโดยปริยาย

พวกมันมีฉู่หลิวเยว่เป็นศูนย์กลาง โดยพวกมันล้อมรอบตัวนางเป็นระลอกคลื่นอันไร้เสียง จากนั้นแรงกดดันที่มองไม่เห็นก็ถูกฉีกเป็นรูเล็กรูน้อย

ฉู่หลิวเยว่ได้รับการคุ้มครองจากอาณาเขตเทพเซียนเหล่านี้อย่างเงียบเชียบ

แรงกดดันรอบกายก็ค่อยๆ ลดน้อยถอยลงไป ทำให้ฉู่หลิวเยว่ต้องเบิกตากว้างขึ้นอย่างตกใจ

หลังจากเห็นก้อนหินและอาณาเขตเทพเซียนเหล่านั้น นางก็รู้สึกตกใจมากเช่นกัน

เพราะว่าเมื่อครู่นี้นางกำลังคิดค้นหาวิธีสร้างค่ายกลให้สำเร็จในเวลาอันสั้นที่สุด เพื่อต่อต้านการโจมตีของชายชุดดำผู้นั้น

คิดไม่ถึงเลยว่าก้อนหินเหล่านี้จะกระโดดออกมาจากแหวนเฉียนคุนด้วยตนเอง

อีกทั้ง… ยังออกมาปกป้องนางอย่างแข็งขัน?

ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ ภายในใจของนางรู้สึกสับสนขึ้นมาครู่หนึ่ง

ตัวนางเอกยังไม่มีเวลาอัญเชิญอาณาเขตเทพเซียนของตนเองออกมาได้ แต่…

จากนั้นนางก็เงยหน้าขึ้นแล้วมองไปทางชายสวมชุดสีดำอีกครั้ง

แม้ว่านางจะมองไม่เห็นใบหน้าของเขา แต่นางสามารถสัมผัสได้ถึงลมปราณบนร่างกายของอีกฝ่ายนั้นได้เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งดูดุร้ายและอันตรายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

เมื่อคิดถึงตรงนี้ริมฝีปากของฉู่หลิวเยว่ก็ยกยิ้มขึ้น

ความช่วยเหลือครั้งใหญ่นี้ ทำให้นางมีโอกาสชนะมากขึ้น

“คาดไม่ถึงว่า… นี่คือสิ่งที่เจ้ามีทั้งหมดแล้วหรือ?”

ชายสวมชุดดำยกมือขึ้นแล้วชี้ไปทางฉู่หลิวเยว่

“ซั่งกวนเยว่ บังอาจยิ่งนัก!”

น้ำเสียงของเขาแหลมขึ้นเล็กน้อย เพราะความตื่นตระหนก แต่เขาก็สามารถระงับอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว เหมือนรู้สึกกังวลอันใดบางอย่าง

ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วเล็กน้อย

“ขอบคุณที่ชม เจ้าก็รู้จักข้ามานานแล้ว หรือว่าเจ้าเพิ่งรู้หรือว่าข้าเป็นคนอย่างใด?”

ความจริงแล้วก้อนหินเหล่านี้นางไม่ได้เป็นคนเริ่มเก็บมา แต่เป็นเพราะพวกมันยืนกรานจะติดตามนาง นางเองก็ไม่มีทางเลือก จากนั้นจึงเก็บพวกมันเอาไว้ในแหวนเฉียนคุน

เดิมทีนางเองก็ไม่ได้ใส่ใจมากเท่าไร แต่ว่าตอนนี้…

“ใช่แล้วขอรับ ก่อนหน้านี้เยว่เออร์ได้ทะลวงด่านเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูง”

ด้วยสถานการณ์พิเศษเช่นตอนนี้ หรงซิวไม่มีเวลาอธิบายให้ละเอียด อีกทั้งอาณาเขตเทพเซียนของนางไม่ใช่ว่าเพิ่งมีในตอนนี้ แต่นางมีอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว

ภายในช่วงเวลาที่ผ่านมา อาณาเขตเทพเซียนของนางก็ถูกสะกดไว้ในเขาเฝิงหมิน

“…ที่แท้ก็เป็นอาณาเขตเทพเซียน…”

แม้ว่าฉู่หนิงจะสามารถเข้าใจอันใดได้บางอย่าง แต่ใบหน้ายังดูสับสนเล็กน้อย

เขาหลุบตาลงต่ำแล้วมองมือทั้งสองข้างของตนเอง

คราบเลือดเปรอะเปื้อน บาดแผลมากมาย

แต่ในสายตาของเขาแล้ว เหมือนเขากำลังมองสิ่งของอย่างอื่นโดยมองทะลุมือทั้งสองข้าง

เมื่อเห็นว่าเขาเงียบไปครู่หนึ่ง หรงซิวก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

“ใต้เท้าฉู่หนิง เป็นอันใดไปหรือ?”

ฉู่หนิงถอนสายตากลับมา แล้วส่ายหน้า

“ไม่มีอันใด… เพียงแต่ข้ารู้สึกว่าหลังจากแยกกับเยว่เออร์ในครั้งนี้ เยว่เออร์ได้เปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว…”

ตอนที่แยกจากกันครั้งที่แล้ว นางเพิ่งจะอยู่ในระดับใดกันนะ?

แต่ว่าตอนนี้คาดไม่ถึงว่านางจะก้าวหน้าจนอยู่ในระดับนี้แล้ว

หรงซิวกำลังจะพูดขึ้น แต่ก็ได้ยินเสียงของฉู่หนิงที่ต่ำลงหลายส่วนอย่างกะทันกัน

“นางคงจะทรมานมากสินะ?”

เขาถามขึ้นอย่างระมัดระวัง แต่กลับไม่สามารถปกปิดความโศกเศร้าและเสียใจได้

คำพูดของหรงซิวติดค้างอยู่ในลำคอ

เขามองไปทางฉู่หนิง แววตาดำมืดลงเล็กน้อย

ทุกคนมองแต่ด้านที่สว่างเจิดจ้าของนาง

มีเพียงคนที่รักนางจริงเท่านั้น ถึงจะมองเห็นว่านางลำบากและพยายามมากเพียงใด

หลังจากผ่านไปสักพัก หรงซิวก็ค่อยๆ กำหมัดแน่นแล้วพูดขึ้นว่า

“ท่านวางใจเถอะ มีข้าอยู่ ข้าจะปกป้องนางและทำให้นางมีความสุข”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์