……….
ในตอนที่ฝ่ามือสีดำทั้งสองของเขากำลังเคลื่อนตัวเข้ามา และกำลังจะสัมผัสกับร่างกายของฉู่หลิวเยว่ได้สำเร็จ
อย่างใดก็ตามเมื่อมันอยู่ห่างจากฉู่หลิวเยว่เพียงหนึ่งก้าว พวกมันก็หยุดพร้อมกันโดยกะทันหัน และไม่สามารถสาวเท้าขึ้นมาอีกก้าวได้
เหมือนว่าตรงหน้ามีอันใดบางสิ่งบางอย่างที่น่ากลัว จนทำให้พวกมันรู้สึกหวาดกลัว
โล่สีดำที่อยู่ด้านหน้าของฉู่หลิวเยว่ก็ลอยอยู่อย่างเงียบเชียบ
หากมองไปเพียงแค่ครู่เดียวก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอันใดพิเศษ
แต่ในที่สุดฝ่ามือสีดำทั้งสองข้างนั้นกลับหยุดลง และไม่ได้เดินหน้าต่อ
เหมือนว่าชายสวมชุดคลุมสีดำจะสามารถคาดเดาเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงกัดฟันแล้วพูดว่า
“…คาดไม่ถึงว่าเจ้ายังจะมีไพ่ไม้ตายใบนี้อยู่…”
น้ำเสียงนั้นเย็นชาและดุร้าย
ฉู่หลิวเยว่หลับตาลง และยังคงสร้างค่ายกลที่อยู่ตรงหน้าต่อไป ราวกับไม่ได้ยินอันใดทั้งสิ้น
หรือบางทีนางอาจจะได้ยิน แต่ก็ไม่ได้สนใจ
ตั้งแต่ผ่านสงครามที่เขาหมื่นเมรัย นางก็ได้รู้ว่า โล่สีดำอันนี้เป็นไพ่ไม้ตายในหมู่ไพ่ไม้ตายของนาง แข็งแกร่งยิ่งกว่ากระบี่ชื่อเซียวเสียอีก!
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีที่น่ากลัวในตอนแรก นางก็อาศัยใช้โล่สีดำอันนี้เอาชีวิตรอดมาได้ ดังนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงสถานการณ์ในตอนนี้เลย?
ชายสวมชุดคลุมสีดำผู้นั้นแข็งแกร่ง แต่ไม่ได้แข็งแกร่งจนอยู่ระดับผู้ชนะสิบทิศ!
แม้ว่านางจะสู้ไม่ได้ แต่การเอาชีวิตรอดก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น!
…
ภายใต้การปกปักษ์ของโล่สีดำ ดังนั้นการต่อสู้ครั้งนี้จึงไม่มีอันใดน่าหวั่นวิตก และการต่อสู้ก็หยุดลงชั่วคราว
ภาพเหตุการณ์เหมือนหยุดนิ่งไป เวลาค่อยๆ เคลื่อนผ่านอย่างเชื่องช้า
ตรงหน้าของฉู่หลิวเยว่มีเพียงค่ายกลที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่องเท่านั้น อีกทั้งยังดูซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
“ดูสิว่าเจ้าจะหลบซ่อนตัวไปได้ถึงเมื่อใด!”
นางสามารถยื้อเวลาซ่อนตัวอยู่ด้านหลังโล่สีดำเป็นช่วงเวลาหนึ่ง
แต่นางไม่สามารถซ่อนตัวไปได้ตลอดชีวิต!
ส่วนค่ายกลนี้นั้น…
เขาไม่คิดว่า ฉู่หลิวเยว่จะมีความสามารถด้านนี้!
ทั้งสองฝ่ายกำลังเข้าสู่ทางตัน
ฉู่หนิงกวาดสายตามองผู้คนหลายคน จากนั้นก็ขมวดคิ้วแน่น
เขาสามารถมองสถานการณ์ปัจจุบันออก แต่กลับรู้สึกว่ามีหลายจุดที่มันแปลกประหลาดอย่างมาก
เหตุใดชายสวมชุดสีดำคนนั้นถึงต้องการหยวนตันของเยว่เออร์?
เยว่เออร์ต้องการต่อกรกับอีกฝ่ายด้วยค่ายกล แต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่?
อีกทั้ง… ตั้งแต่ต้นจนจบชายสวมชุดสีดำคนนั้นก็ไม่ได้มองมาทางนี้เลย
เขาไม่ได้มองมาทางหรงซิว หรงซิวก็ยืนมองอยู่ด้านข้างตลอด ไม่ได้ลงมือ
พวกเขา…นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?
ในเมื่อไม่สามารถเข้าใจได้ ฉู่หนิงจึงขอยอมแพ้
สองมือของเขากำหมัดแน่น แล้วภาวนาภายในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เยว่เออร์จะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน…
…
หลังจากหนานอวี่สิงและคนอื่นๆ เดินทางห่างออกมาสักระยะหนึ่งแล้ว จนแน่ใจว่าไม่มีใครตามมาในที่สุดพวกเขาก็ชะลอความเร็วลง
พวกเขาทั้งสี่คน หนานอวี่สิงและผู้อาวุโสไป๋ถงได้รับบาดเจ็บสาหัส หนานอีอีบาดเจ็บเล็กน้อย
มีเพียงผู้อาวุโสอูเผิงที่สภาพดีกว่าคนอื่นเล็กน้อย แต่การสูญเสียอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งราชาที่เขาเป็นคนหลอมด้วยตนเองนั้น ก็ส่งผลกระทบต่อเขาไม่น้อยเช่นกัน
พวกเขาทั้งหลายหาที่นั่งเพื่อหยุดพัก จากนั้นค่อยจัดการบาดแผลของตนเอง
หนานอวี่สิงยังดีหน่อยที่ไม่ได้มีการต่อสู้ซึ่งหน้า เพียงแต่ธาตุไฟเข้าแทรกหัวใจเท่านั้น อาการบาดเจ็บภายในจึงรุนแรงกว่าเล็กน้อย แต่ก็อยู่ในขอบเขตที่สามารถควบคุมได้
สถานการณ์ของผู้อาวุโสไป๋ถงเลวร้ายที่สุด
ขาถูกตัดไปข้างหนึ่ง
ต่อให้เขาจะเป็นเซียนหมอ ในตอนนี้ก็สามารถทำได้เพียงห้ามเลือด และรักษาบาดแผลเท่านั้น
ขาของเขาถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แม้กระทั่งจะเย็บกลับให้เป็นเหมือนเดิมก็ยังไม่มีโอกาสเลยด้วยซ้ำ
สิ่งนี้กระทบต่อการบำเพ็ญเพียรเป็นอย่างมาก
พวกเขาทั้งหลายล้วนตกอยู่ในความเงียบ บรรยากาศเย็นยะเยือกและกดดัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...